'เอสซีจี' สะท้อนมุมคิด สร้างโอกาสและทางออกในวิกฤต ฉายภาพ New Normal มองแนวโน้มอาเซียนโอกาสของการลงทุน
25 Mar 2022

 

ท่ามกลางความไม่แน่นอนสูงในหลายด้านที่ภาคธุรกิจกำลังเผชิญ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด 19 เงินเฟ้อและสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย เอสซีจี เดินหน้าปรับวิธีการทำงานให้ยืดหยุ่น คล่องตัว เพื่อรับมือกับความท้าทายที่เข้ามาได้อย่างทันท่วงที พร้อมมุ่งมั่นมองหาโอกาส (Opportunity) และทางออก (Solution) รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกสู่ New Normal ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หลังวิกฤตถึงจุดสิ้นสุด ตอบโจทย์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว   

 

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย มีผลกระทบไปทั่วโลกในหลายด้าน โดยเฉพาะราคาน้ำมัน และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ถือเป็นประเด็นหลักในขณะนี้ซึ่งเอสซีจีได้ติดตามสถานการณ์มาต่อเนื่องเพราะราคาน้ำมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับราคาวัตถุดิบหลักในธุรกิจเคมิคอลส์ของเอสซีจี

นอกเหนือจากต้นทุนราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นโดยองค์ประกอบสถานการณ์ที่นำมาวิเคราะห์มี 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1.สถานการณ์สู้รบในยูเครน 2.สงครามเศรษฐกิจ (Sanction) ผลกระทบต่อการค้าและการลงทุน 3. เรื่องพลังงาน ทั้งปริมาณการผลิต (Supply) และความต้องการใช้(Demand) ของน้ำมัน รวมถึงก๊าซ และ 4. แนวโน้มความตึงเครียดทางการเมืองในยุโรป รัสเซีย นาโต สหรัฐฯ และจีน รวมถึงระยะเวลาการจบเรื่องนี้ ซึ่งจะจบแบบไหน และส่งผลอย่างไร

 

เปิดผลกระทบต่อ 3 ธุรกิจหลักเคมิคอลส์หนักสุด

สำหรับผลกระทบต่อ 3 ธุรกิจหลักของเอสซีจีจะมีไม่เท่ากัน โดยธุรกิจเคมิคอลส์ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะนอกจากแบกรับต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นแล้ว วัตถุดิบหลักของธุรกิจยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับราคาน้ำมัน ส่วนธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง จะกระทบในเรื่องของต้นทุนพลังงาน เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นมากเช่นกัน ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ได้รับผลกระทบน้อยกว่าอีกสองธุรกิจ เพราะพลังงานไม่ได้เป็นต้นทุนหลักของธุรกิจ และการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนยังไม่สะดุด โดยคนส่วนใหญ่มองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไกลตัว

ผลกระทบครั้งนี้แรงมาก เพราะธุรกิจเคมิคอลส์เป็นครึ่งหนึ่งของเอสซีจี ต้องเจอทั้งเรื่องราคาวัตถุดิบหลักและต้นทุนพลังงานพุ่งสูงมาก ทั้งสี่ปัจจัยเป็นสิ่งที่เรานำมาใช้ในการวิเคราะห์ว่า ต้องรับมืออย่างไร และนำวิธีอะไรมาใช้รับมือตรงนี้ แต่ต้องยอมรับว่าปัจจัยทั้งสี่เรื่องนั้น เราแทบทำอะไรไม่ได้เลย เพราะควบคุมไม่ได้ จึงต้องมาดูว่าอะไรที่เราควบคุมได้และต้องทำ เช่น การประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทางเลือก และเรื่องการลงทุน เป็นต้น ส่วนเรื่องขึ้นราคาสินค้าแม้จะทำได้แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีเรื่องของการแข่งขัน ซึ่งต้องดูว่าตลาดตรงไหนสามารถปรับราคาได้ ไม่กระทบกับผู้บริโภคโดยตรง และการขึ้นราคาต้องโปร่งใสและเป็นธรรม มีการบอกต้นทุนเก่าและใหม่ให้ชัดเจน เพื่อความอยู่รอดในระยะยาวนายรุ่งโรจน์ กล่าว

 

บริหารความเสี่ยง-ปรับแผนลงทุน-ทำตัวให้เบารับมือต้นทุนพุ่ง

สำหรับกลยุทธ์ในการรับมือกับสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียนั้น เอสซีจีเน้นเรื่องบริหารความเสี่ยง การรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น และปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ มีความยืดหยุ่น คล่องตัว รวมทั้งทำตัวให้เบา คือ right sizing หรือ slim sizing พยายามบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับความต้องการ โดยสิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกเป็นการปรับแผนการลงทุน ที่แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ หนึ่งโครงการที่ดำเนินการอยู่ใกล้จะเสร็จสิ้นก็พร้อมสานต่อให้จบ สองโครงการที่กำลังเริ่มและต้องใช้เวลานานคงต้องพักไว้ก่อน สุดท้ายโครงการที่ควรลงทุนในระยะยาว เช่น เรื่องพลังงาน energy transition ซึ่งตรงกับ low carbon strategy หรือไปถึง net zero เรื่องของดิจิทัล รวมทั้งทำให้ Supply chain เข้มแข็ง

 

มองภาพยุค New Normal ปักหมุดอาเซียนโอกาสในการลงทุน 

ผลกระทบกับเศรษฐกิจในแต่ละกลุ่มประเทศจะไม่เท่ากัน เช่นในอาเซียน ประเทศที่พึ่งพาน้ำมันมากจะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศที่พึ่งพาน้อย จึงต้องมาคิดปรับเปลี่ยนโครงสร้างการใช้พลังงานให้น้อยลงและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในระยะยาวแม้สถานการณ์คลี่คลายแต่ราคาน้ำมันคงไม่กลับมาเท่าเดิม และสงครามเศรษฐกิจอาจยังคงอยู่ ดังนั้น New Normal คือ ราคาต้นทุนพลังงานที่สูง และความร่วมมือแบบเดิมของกลุ่มประเทศต่างๆ ก็ยากขึ้น ซึ่งมองว่าอาเซียนจะได้ประโยชน์ เนื่องจากไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด และมีกำลังซื้อสูงจากจำนวนประชากรกว่า 600 ล้านคน หากมีการประชาสัมพันธ์ให้ดีจะมีเงินไหลเข้ามาลงทุน โดยขณะนี้นักลงทุนได้ปรับยุทธศาสตร์ใหม่ หันไปลงทุนในตลาดที่ตัวเองขาย ไม่ใช่ต้นทุนถูกที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสของประเทศไทย จึงต้องทำตัวให้โดดเด่น ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่มองหาตลาดแรงงานที่มีความรู้และทักษะพร้อม ที่สำคัญคือมีระบบป้องกันทรัพย์สินทางปัญญาที่ดี เพราะนักลงทุนจะกลัวเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมาก

 

ทางรอดของธุรกิจ นอกจากเงื่อนไขเรื่องความเข้าใจในสถานการณ์ความขัดแย้งและองค์ประกอบ 4 เรื่องแล้ว ในระยะสั้น ทุกคนต้องประเมินความเสี่ยงก่อน ว่าทำอะไรได้แค่ไหน และเตรียมพร้อมอยู่เสมอคือพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นำมาใช้ในการทำงานอย่างรวดเร็ว พร้อมปรับตัวในแง่ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การหาตลาดให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ ทำตัวให้เบา บริหารเงินทุนหมุนเวียนให้ดี ระมัดระวังในการก่อหนี้ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเตือนแล้วว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีนี้ ตลอดจนทำ supply chain ให้เข้มแข็ง รวมถึงการลดใช้พลังงานในระยะยาว

[อ่าน 2,023]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นครั้งแรก 6.6 พันล้านบาท หลังทำกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน
นีเวีย จับมือ มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ สานต่อพันธกิจ NIVEA CONNECT
“วิกฤติคือโอกาส” ศุภลักษณ์ อัมพุช โชว์พลังสตรีสร้างศูนย์การค้าไทยสู่ระดับโลก
CASETiFY ปักหมุดทำเลทอง ICONSIAM และ MEGABANGNA

ซีพีแรม (ลาดกระบัง) เดินหน้าฟื้นฟูป่าชายเลน สร้างสมดุลธรรมชาติ สอดคล้องการพัฒนายั่งยืนองค์การสหประชาชาติ (SDGs)
กรุงไทยขนโปรร่วม “Money Expo เชียงใหม่” 7-9 พ.ย.นี้ หนุนอิสระทางการเงิน ยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved