องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกห่วง ‘สวัสดิภาพสัตว์’ หลัง ‘สวนเสือศรีราชา’ ปิดตัว วอนภาครัฐตรวจสอบ
15 Jul 2021

 

จากการประกาศเลิกกิจการของ ‘สวนเสือศรีราชา’ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา องค์กรพิทักษ์สัตว์โลกออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน แสดงความรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพสัตว์ของสัตว์ป่า ร่วมกันจัดการสัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล

 

นายปัญจเดช สิงห์โท ที่ปรึกษาด้านนโยบาย องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ซึ่งรณรงค์เรื่องยุติผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยงมาอย่างต่อเนื่อง เรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้อำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2562 เข้าตรวจสอบบัญชีประชากรสัตว์ป่าทั้งหมด หลังปิดกิจการ ไปจนถึงควบคุมกระบวนการขาย เคลื่อนย้าย หรือโอนสิทธิ์สัตว์ป่าให้เป็นไปตามกฎหมาย และมาตรฐานสากล พร้อมเน้นย้ำว่าสัตว์ป่าไม่ควรถูกนำมาหาประโยชน์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตั้งแต่แรก เพราะมีปัญหาด้านสวัสดิภาพมากมายและไม่เป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์

 

“เราพยายามเสนอมาตลอดว่า ไม่ควรมีการอนุญาตให้ผสมพันธุ์เสือในกรงเลี้ยงจนเพิ่มจำนวนและการเพิ่มจำนวนสัตว์ในกรงเลี้ยง โดยเฉพาะเสือ ไม่ได้ช่วยอนุรักษ์สัตว์ป่าใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังมีปัญหาด้านสวัสดิภาพสัตว์มากมาย เช่น การที่สัตว์ป่าถูกจำกัดอิสรภาพในกรงเลี้ยงตลอดชีวิต กระบวนการฝึกสัตว์ป่าอย่างโหดร้ายทารุณเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้น หลายกรณีในอดีตยังพบว่ามีการลักลอบผสมพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อลักลอบขายชิ้นส่วนอีกด้วย ซึ่งอวัยวะของเสือเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดมืด”

 

นายปัญจเดช ยังแสดงความกังวลต่อสวัสดิภาพของสัตว์ป่าสวนเสือศรีราชาที่ประกาศว่าจะดูแลต่อไป เนื่องจากสัตว์ป่ามีจำนวนมาก ทำให้การดูแล และหาบ้านใหม่อาจจะเป็นไปอย่างยากลำบากในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ โดยเรียกร้องไปยังผู้รับผิดชอบในสวนเสือศรีราชา และกรมปศุสัตว์ให้เปิดเผยแผนการดูแลสัตว์ป่าที่เหลืออยู่เหล่านี้ ต่อสาธารณะว่าเป็นไปตามมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์ หรือไม่

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกพบว่า ปัจจุบันธุรกิจสวนสัตว์เอกชนจำนวนมากทั่วโลกกำลังปิดตัวลง โดยเฉพาะในปี 2563 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากรายได้ที่ลดลงในวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้สัตว์ป่าในกรงขังจำนวนมากตกอยู่ในความเสี่ยง

 

 

นายฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์ ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ระบุว่า “สัตว์ป่าสมควรได้อยู่ในป่า พวกมันไม่ควรถูกนำมาผสมพันธุ์เชิงพาณิชย์ ฝึกอย่างโหดร้ายทารุณ และใช้ชีวิตแบบทุกข์ทรมาน เพียงเพื่อความบันเทิงของนักท่องเที่ยวตั้งแต่แรก ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกกอบโกยกำไรบนความทุกข์ทรมานของสัตว์ป่ามหาศาล แต่เมื่อเกิดวิกฤตแบบนี้ กลับไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตสัตว์ป่าได้เลย กลายเป็นภาระของทุกฝ่ายที่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ตอนนี้รัฐบาลหลายๆ ประเทศจึงเริ่มพิจารณาเพิ่มมาตรฐานการควบคุมและจัดการสัตว์ป่าในสวนสัตว์เอกชนกันแล้วล่าสุดเช่นฝรั่งเศสที่ออกกฎหมายแบนการใช้สัตว์ป่าแสดงโชว์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา”

 

“เราหวังว่าภาครัฐของไทยจะปรับปรุงนโยบายและกฎหมายต่างๆ ให้ปกป้องสัตว์ป่ามากขึ้น โดยเฉพาะการยุติการผสมพันธุ์สัตว์ป่าเชิงพาณิชย์ ป้องกันการทำร้ายสัตว์ป่าอย่างโหดร้ายทารุณ ตลอดจนหยุดให้ใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบกิจการที่เคยมีประวัติทรมานหรือสร้างความเสียหายต่อสัตว์ป่า นอกจากจะเป็นการปกป้องสัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวด้วย เพราะนักท่องเที่ยวทุกวันนี้รับไม่ได้กับกิจกรรมที่ทรมานสัตว์ป่ามากขึ้นเรื่อยๆ” นายฉัตรณรงค์ กล่าวปิดท้าย

 

 

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกยืนยันจุดยืนไม่สนับสนุนการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าเชิงพาณิชย์ และไม่สนับสนุนการค้าสัตว์ป่าทั้งที่ถูก และผิดกฎหมาย ทางองค์กรฯ เน้นย้ำด้วยว่าการกอบโกยผลประโยชน์จากสัตว์ป่าไม่ได้แค่ทำให้ชีวิตสัตว์ป่าต้องทุกข์ทรมานเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อคนด้วย เพราะเป็นที่มาของโรคระบาดจากสัตว์สู่คนหลายชนิด อย่างเช่นโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด สร้างความเสียหายทั้งด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจไปทั่วโลกอยู่ตอนนี้

[อ่าน 1,879]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
PULL&BEAR เปิดตัวออนไลน์สโตร์ครั้งแรกในไทย ช้อปปิ้งจุใจในคลิกเดียว รับส่วนลด 15% ส่งฟรี วันนี้ถึง 30 กรกฎาคม 2568
“เอส โคล่า” ครองใจผู้บริโภค Gen Z ตอกย้ำความอร่อยซ่า…ออซั่มทุกสัมผัส
ODOS Summer Camp แถลงความคืบหน้าโครงการ พร้อมชี้แจงกระบวนการคัดเลือก
บิ๊กซี ดึงศักยภาพเทคโนโลยี GIS และ AI พลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก
RAGTAG Thailand นำเข้าสินค้าแบรนด์เนมมือสองจากญี่ปุ่น ประเดิมเปิดตลาดไทยในงานสหกรุ๊ปฯ
TOA เดินหน้า Net Zero เต็มสูบ ผ่านการรับรอง CFO ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งองค์กร
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved