ส่องอาชีพทางเลือกใหม่ ไม่ต้องกลัวตกงาน ในยุค Wellness Society
07 Jul 2021

 

“65,000 ล้านบาท” คือตัวเลขมูลค่าของตลาดสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพ (Wellness) ล่าสุดในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะเติบโตต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น อันมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ปัญหาเรื่องมลพิษฝุ่นควัน รวมถึงวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ธุรกิจหรืออาชีพที่ว่าด้วยเรื่องของการดูแลสุขภาพ การบริโภคเพื่อเป็นยา รวมไปถึงศาสตร์แห่งการชะลอวัย ก็ดูจะเป็นที่สนใจกันมากขึ้น จึงทำให้หลักสูตรหรือคณะวิชาเหล่านี้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของน้องๆ ที่กำลังเลือกสาขาวิชาเพื่อการศึกษาต่อ หรือคนทำงานที่กำลังจะ Upskill Reskill ตัวเอง เพื่ออาชีพที่มั่นคงขึ้นในอนาคต

 

สำหรับคนที่กำลังพุ่งเป้ามาทางสายนี้ ลองมาทำความรู้จักกันก่อนว่า ธุรกิจหรืออาชีพในสายเวลเนส (Wellness) นั้นมีอะไรที่น่าสนใจ และต้องเรียน หรือฝึกทักษะอะไรบ้าง

 

สายบิวตี้ 

เจ้าของแบรนด์เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม ผู้บริหารสถานพยาบาล เจ้าของธุรกิจสถาบันเสริมความงาม ผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ และความงาม หรือสายอาชีพยอดฮิตอย่าง บิวตี้ บล็อกเกอร์ (Beauty Blogger) และ Fitness Trainer เป็นสายอาชีพที่จะมีความต้องการเป็นอย่างมากในอนาคต ที่มนุษย์จะยินดีจ่ายเพื่อการมีสุขภาพที่ดีและความงามอย่างยั่งยืน ซึ่งหากใครที่สนใจอาชีพกลุ่มนี้จะต้องศึกษาในสาขาวิชาบูรณาการสุขภาพและความงาม (Integration of Health and Beauty: HB) ซึ่งจะสอนในเรื่องวิทยาศาสตร์การแพทย์ การมีสุขภาพที่ดีและความงามที่ยั่งยืน

ทั้งการศึกษาวิเคราะห์และคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เรียนรู้การดูแลสุขภาพและความงามแบบมืออาชีพ เทรนด์ของตลาดธุรกิจสุขภาพและความงาม รวมถึงต้องมีการฝึกฝนทักษะ ลงมือปฏิบัติในห้องปฏิบัติการที่ได้ระดับมาตรฐาน ทั้งห้องปฏิบัติการด้านความงาม (Beauty Lab) ห้องปฏิบัติการด้านสปา (Spa Training Room) และห้องปฏิบัติการด้านการออกกำลังกาย (Fitness Training Room)

โดยในบางมหาวิทยาลัยเมื่อจบการศึกษาปริญญาตรี ยังได้รับใบประกาศนียบัตรหลักสูตรการบริการ เพื่อความงามจากกระทรวงสาธารณสุขใบประกาศนียบัตรมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขานักส่งเสริมสุขภาพ รวมถึงสิทธิยื่นสอบใบรับรองผู้ดำเนินการสปา เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการทำงาน หรือประกอบอาชีพได้ทันที

 

สายเชฟ

เจ้าของคาเฟ่หรือร้านอาหารเพื่อสุขภาพเท่ๆ ฟู้ดสไตลิสต์นักโภชนาการในโรงพยาบาลหรือศูนย์สุขภาพ เจ้าของธุรกิจร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จะเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่สำคัญมากในอนาคต เพราะในอนาคตเชฟจะไม่ใช่แค่ผู้มีฝีมือหรือหลงใหลในการทำอาหารให้อร่อยเท่านั้น แต่จะต้องเป็นผู้มีที่ความรู้ด้านโภชนศาสตร์ มีความรู้ลึกถึงขั้นวัตถุดิบ สามารถทำการออกแบบ และวางแผนการทำอาหารที่ตอบโจทย์เทรนด์หรือปัญหาด้านสุขภาพได้ สำหรับคนที่มุ่งหวังจะเดินทางสายนี้แนะนำให้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับ สาขาวิชาการประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ (Culinary for Health: FC) เพราะเป็นหลักสูตรที่ให้ความรู้ด้านอาหารเพื่อสุขภาพตามหลักโภชนาศาสตร์

โดยจะได้เรียนรู้ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบเพื่อมาปรุงอาหาร การโภชนศาสตร์ อาหารรักษาโรค อาหารชะลอวัย พร้อมฝึกลงมือทำอาหารทุกรูปแบบทั้งอาหารไทย อาหารสุขภาพ เบเกอรี่ ขนมหวาน อาหารนานาชาติ และเครื่องดื่ม ในห้องปฏิบัติการครัว (Chef Lab) และห้องปฏิบัติการเบเกอรี่ (Bakery Lab)

นอกจากนี้ ยังจะได้เรียนรู้ด้านศิลปะสร้างสรรค์ เพื่อนำไปปรับใช้กับสายอาชีพ เช่น การถ่ายภาพ การตกแต่งอาหาร กราฟิกดีไซน์ และการออกแบบเมนูอาหาร เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว ยังจะได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาผู้ประกอบการอาหารไทย ระดับ 1 ติดไม้ติดมือมาเป็นเครื่องช่วยการันตีความเป็นมืออาชีพด้วย

 

 

สายแพทย์ทางเลือก 

เจ้าของคลินิกการแพทย์แผนไทย เจ้าของธุรกิจยา และผลิตภัณฑ์สมุนไพร เจ้าของธุรกิจมารดาหลังคลอด ผู้ประกอบการโรงงานผลิตสมุนไพร แพทย์แผนไทยประจำโรงพยาบาลของรัฐ เอกชน คลินิก หรือสถานประกอบการ นักวิจัยยาและผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร แม้มนุษย์จะเดินทางเข้าสู่ยุค AI แต่ศาสตร์แพทย์ทางเลือกก็จะยังคงได้รับความนิยม

โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยได้เข้าสู่ยุคสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์(Aged Society) อาชีพหรือธุรกิจในสายนี้จึงจะเป็นที่ต้องการของตลาด สำหรับใครที่สนใจอาชีพในแขนงนี้ หรืออยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ด้านสุขภาพ ลองศึกษาในสาขาการแพทย์แผนไทย (Thai Traditional Medicine: TM) ซึ่งจะสอนด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และการป้องกันโรคด้วยการแพทย์ทางเลือกอย่างครบวงจร รวมถึงวิธีการตรวจรักษาทางการแพทย์แผนไทย และสามารถประยุกต์ความรู้กับศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม เรียนรู้การป้องกันโรค การเจ็บป่วยทางการแพทย์ และฝึกการตรวจวินิจฉัยโรค

รวมถึงการเรียนรู้เทคนิคการทำยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพรซึ่งผู้ที่ไม่ได้จบสายวิทยาศาสตร์ก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีการปรับพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ให้ในชั้นปีแรกและเมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาบัตรและมีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยทั้ง 4 ด้านได้แก่ เวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การนวดไทย และผดุงครรภ์ไทย

 

 

สำหรับคนที่สนใจสายอาชีพมาแรงทั้ง 3 สายนี้ในประเทศไทยมีหลักสูตรที่เปิดสอนภายใต้ชื่อหลักสูตร การแพทย์บูรณาการหรือที่เรียกว่าการแพทย์ผสมผสานเป็นการนำการปฏิบัติของการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์ทางเลือก การแพทย์แผนไทย รวมถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ มาผสานเข้าด้วยกันเพื่อดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาที่เปิดในสาขาวิชาดังกล่าวเพียงไม่กี่แห่ง หนึ่งในนั้นคือ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่เปิดวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ (College of Integrative Medicine: CIM) ซึ่งเป็นวิทยาลัยลำดับต้นๆ ที่ให้ความรู้ด้าน Wellness การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่างครบวงจร

และเป็นที่เดียวในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีหลักสูตรระดับปริญญาตรีด้านบูรณาการสุขภาพและความงาม รวมทั้งยังมีหลักสูตรปริญญาโทปริญญาเอกและหลักสูตรระยะสั้น ถือเป็นสถาบันที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพอย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังเปิดกว้างให้กับนักเรียนทุกสาขา ไม่ว่าจะจบสายไหน ก็สามารถมาเรียนได้ เนื่องจากมีการปรับพื้นฐานความรู้ใหม่ด้านวิทยาศาสตร์ให้กับผู้เรียนทุกหลักสูตร

นอกจากนี้“วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ” (College of Integrative Medicine: CIM) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ยังมี “หลักสูตรสำหรับบุคคลทั่วไป” ที่ต้องการ UpSkill ReSkill กับหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพการแพทย์แผนไทย เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยเน้นรูปแบบการเรียนการสอนที่ทันสมัยเหมาะกับ Future Workforce การตรวจวินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์แผนไทย รวมถึงเรียนรู้พื้นฐานด้านธุรกิจ และได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจหรือสายงานของตนเองโดยเป็นหลักสูตรที่เรียนควบคู่ด้านเภสัชกรรมไทย (Diploma in Thai Traditional Pharmacy และด้านเวชกรรมไทย (Diploma in Thai Traditional Medicine) เมื่อเรียนจบ มีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยตามด้านที่เรียน

 


สำหรับผู้ที่สนใจในหลักสูตรดังกล่าว สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ https://cim.dpu.ac.th/ และ Facebook Fanpage: วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ College of Integrative Medicine CIM DPU หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-954-7300 ต่อ 458, 259

[อ่าน 3,031]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลุยส์คาเฟ่ ปลุกกระแสแบรนด์เนมตื่น เอนเกจพุ่ง 950 % หลังเปิดตัวเพียงครึ่งเดือน
สัญญาณดีๆ ของปี 2023 มีส่งต่อปี 2024 ไหม
TikTok ร่วมพัฒนาอนาคตแห่งความบันเทิงและการค้าในปี 2567
ถอดรหัสเทรนด์ การชำระเงิน ในเอเชียแปซิฟิกปี 2567
ข้อมูลอโกด้าชี้ นักท่องเที่ยวไทยตื่นเที่ยวจีนหลังการยกเลิกวีซ่าไทย-จีนถาวร
การรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร และ ข้อดีของโคเวิร์กกิ้งสเปซ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved