เรียกเสียงฮือฮาจากทั่วโลกได้ทันทีหลังที่จู่ๆ Facebook ก็ได้เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นแรกของตัวเองภายใต้ชื่อ ‘Ray-Ban Stories’ ซึ่งการเผยโฉมในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าพ่อโซเซียลได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าเมื่อ 1 ปีก่อน
ไม่ต่างจากแว่นทั่วไป
Ray-Ban Stories มาพร้อมกับคุณสมบัติที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น การให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอด้วยคำสั่งเสียง โดยพูดว่า "เฮ้ Facebook ถ่ายรูป" หรือ "เฮ้ Facebook ถ่ายวิดีโอ" หรือกดปุ่มที่ขาแว่นด้านขวา โดยกล้องนั้นมีความละเอียด 5 เมกะพิกเซล
ตัวแว่นยังมาพร้อมกับลำโพงขนาดเล็กที่เปลี่ยนแว่นตาอัจฉริยะให้เป็นหูฟังสำหรับฟังเพลงและพอดแคสต์ผ่าน Bluetooth จากสมาร์ทโฟนที่จับคู่ด้วย และการมีไมโครโฟนทำให้เราสามารถคุยโทรศัพท์ได้เช่นกัน ขณะที่แบตเตอรี่มีอายุการใช้งาน 6 ชั่วโมงด้วยกัน
กระนั้นแม้จะทำได้หลากหลายอย่างแต่ Ray-Ban Stories กลับไม่กันน้ำ ดังนั้นคุณจึงต้องระวังหากคุณใส่แว่นตาที่ชายหาดหรือริมสระน้ำ
ด้านรูปภาพและวิดีโอจะที่ถูกถ่ายด้วย Ray-Ban Stories จะมาในรูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสภายในแอปที่ชื่อว่า View ที่ Facebook พัฒนาขึ้นสำหรับแว่นตาโดยเฉพาะ และถูกย้ำว่า จะไม่มีโฆษณามารบ กวน ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดรูปภาพลงในม้วนฟิล์มของโทรศัพท์หรือแชร์สื่อโดยตรงไปยังแอปอื่นๆ รวมไปถึงคู่แข่งเช่น TikTok และ Snap ได้ด้วย
นอกจากนี้ทาง Facebook ยังได้จัดทำคู่มือแนะนำให้ผู้ใช้แว่นตามีสำนึกรับผิดชอบในการใช้อุปกรณ์นี้ เช่น การปิดกล้องในพื้นที่ส่วนตัว เช่น ห้องน้ำสาธารณะ และไม่ใช้แว่นตาในการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น การล่วงละเมิดหรือการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นความลับ
จับคู่ได้เหมาะสม
เว็บไซต์ CNBC ชี้ว่า Facebook เลือกพันธมิตรที่เหมาะสม เพราะเมื่อสวม Ray-Ban Stories แทบจะไม่แตกต่างจากแว่นแบบทั่วไป ยกเว้นจะมองหากล้องสองตัวที่มุมเฟรมของอุปกรณ์โดยเฉพาะ ด้วยเหตุนี้แว่นตาของ Facebook จึงดูทันสมัย และไม่แปลกตา
แว่นตาของ Facebook มาในรูปลักษณ์แว่นตายอดนิยมของ Ray-Ban สามรุ่น ได้แก่ รุ่น Wayfarer, Round และ Meteor คุณสามารถปรับแต่งแว่นตาได้ด้วยการเลือกสีและเลนส์ประเภทต่างๆ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,200 บาท
ที่น่าสนใจคือ โลโก้ของ Facebook ไม่ได้บนอุปกรณ์หรือเคส ร่องรอยเดียวของแบรนด์ Facebook อยู่ที่กล่องผลิตภัณฑ์ ซึ่งถูกมองว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ฉลาดเมื่อพิจารณาว่า วันนี้ Facebook ไม่ได้รับความไว้จากในจากผู้คนสักเท่าไรนัก
โดย Ray-Ban Stories เริ่มจำหน่ายแล้วที่ ร้าน Ray-Ban และที่ Ray-Ban.com ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อิตาลี ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และแคนาดา และจะวางขายผ่านร้านค้าปลีกอื่นๆ ซึ่งรวมถึง Amazon, Best Buy, Sunglass Hut และ LensCrafters ด้วย
น่าจับตา
ต้องบอกว่า การปรากฏตัวแว่นตาอัจฉริยะของ Facebook นับว่า น่าจับตาเป็นอย่างมาก เพราะ Facebook ไม่ใช่รายแรกที่กระโดดเข้าสู่ตลาดนี้ เพราะทั้ง Amazon.com , Google, Microsoft , Apple และ Snap Inc ต่างแข่งขันกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แว่นตาอัจฉริยะกันทั้งสิ้น
หากจำกันได้ในปี 2013 Google ได้เปิดตัว Google Glass ซึ่งไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าไรนักจากราคาที่ค่อนข้างสูงและรูปลักษณ์ที่แปลกตา จนไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนคนก็จะทำได้ทันที
นอกจากนี้ยังมี Snap คู่แข่งในสังเวียนโซเซียลมีเดียได้ซึ่งเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะครั้งแรกในปี 2016 ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวแว่นตา AR แต่ไม่ได้จำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป จะจำหน่ายให้กับผู้พัฒนา AR เท่านั้น โดยหากย้อนกลับไปในปี 2019 ซีอีโอของ Snap คาดว่าจะใช้เวลา 10 ปีกว่าที่ผู้บริโภคจะหันมาใช้แว่นตาอัจฉริยะ AR อย่างกว้างขวาง
คำกล่าวของซีอีโอคู่แข่งสอดคล้องกับหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Facebook กล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า บริษัทนั้นอยู่ห่างจากตลาดแว่นตา AR ที่ ‘แท้จริง’ ออกไป 5-10 ปี ถึงจะสามารถพัฒนาออกมาวางขายในเชิงพาณิชย์ได้
อย่างไรก็ตาม มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Facebook ได้โพสต์บนหน้า Facebook ส่วนตัวหลังจากที่ได้เปิดตัว Ray-Ban Stories ว่า "เราเชื่อมานานแล้วว่าแว่นตาจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รุ่นต่อไป"
ความเชื่อของซักเคอร์เบิร์กจะเป็นจริงหรือไม่ เราคงต้องไปวัดกันในอนาคตแล้ว!
บทความจากนิตยสาร มาร์เก็ตพลัส ฉบับที่ 139 เดือนตุลาคม 2564