โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ฉลองครบ 20 ปี ‘ยืนหนึ่งแบบไร้คู่แข่ง’
10 Jul 2019

โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ฉลองครบรอบ 20 ปีอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมจับมือพันธมิตรจัดหนักแคมเปญฉลองต่อเนื่อง หวังดันยอดขายเพิ่มขึ้น 10% มุ่งพัฒนายุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และบริการ สร้างรอยัลตี้แบรนด์มัดใจผู้บริโภค 

สุพจน์ ธีระวัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาของการทำธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ มา 20 ปี โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้มอบความสุข ความสนุกสนาน ความอบอุ่นและเป็นกันเองให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการทั้ง 3 สาขา ได้แก่ พระราม 3, รามอินทรา และแจ้งวัฒนะ

โดยมีทั้งลักษณะสังสรรค์กับครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง รวมถึงการจัดเลี้ยง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีลูกค้าใช้บริการทั้งปี รวม 3 สาขา จำนวน 8.5 แสนคน สัดส่วนสาขาที่มากที่สุดคือพระราม 3 ราว 38% รามอินทรา 36% และแจ้งวัฒนะ 26%

“ภาพรวมเราเชื่อว่าเราเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ในประเภทธุรกิจไมโครบริวเวอรี่ ซึ่งลูกค้าต่างชาติที่อยู่เมืองไทย (Expat) มากกว่า 50% รู้จักร้านเรา และในแง่นักท่องเที่ยว (Tourist) ก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนตามไกด์บุ๊คต่างๆ ปัจจุบันนี้ ผมไม่กล้าพูดว่าเราไม่มีคู่แข่ง แต่ไมโครบริวเวอรี่ที่มีมาก่อนโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ก็ไม่เห็นว่าเหลือใครอีกแล้ว ส่วนกลุ่มที่เดินตามแล้วพยายามลอกเลียนแบบเรา ก็ไม่เห็นว่าเหลือใครอีกเช่นกัน

คู่แข่งที่สำคัญคือตัวเราเอง ที่ต้องขยัน มุ่งมั่นในการบำรุงรักษาและพัฒนา ในแง่ของการเติบโต 20 ปีที่ผ่านมา ยอดขายเราโตขึ้น โดยวัดตามอัตราการบริโภคต่อหัวที่เพิ่มขึ้น จากเดิมช่วงเปิดใหม่ๆ จะอยู่ที่ 300 แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 700-800 บาทต่อหัว อาจเพราะราคาสินค้า ค่าครองชีพต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นตามยุคสมัย ขณะที่ในแง่ยอดขายเมื่ออัตราบริโภคต่อหัวสูงขึ้น ก็ทำรายได้ให้เราสูงขึ้น ผมหวังเพียงว่าให้โตสัก 10% ต่อปี ปัจจุบันยอดขายรวมของเรา 800 ล้าน เราคิดว่าจะเติบโตได้สัก 900 ล้านบาทภายในปีนี้” 

สำหรับปัจจัยที่จะทำให้โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เดินหน้าตามเป้า คือการพัฒนา 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และ บริการ โดยสุพจน์เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้เพิ่มเบียร์ตัวใหม่ขึ้นมาอีก 2 รสชาติ ได้แก่ โรเซ่ (Rose’) หรือเบียร์สีกุหลาบที่เหมาะกับผู้หญิง และฮอปส์บอมบ์ (Hops Bomb) หรือที่นิยมเรียกกันว่าไอพีเอ (India Pale Ale) ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นและหอมกลิ่นฮ็อพ (Hop) นอกเหนือจากเบียร์ 3 รสชาติหลักที่ถูกปากคนไทย ได้แก่ ลาเกอร์ ดุงเกล ไวเซ่น

ในขณะที่อาหาร ได้จัดให้มีแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ PD (Produce Development) เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยใหม่ๆ ทุก 3 เดือน ภายใต้โจทย์ของความอร่อย นำเสนอในรูปแบบทันสมัยตอบรับกับคนยุคใหม่ พร้อมเพิ่มแผนกขนมหวาน และยังมีครัวกลางที่จะเป็นศูนย์กลางในการสั่งซื้อและคัดเลือกวัตถุดิบ รวมถึงการผลิตน้ำซอส อาทิ น้ำปลานึ่งมะนาว น้ำแกงส้ม น้ำต้มยำ น้ำเกาเหลาเย็นตาโฟ และน้ำจิ้มต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยได้มาตรฐานส่งตรงถึงครัวของทุกสาขา

ซึ่งเมนูยอดนิยมที่ยังคงขายดีติดอันดับ ได้แก่ ขาหมูทอดตะวันแดง ปลากะพงทอดน้ำปลา กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เกาเหลาเย็นตาโฟ และส้มตำไหลบัว เป็นต้น นอกจากนี้การเปิดซูชิบาร์สำหรับคนรักอาหารญี่ปุ่น อิ่มอร่อยกับ ยูเยเกะซูชิบาร์ (Yuyake Sushi Bar) เพื่อให้บริการเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับแท้ๆ โดยรับรองเรื่องความสดและอร่อยของวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี โดยเฉพาะปลาสดๆ เป็นตัวๆ ที่ต้องสั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ยังได้รับความนิยมอย่างมาก คิดเป็นร้อยละ 15 ของรายได้จากอาหารทั้งหมด

ส่วนในด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้พัฒนารูปแบบการนำเสนอ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มสีสันของโชว์ให้มีความวิจิตร ตระการตา และน่าสนใจมากขึ้น อาทิ การทำแม็ปปิ้ง และการสร้างสรรค์เนื้อหาในรูปแบบของซีรียส์ หรือละครเพลงไทยสั้นๆ ภายใต้การดูแลของ อาจารย์บรูซ แกสตัน ซึ่งโรงเบียร์แต่ละสาขาจะมีทิศทางการพัฒนาตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

โดยสุพจน์ย้ำว่า โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง มีความแข็งแรงในด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่ลูกค้าไม่สามารถหาความบันเทิงแบบโรงเบียร์ได้จากที่อื่น พร้อมเสริมทัพด้วยการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินดังของเมืองไทยในทุกๆ เดือน เพื่อดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นแฟนคลับของศิลปินให้เข้าถึงและรู้จักโรงเบียร์มากยิ่งขึ้น

ปิดท้ายกับยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ การบริการ ที่มีการจัดทำหลักสูตรอบรมและเรียนรู้อยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่น สนุกสนาน และเป็นกันเอง โดยตลอด 20 ปีของการทำธุรกิจ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้สะสมองค์ความรู้เหล่านี้ จนสามารถพัฒนายุทธศาสตร์ให้ครองใจลูกค้าและยืนหยัดอยู่ในธุรกิจได้อย่างสง่างาม

“เรามีรายได้จากการรับจัดเลี้ยง หรืองานเหมาร้านในช่วงปลายปีที่สูงถึง 80 ล้านบาท เนื่องจากจุดแข็งคือ เราเป็นวันสต็อปเซอร์วิส และสามารถรองรับลูกค้าได้มากถึง 2 พันคน โดยมีทั้งเวที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นักร้อง แสง สี เสียง อาหาร บริการ และที่จอดรถอย่างเพียงพอ ทำให้มีลูกค้าหลายรายที่ผูกกับเรา ซึ่งเรากล้ายืนยันว่าที่อื่นทำแบบเราไม่ได้ หรือได้ก็อาจจะแพงมาก” สุพจน์ กล่าวต่อ

นอกจากนี้ในโอกาสครบรอบ 20 ปี โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้จับมือกับพันธมิตร บัตรเครดิตเคทีซี จัดแคมเปญใหญ่ “กินเที่ยวเรื่องเดียวกันกับบัตรเครดิต KTC” ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 กรกฎาคมศกนี้ โดยมอบความพิเศษแบบ 2 ต่อ

ต่อที่ 1 ส่วนลด 10% ต่อที่ 2 ลุ้นแพคเกจทัวร์เที่ยวเทศกาลเบียร์ประจำปีที่โด่งดังที่สุดในโลก OKTOBERFEST 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 กันยายน- 6 ตุลาคมศกนี้ ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี จำนวน 2 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง มูลค่ารางวัลละ 216,000 บาท รวมมูลค่า 432,000 บาท 

“ในอดีตเราเคยทำแพคเกจทัวร์ ‘ดื่มเบียร์เยอรมันที่ประเทศเยอรมนี กับโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง’ มาแล้ว 2 ครั้ง คือปี 2546 และปี 2549 ซึ่งได้รับผลตอบรับจากลูกค้าดีมากจนมีหลายคนเรียกร้องอยากให้จัดอีก จึงเป็นโอกาสดีสำหรับปีนี้ที่เคทีซี มาร่วมเป็นพันธมิตรกับเราด้วยการมอบรางวัลพิเศษให้กับลูกค้า พร้อมขายแพ็กเกจทัวร์ดังกล่าวโดยจำกัดจำนวนเพียง 30 คนเท่านั้น

ซึ่งคนที่ไปงาน OKTOBERFEST 2019 แน่นอนว่าจะได้รับความสนุกสนานในบรรยากาศแบบสไตล์เยอรมันแท้ๆ ทั้งอาหาร และเบียร์เยอรมัน พร้อมทั้งได้เปิดประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงคัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ยังได้เดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางสุดโรแมนติกในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งหากเทียบราคากับมาตรฐานของการบริการแล้ว ถือว่าสมเหตุสมผลมาก” 

พร้อมกันนี้โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงยังจัดกิจกรรมฉลอง 20 ปีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น อาทิ @Line เพื่อรับโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษก่อนใคร พร้อมพัฒนาฐานข้อมูลสมาชิกที่มีอยู่ถึง 15,000 คน เพื่อสร้างรอยัลตี้ให้กับแบรนด์

รวมถึงกิจกรรมรวมพลคนรักโรงเบียร์เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมในการส่งต่อความรู้สึกดีๆ จากรุ่นสู่รุ่น พร้อมกับมอบโปรโมชั่นด้านอาหารที่มีความหลากหลายของเมนู และรสชาติอร่อยมีคุณภาพ ตลอดจนสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อมอบประสบการณ์ความอร่อยให้กับลูกค้าอย่างไม่สิ้นสุด

“จากนี้ไปสิ่งที่เราจะทำคือ ดูแลกันและกัน ทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิตคือร้าน เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ส่วนสิ่งที่มีชีวิต คือ เพื่อนร่วมงานและพนักงานทุกคน นี่คือหน้าที่ของเรา” ผู้บริหารโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กล่าวทิ้งท้าย

[อ่าน 4,816]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะ 5 ไฮไลต์ Central Park Offices ต้นแบบโมเดลออฟฟิศ NEXT GEN ที่ครบทั้ง “ดีไซน์–เทคโนโลยี–ความยั่งยืน” จุ
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ฉลองครบรอบ 40 ปี ตอกย้ำผู้นำการพัฒนาบ้านสไตล์ French Colonial รายแรกในไทย
แอสเซทไวส์ ยกขบวนคอนโดพร้อมอยู่ จัดแคมเปญ “AssetWise ใจใหญ่ ให้เต็มแม๊กซ์”
“ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ” ปิดสนามราชพฤกษ์คลับ จัดนัดชิง Chang Club Championship 2025
finbiz by ttb แนะเปิดประตูโอกาสธุรกิจ ด้วยพลังของ Generative AI
จุฬาฯ และ UR ร่วมกันจัดฟอรั่มที่กรุงเทพฯ ก้าวแรกของความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเมืองในประเทศไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved