การบินไทย ได้ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 51,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 45,955 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 12.3% โดยบริษัทสามารถรักษาอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ที่ 83.3% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการการเดินทางของผู้โดยสารที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การขยายฝูงบินและเพิ่มเที่ยวบิน เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถขยายปริมาณการผลิต (ASK) และปริมาณขนส่งผู้โดยสาร (RPK) ได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21.1% และ 20.8% ตามลำดับ สะท้อนถึงความสำเร็จในการปรับตัวและตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น
นายชาญชัย ศิรินุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเติบโตในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เป็นผลจากความพยายามในการฟื้นฟูธุรกิจและการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการของเรา เรายังคงมุ่งมั่นในการขยายบริการและฝูงบินที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้โดยสารและผลักดันให้เราเติบโตต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นได้ดี แต่บริษัทก็เผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขยายการบริการ การปรับตัวตามการเติบโตและการเพิ่มเครื่องบินใหม่ โดย ค่าใช้จ่ายรวม ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 37,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 8.8% ซึ่งเกิดจากการขยายปริมาณการผลิตและการให้บริการที่เพิ่มขึ้น
ในส่วนของ การจัดการต้นทุน การบินไทยยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างน่าพอใจ โดยมี กำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน อยู่ที่ 13,661 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2,586 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร (EBIT Margin) ที่ 26.5%
การบินไทยยังมี แผนขยายฝูงบิน ต่อเนื่อง โดยบริษัทจะทยอยรับมอบเครื่องบินรุ่นใหม่ Airbus A321 Neo ที่มาพร้อมกับระบบความบันเทิงส่วนตัวในทุกที่นั่งและบริการ Wi-Fi ฟรีสำหรับสมาชิก Royal Orchid Plus ทุกระดับสถานะ
นายชาญชัย กล่าวเสริมว่า “การปรับปรุงฝูงบินและเทคโนโลยีการบินคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของเรา ในการที่จะสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้โดยสาร และยกระดับบริการที่มีคุณภาพ”
นอกจากการขยายฝูงบินแล้ว บริษัทฯ ยังได้ ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (In-flight Connectivity) บนเครื่องบินแบบแอร์บัส A330-300 ซึ่งเริ่มให้บริการแล้วบนเครื่องบิน 2 ลำแรก และจะขยายการบริการไปยังเครื่องบินอื่นๆ ในอนาคต
การเติบโตและการฟื้นตัวของการบินไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ยังสะท้อนถึงการปฏิรูปและการปรับโครงสร้างทุนที่บริษัทได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดย สินทรัพย์รวม ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 297,753 ล้านบาท และ หนี้สินรวม ลดลง 4,605 ล้านบาท
ในขณะที่การบินไทยกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางใหม่ของการฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ ได้มีการอนุมัติให้ จดทะเบียนเลิกกิจการบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบินที่สำเร็จลุล่วง
การที่บริษัทสามารถ ออกจากการฟื้นฟูกิจการ ได้อย่างเต็มรูปแบบและ บรรลุผลกำไรสะสม จากผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การบินไทยมีความพร้อมในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต
การบินไทยกำลังเดินหน้าฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งทั้งในด้านการบริการและการจัดการต้นทุน สอดคล้องกับแผนการขยายฝูงบินและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดการบิน พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสารผ่านเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การเดินทางในยุคดิจิทัล