สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนได้ถือกำเนิดมาในฐานะองค์กรความร่วมมือภายในภูมิภาค ซึ่งมุ่งหวังที่จะกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในอาเซียน ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาเซียนมีการยกระดับความร่วมมือด้านต่างๆ ได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะการ ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันโดยรวมของภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น อาเซียนจึงเป็นภูมิภาคที่ไม่อาจมองข้ามได้
การค้าอัญมณีและเครื่องประดับในอาเซียน
เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยกับอาเซียน ในเดือนมกราคม-สิงหาคม 2019 พบว่า มีมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น 42.94% สวนทางกับมูลค่าการค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลกของไทยที่ปรับตัวลดลง 0.08% โดยประเทศคู่ค้าในอาเซียน 3 อันดับแรก คือ สิงคโปร์ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น 1.01 เท่า รองมา คือ กัมพูชา เพิ่มขึ้น 20.41% และอินโดนีเซีย ลดลง 25.90% ขณะที่เมียนมาเป็นประเทศคู่ค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดถึง 1.21 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ด้านการส่งออก
ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม ปี 2019 อัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับที่ 3 รองจากรถยนต์ และคอมพิวเตอร์ การส่งออกไปยังตลาดอาเซียนนั้นคิดเป็น 15.36% ของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับโดยรวม มีอัตราการขยายตัว 6.64% ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ สิงคโปร์ กัมพูชา และอินโดนีเซีย ตามลำดับ โดยสินค้าที่ส่งออกไปยังอาเซียนมากที่สุด 6 อันดับ คือ ทองคำ (คิดเป็นสัดส่วน 76.97%) เครื่องประดับเทียม (คิดเป็นสัดส่วน 3.07%) เครื่องประดับทอง (คิดเป็นสัดส่วน 2.21%) เครื่องประดับเงิน (คิดเป็นสัดส่วน 1.14%) และพลอยสีเจียระไน (คิดเป็นสัดส่วน 0.87%)
ด้านการนำเข้า
ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม ปี 2019 ไทยมีการนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับจากประเทศอาเซียนลดลงทุกประเทศ ยกเว้นกัมพูชาที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาก จึงทำให้การนำเข้ารวมจากอาเซียนเพิ่มขึ้น 1.35 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สินค้านำเข้าหลักจากอาเซียน คือ ทองคำด้วยมูลค่า 991 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 64.94% ของการนำเข้าจากอาเซียน โดยนำเข้าจากสิงคโปร์และกัมพูชาเกือบทั้งหมด รองลงมา คือ เศษหรือของที่ใช้ไม่ได้ทำด้วยทองคำ (พิกัด 711291) ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นการนำเข้าจากกัมพูชาด้วยมูลค่า 476.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 31.21% ของการนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับจากอาเซียน
โอกาสในตลาดอาเซียน
อาเซียนถือได้ว่าเป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่มีศักยภาพเนื่องจากหลายประเทศมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ในระดับสูงและเติบโตต่อเนื่อง ตลาดมีขนาดใหญ่ด้วยประชากรมากกว่า 640 ล้านคน อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางเนื่องจากการพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าให้เอื้อต่อการค้าการลงทุนมากขึ้น เหล่านี้เป็นปัจจัยบวกซึ่งทำให้ตลาดอาเซียนมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยตลาดสำคัญของการค้าอัญมณีและเครื่องประดับในอาเซียนมีรายละเอียดดังนี้
สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเป็นสินค้าที่ผลิตเพื่อส่งออกจำหน่ายในต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากทักษะฝีมือแรงงานของไทยมีความชำนาญสูงทำให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก รวมถึงอาเซียนยังเป็นอีกตลาดที่สำคัญของไทยและมีแนวโน้มการขยายตัวดี ผู้ประกอบการควรพิจารณาเจาะตลาดอาเซียนโดยใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้าจากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน รวมถึงการเป็นตลาดทดแทนตลาดอื่นๆ ซึ่งชะลอตัวเพราะผลกระทบจากสงครามการค้าและปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ อาเซียนจึงเป็นเสมือนขุมทรัพย์ที่ผู้แสวงหาโอกาสไม่ควรพลาด
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
โทร 0-2634-4999 ต่อ 444 / FaceBook : GITinfoCenter / Line : git_info_center