
ตลาดสุกี้ในปัจจุบันอยู่ในภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งแบรนด์เก่าและแบรนด์ใหม่ต่างงัดไม้เด็ดมาแย่งชิงลูกค้าอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน เทรนด์ผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์ที่เคยเป็นเจ้าตลาดอย่าง MK Restaurants ภายใต้เครือ MK GROUP ต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้าเก่าและเจาะกลุ่มใหม่ได้ตรงใจยิ่งขึ้น
ก้าวแรกของ MK กับแคมเปญแปลกใหม่ช่วงตรุษจีน
- พลิกโฉมเป็น “MongKol Restaurants”
การเปลี่ยนโลโก้หน้าร้านจาก MK Restaurants เป็น “MongKol Restaurants” ในรอบ 39 ปี นับเป็นการสร้างเสียงฮือฮาและสร้าง Engagement สูงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นการกระตุ้นความสนใจจากลูกค้าและโลกออนไลน์ สอดรับกับเทศกาลตรุษจีนที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญด้าน “ความมงคล”
- เปิดตัว “หมี่หยกยืนยาว 99 ซม.”
แคมเปญหมี่หยกเส้นยาวเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ผู้บริโภคตื่นตัว เน้นความยาวพิเศษ 99 ซม. สื่อถึงความมงคลและความยืนยาว ส่งผลให้ยอดขายเติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กลยุทธ์ปูพรมสู่ช่องทางใหม่
- การจับมือกับ 7-Eleven
MK ได้เปิดตัว “ชุดบะหมี่หยก ลูกชิ้นรวมมิตร” ราคา 69 บาท ใน 7-Eleven การยกเมนูยอดนิยมจากร้านสุกี้ระดับตำนานมาวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ เป็นการขยับเข้าสู่ตลาดค้าปลีกที่กว้างขึ้น ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ “สะดวก-รวดเร็ว” ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
- คอนเทนต์ไวรัล “น้ำจิ้มสุกี้”
MK สร้างกระแสด้วยการทำคอนเทนต์น้ำจิ้มสุกี้ในโซเชียล จนกลายเป็นไวรัล กระตุ้นให้มีการพูดถึงหลากมุมมอง ทั้งแง่ความคลาสสิกและความเข้าถึงง่าย ช่วยให้แบรนด์กลับมาอยู่ในกระแสบนโลกออนไลน์อย่างเห็นได้ชัด
ต่อยอดความสำเร็จ ด้วย “หมู มาราธอน”
- เจาะกลุ่ม GEN Y - GEN Z
MK Restaurants ไม่หยุดเพียงแคมเปญในช่วงเทศกาล ล่าสุดเปิดตัว “หมู มาราธอน” เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้นที่ต้องการความคุ้มค่าโดยเฉพาะ
- ความคุ้มค่าในรูปแบบ ‘บุฟเฟต์หมู’
ลูกค้าสามารถสั่งเมนูหมูสไลซ์ 4 ชนิด (หมูนุ่ม หมูนุ่มโรยงา สันคอหมูสไลซ์ และคุโรบูตะสเปเชียลสไลซ์) แบบไม่อั้นถึง 90 นาที เพียงซื้อชุดหมูเริ่มต้น 385 บาท (1 ชุด ต่อ 1 โต๊ะ) แล้วบวกเพิ่มอีก 159 บาทต่อคน นับเป็นกลยุทธ์การตั้งราคาและออกโปรโมชันที่สะท้อนความเข้าใจพฤติกรรม “กินคุ้ม” ของลูกค้าหนุ่มสาวในยุคนี้
- กระแสตอบรับ
ทันทีที่เปิดตัวแคมเปญใหม่ รูปภาพการต่อคิวหน้าร้านกระจายเต็มโซเชียล สะท้อนถึงความพร้อมในการจ่ายของผู้บริโภคเพื่อแลกกับความคุ้มและประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สนุกสนาน
มุมมองเชิงวิเคราะห์: กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกของ MK
- จับกระแสความต้องการผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ
- การชูเทศกาลตรุษจีน ผนวกกับจุดขาย “ความมงคล” ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคคนไทยเชื้อสายจีนที่ให้ความสำคัญกับความเป็นสิริมงคล ขณะเดียวกันก็สร้างสีสันให้กับลูกค้าทุกคน
- ใช้ “อารมณ์ร่วม” สร้าง Engagement
- การเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ และโปรโมชันสุดแปลกใหม่ช่วยสร้าง Talk of the Town ดึงคนเข้าร้าน เพิ่มโอกาสขายและสร้างประสบการณ์ประทับใจร่วมกัน
- ขยายช่องทางขายสู่ค้าปลีก
- การมีสินค้าใน 7-Eleven ทำให้เข้าถึงกลุ่มคนได้กว้างขึ้น และเป็นการสร้าง Brand Awareness ต่อเนื่อง เหมาะกับชีวิตที่เร่งรีบและช่วงเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคบางกลุ่มมองหาความคุ้มค่า
- ชัดเจนในกลุ่มเป้าหมาย
- โปรฯ “หมู มาราธอน” โดนใจผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการ “คุ้มค่า-ได้มาก” โดยไม่ต้องลดคุณภาพ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ MK ในฐานะแบรนด์ที่เข้าอกเข้าใจไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน
จากการเดินหมากแคมเปญใหม่ๆ ตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน MK Restaurants ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ต้องการก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ “Top of mind” ทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ โดยให้ความสำคัญกับแนวคิดการตลาดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Marketing) ซึ่งไม่เพียงแค่กระตุ้นยอดขายในระยะสั้น แต่ยังเพิ่มมูลค่าแบรนด์ (Brand Equity) ในระยะยาวอีกด้วย
MK Restaurants สามารถจุดกระแสแบรนด์ให้คึกคักได้สำเร็จ ผ่านกลยุทธ์เน้นสร้างสีสัน กระตุ้นความสนใจ พร้อมแตกไลน์สินค้าลงในช่องทางใหม่ โดยตั้งเป้าหมายไปที่กลุ่มเป้าหมายหลากหลาย สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มเดินหน้าออกแคมเปญใหม่อย่างต่อเนื่อง หาก MK ยังคง “อ่านเกมขาด” และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำเช่นนี้ ก็มีโอกาสกลับมาสร้างปรากฏการณ์และรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดสุกี้ต่อไปในระยะยาวอย่างแข็งแกร่ง
“อยากให้ทุกคนรอติดตามว่าปีนี้ แบรนด์ MK Restaurants และแบรนด์อื่นในเครือของ MK GROUP จะทำแคมเปญอะไรอีก รับประกันว่าจะสนุกขึ้นและหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนที่ผ่านมา”
ทานตะวัน ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
[อ่าน 14,726]