บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องมหาสมุทร แสดงความมุ่งมั่นในการดูแลมหาสมุทรให้อุดมสมบูรณ์ ร่วมกับบริษัทเอกชน 150 แห่ง เพื่อลงนามใน UN Global Compact Sustainable Ocean Principles หรือหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืน
โดยข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ เพิ่มเติมจากหลักการ 10 ประการในข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ หลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนนี้จะกำหนดกรอบการทำงานให้กับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อมหาสมุทรทั้งในแง่มุมธุรกิจ และภูมิศาสตร์โดยบริษัทเอกชนต่างๆ ที่ได้ลงนามในหลักการดังกล่าว ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะประเมินผลกระทบต่อมหาสมุทร และรวมความยั่งยืนของมหาสมุทรเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์บริษัท
โลกต้องพึ่งพาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลในเรื่องความมั่นคงทางอาหาร การลดปัญหาสภาพภูมิอากาศ และการดำรงชีพทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประมงที่มีปริมาณมากเกินไป มลพิษ รวมถึงการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนและที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งล้วนแต่ทำลายความอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทรและท้องทะเล
นางสาวซานดรา โอเจียมโบ ผู้ช่วยเลขาธิการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร United Nations Global Compact กล่าวว่า
“ความมุ่งมั่นของทั้ง 150 บริษัทที่ยึดแนวทางเศรษฐกิจสีน้ำเงินในวันนี้ ในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลทรัพยากรของท้องทะเล แสดงให้เห็นว่า ภาคเอกชนมีความเต็มใจที่จะสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติในข้อที่ 14 ในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน มหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์นั้นอยู่ในมือทุกภาคส่วนที่จะร่วมมือกัน ดิฉันรู้สึกยินดีที่บริษัทต่างๆ ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะผนวกความอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทร์เข้าในกลยุทธ์ของบริษัท”
นายอดัม เบรนนัน ผู้อำนวยการกลุ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“ในฐานะบริษัทอาหารทะเลชั้นนำของโลก มหาสมุทรคือพื้นฐานของธุรกิจของเรา การปกป้องมหาสมุทรจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพื่ออนาคตของธุรกิจ แต่ยังรวมถึงโลกที่อุดมสมบูรณ์ และการดำรงชีพทางเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพามหาสมุทรของคนหลายล้านทั่วโลก เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก และได้สนับสนุนหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนโดยข้อตกลงแห่งสหประชาชาติที่สอดคล้องไปกับเป้าหมายของบริษัทในการดูแลสุขภาพที่ดีให้กับผู้คนไปพร้อมกับการดูแลความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเล”
ไทยยูเนี่ยนได้ร่วมกับบริษัทเศรษฐกิจสีน้ำเงินอีก 150 บริษัท อาทิ Mediterranean Shipping Company, Orsted, และ SAP SE ลงนามในหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนโดยข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ โดยบริษัทต่างๆ เหล่านี้ มาจาก 30 อุตสาหกรรม 35 ประเทศ และ 6 ทวีปทั่วโลก และมีมูลค่าการตลาดทั้งสิ้นรวมกันกว่า 1 ล้านล้านยูโร
เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติในข้อที่ 14 ในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ยังคงมีการลงทุนทางการเงินในระดับต่ำที่สุดในบรรดาเป้าหมายทั้ง 17 ข้อ มีความจำเป็นต้องเพิ่มความร่วมมือทางการเงินระหว่างภาครัฐและเอกชนในการดูแลเศรษฐกิจสีน้ำเงินเพื่อความยั่งยืน
UN Global Compact ได้ประกาศที่จะร่วมกับภาคีทั่วโลกในการพัฒนาแนวทางสำหรับตราสารหนี้สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอแนวทางให้กับตลาดทั่วโลกเกี่ยวกับการเงินที่ยั่งยืน โปร่งใส และสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน หนังสือแนวทางมีชื่อว่า Bonds to Finance the Sustainable Blue Economy: a Practitioner's Guide มีวัตถุประสงค์ที่จะให้ธุรกิจต่างๆ มีหลักเกณฑ์ แนวทางการปฏิบัติ และตัวอย่างที่ชัดเจนในการกู้ยืมและออกตราสารหนี้สีน้ำเงิน