ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนคนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์อย่างทั่วถึง พร้อมเสริมสร้างทักษะในการจัดการทางการเงินให้กับลูกค้าประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะข้างหน้า

โดยธนาคารมุ่งมั่นเสริมสร้างทักษะในการบริหารจัดการทางการเงินให้กับเยาวชนไทยผ่านโครงการ “กรุงไทยรัก Smart University” ภายใต้โครงการกรุงไทยรักชุมชน เพื่อให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ร่วมกับการสร้างวินัยและวางแผนทางการเงินที่ดี การใช้เครื่องมือทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจน สร้างการตระหนักรู้ถึงภัยทางการเงิน

ทั้งการสร้างความเข้าใจและให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพ ป้องกันการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมออนไลน์ โดยธนาคารเชื่อมั่นว่า องค์ความรู้เหล่านี้จะเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในการบริหารจัดการการเงินให้มั่นคงและยั่งยืน เป็นเกราะป้องกันที่ช่วยให้เยาวชนสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมั่นใจพร้อมรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต

โครงการ “กรุงไทยรัก Smart University” ออกแบบครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางการเงินแก่คนรุ่นใหม่ แบ่งเป็นสองส่วน

• การให้ความรู้ทางการเงินพื้นฐาน : สร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ถึงความสำคัญในการวางแผนทางการเงิน สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผ่านการทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวัน รู้จักเครื่องมือทางการเงิน การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน การออม การป้องกันภัยทางการเงิน

• กิจกรรม Focus Group : เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านการเงินในเชิงลึก ตั้งเป้าหมายการออมและวางแผนการใช้เงินอย่างเป็นระบบ และเสริมองค์ความรู้ด้านการลงทุน การป้องกันหนี้สิน ประกันภัย การวางแผนเกษียณและภาษี  มีการติดตามพฤติกรรมการเงินของผู้เข้าร่วมระยะเวลา 8 สัปดาห์ เพื่อประเมินผลและสร้างนิสัยการบริหารการเงินที่ยั่งยืน

ปิดท้ายโครงการด้วยกิจกรรม Bootcamp ที่ใช้บอร์ดเกมการเงินเป็นสื่อกลางในการสรุปองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ นักศึกษา

ในปี 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารได้ขยายการเรียนรู้ผ่านโครงการดังกล่าว โดยมีพนักงานจิตอาสาจาก โครงการ VVE Vayu Volunteer ของธนาคาร ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการจัดการความรู้ทางการเงิน ลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ไปยังมหาวิทยาลัย 10 แห่งทั่วประเทศ รวม 9,118 ชั่วโมงการเรียนรู้ โดยมีนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมการให้ความรู้ทางการเงินพื้นฐานกว่า 3,274 คน และเข้าร่วมกิจกรรม Focus Group กว่า 753 คน

ซึ่งพบว่า ผู้เข้าร่วมฯ มีการบริหารการเงินและระดับความรู้ทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 66.34% โดยปัจจัยที่ช่วยให้เกิดพฤติกรรมทางการเงินที่ดีขึ้นมาจากการวางแผนอย่างเป็นระบบ 3 ด้าน ได้แก่ การออมก่อนใช้ การลดรายจ่าย และการตั้งเป้าหมายอย่างมีวินัย โดยน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการสะท้อนความคิดเห็นว่า สิ่งที่ได้รับจากโครงการได้เปลี่ยนแปลงวิธีคิดและพฤติกรรมการใช้จ่ายของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง

“เมื่อก่อนเป็นคนที่ฟุ่มเฟือย ซื้อของไม่ดูราคาใช้จ่ายแต่ละเดือนเยอะมาก และไม่มีเงินเก็บ หลังเข้าร่วมโครงการฯ การใช้เงินเป็นไปในทางที่ดีขึ้น คิดก่อนซื้อว่าจำเป็นไหม เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนตัดสินใจ และใช้ของเดิมให้หมดก่อนแล้วค่อยซื้อใหม่ และเมื่อได้จดรายรับรายจ่าย ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้จ่าย และทำให้มีเงินเก็บออม รู้สึกภูมิใจที่ทำได้ ขอบคุณกรุงไทยที่ทำโครงการดีๆ แบบนี้”  จีรวรรณ กัณธวงค์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าว

ด้าน ธนกร เกียรตินภา จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กล่าวว่า "สิ่งที่ช่วยให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินได้ คือ การรู้จักตัวเอง และมีความรู้ทางการเงินที่ถูกต้อง นำสิ่งที่เรียนรู้จากโครงการมาปรับใช้กับชีวิตจริง ทำให้การใช้จ่ายเป็นระบบขึ้นมาก และมีเงินเก็บที่เป็นรูปธรรม"

จากเสียงสะท้อนของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ "กรุงไทยรัก Smart University" เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของธนาคาร ภายใต้โครงการกรุงไทยรักชุมชน ในความมุ่งมั่นและตั้งใจส่งต่อองค์ความรู้และบ่มเพาะเยาวชนไทยให้มีทักษะทางการเงินที่แข็งแกร่ง นำไปปรับใช้กับชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงของเยาวชนไทย สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) และเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”