‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ’ชู Suntory Leadership Spirit ผนึกทีมสร้าง Growth Culture ขับเคลื่อนองค์กร
08 Aug 2022

เพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์  บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด


 

‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ’ ชู ‘ทักษะผู้นำซันโทรี่’ (Suntory Leadership Spirit: SLS) สร้าง ‘5 ค่านิยม’ สู่ ‘วัฒนธรรมองค์กรเพื่อขับเคลื่อนสู่การเติบโต’ พร้อมใช้ความยืดหยุ่น คล่องตัวสร้าง ‘Engagement – Hard & Soft Skill’ ให้ทีมงานทั้งองค์กร และหนุนให้ ‘กล้าฝัน กล้าลอง กล้าทำ’ เพื่อปักหมุดความสำเร็จแบบ Moonshot ร่วมกัน เผย Gen Y เช้ากับวัฒนธรรม Yatte Minahare และ Gemba ได้เร็วสุด เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความเป็นผู้ประกอบการ

 

 

ในการดำเนินธุรกิจระดับนานาชาติอย่าง บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรสองประสานระหว่าง ‘ซันโทรี่’ จากญี่ปุ่น และ ‘เป๊ปซี่โค’ จากอเมริกาที่มีอายุกว่าหนึ่งศตวรรษนั้น การจะผสานทีมงานทั้งองค์กรทั่วประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวนั้นป็นภารกิจหลักที่องค์กรมองข้ามไม่ได้ เพื่อให้ทั้งองค์กรมองเป้าหมายเดียวกัน มีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมและสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์การบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลว่า

 

 

“สำหรับการขับเคลื่อนองค์กร ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ เพื่อการเติบโตนั้นในส่วนของการบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทฯ มุ่งเน้นขับเคลื่อนผ่าน ‘5 ค่านิยม’ ที่เรียกว่า ‘ทักษะผู้นำซันโทรี่’ (Suntory Leadership Spirit: SLS) เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรสู่การเติบโตจากพลังผนึกและความร่วมมือร่วมใจจากบรรดาบุคลากรทั่วประเทศ ตลอดจนการสร้าง Engagement กับทีมงาน บนพื้นฐานของความเสมอภาค ความหลากหลาย และความเท่าเทียมทางเพศ ด้วยการเปิดกว้างและการปรับเปลี่ยนในหลายมิติ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ตลอดการลดช่องว่างเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน”

 

 

ทักษะผู้นำซันโทรี่

ทั้งนี้ ‘ทักษะผู้นำซันโทรี่’ (Suntory Leadership Spirit: SLS) ประกอบด้วย ‘5 ค่านิยม’ นั่นคือ

  • Yatte Minahare (ยัตเตะ มินาฮาเระ) มีจิตวิญญาณของผู้กล้าลงมือทำ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มุ่งมั่น และไม่เคยยอมแพ้ มีพลังที่จะขับเคลื่อนและทุ่มเท คิดทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ที่มีคุณค่าและสร้างสรรค์ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมผ่านการทดลอง ด้วยการลงมือปฏิบัติ และเรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวไปพร้อมกัน เป็นค่านิยมที่มุ่งผลักดันให้เปลี่ยนความฝันเป็นความจริง ด้วยการเริ่มลงมือทำ เพราะถ้าไม่มีการกระทำ ผลลัพธ์ก็จะไม่บังเกิด ดังที่มีการกล่าวว่า FAILURE is an option, FEAR is not. (ความผิดพลาดนั้นเป็นทางเลือก แต่ความกลัวนั้นไม่ใช่ทางเลือก)
  • Gemba Focused มุ่งมั่นหลักการ Gemba (เกมบะ) ยึดมั่นปฏิบัติงานตามหลักการ Gemba เพื่อดูความต้องการและปัญหาที่จะเกิดจากผู้เกี่ยวข้องกับโซคุณค่า ซึ่งประกอบด้วย 3C นั่นคือ Customer (ร้านค้า คู่ค้า) – Consumer (ผู้บริโภค) - Colleague (ทีมงาน เพื่อนร่วมงาน) ด้วยการลงพื้นที่จริง เพื่อพบปะพนักงาน และรับฟังปัญหาจากหน้างาน และเพื่อทำความเข้าใจและชำแหละรากเหง้าปัญหาอย่างแท้จริง ตลอดจนการออกเยี่ยมร้านค้าที่เรียกว่า Gate Meeting เพื่อดูความต้องการและรับฟังปัญหา รวมทั้งแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ พัฒนาและส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่พวกเขา ซึ่งเป็นหลักการที่เน้นให้มุ่งหาทางแก้ปัญหาด้วยการออกไปเห็นด้วยตาตัวเอง
  • Better Together ความสำเร็จร่วมกัน การปฏิบัติงานด้วยความร่วมมือกับบุคคลอื่นทั้งที่อยู่ในแผนกเดียวกันและต่างแผนก เพื่อสนับสนุนให้เกิดมุมมองที่แตกต่างและมีความหลากหลาย รวมถึงสร้างให้เกิดวัฒนธรรมการยอมรับความแตกต่าง ตลอดจนการทำงานโดยไม่คำนึงถึงลำดับขั้นที่กำหนดไว้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของทีมให้ดียิ่งขึ้น เป็นค่านิยมที่มุ่งให้เกิดการทำงานร่วมกัน และมีความเป็นเอกภาพ แม้จะเป็นการทำงานโดยมีตัวแทนจากทุกฟังก์ชั่นเข้ามาทำงานด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน
  • Commitment to Growth มุ่งสู่อนาคต มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง และบุคคลอื่นให้มีความเจริญก้าวหน้าเติบโตแบบองค์รวมในระยะยาว ตลอดจนสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัว และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร โดยเป็นค่านิยมที่มุ่งมั่นจะเติบโตด้วยกัน ประสบความสำเร็จร่วมกัน ด้วยการสร้างความผูกพัน และทัศนคติที่ดีต่อองค์กร ซึ่งจากการประเมินของ HR ASIA นิตยสารชั้นนำด้านทรัพยากรบุคคลแห่งเอเชียระบุว่า คะแนนความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรสูงถึง 88.9% ขณะที่อัตราเข้าออกของพนักงานก็อยู่ที่  4.3 – 4.6% ขณะที่บริษัททางด้าน FMCG อยู่ที่ประมาณ 5-6%
  • Future Oriented มุ่งมั่นที่จะเติบโต คาดการณ์ความเป็นไปได้ต่างๆ ในอนาคตและปิดรับมุมมองใหม่ๆ สร้างสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างการสร้างความสำเร็จ ความต้องการระยะสั้นและมุมมองในระยะยาว ตลอดจนพัฒนาแผนงานที่เหมาะสมตามวิสัยทัศน์ของซันโทรี่ ‘Growing for Good’ เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเป็นค่านิยมที่หนุนให้มองไกลว่าเทรนด์ในอนาคต หรือตลาดในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในอนาคต พร้อมทั้งกำหนดกลยุทธ์องค์กรในภาพรวม ทั้งการทำให้แผนระยะสั้น ระยะยาวมีความสมดุล ตลอดจนการกำหนดโครงสร้างต้นทุน การขาย การตลาด การเงิน บุคลากร พร้อมทั้งทบทวนแผนงาน กลยุทธ์ขององค์กรตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งเพื่อตอบโจทย์การเติบโตแบบ Organic (การเติบโตจากภายในองค์กรเองโดยเข้าสู่ธุรกิจใหม่ หรือการเติบโตจากธุรกิจเดิม) และการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability Growth)

 

ในส่วนของการนำเสนอ 5 ค่านิยมดังกล่าว เพียงจิตกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับความเข้าใจที่มีต่อ 5 ค่านิยมทั้ง ‘ก่อนและหลัง’ ด้วย ในช่วงกุมภาพันธ์ และพฤศจิกายน 65 ตามลำดับ โดยการสำรวจในช่วงกุมภาพันธ์ได้คะแนนกว่า 70% และคาดว่า ช่วงพฤศจิกายนคะแนนจะขึ้นมากกว่า 90%

ทั้งนี้ ในระหว่างเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการเชิงปฏิบัติเป็นลำดับต่อไป อาทิ มีนาคม 65 ได้จัดทำ Visual Workshop กับพนักงานจากทุกหน่วยงานทั้งระยอง สระบุรี มีนบุรีและสำนักงานใหญ่เกี่ยวกับค่านิยม Yatte Minahare, เมษายน -พฤษภาคม 65 เป็นการเรียนออนไลน์ เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จได้ด้วย 5 ค่านิยมดังกล่าว

 

 

เชื่อม Gen X – Gen Y

ในส่วนของความหลากหลายนั้นมีทั้งในมิติของความหลากหลายทางเพศ และความหลากหลายของกลุ่มอายุของพนักงาน เพียงจิตกล่าวว่า สำหรับความหลากหลายทางเพศ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศอยู่แล้ว และเพิ่งร่วมแคมเปญ The Pride Month ในเดือนก่อน และเมื่อพิจารณาจากเพศของพนักงาน จะพบว่า บริษัทมีสัดส่วนพนักงานชาย 65 : หญิง 35 แต่เมื่อพิจารณาในระดับบริหารจะพบว่า ระดับบริหารมีพนักงานที่เป็นเพศหญิงถึง 54% ขณะที่อายุเฉลี่ยของพนักงานในบริษัทฯ อยู่ที่ 36 ปี และมีพนักงาน 2 เจนเนอเรชั่นที่เป็นกลุ่มใหญ่ นั่นคือ Gen X, Gen Y

 

 

เพียงจิตกล่าวถึงการเชื่อมเพื่อปิดช่องว่างระหว่างวัยของคนสองเจนเนอเรชั่นดังกล่าวว่า

“ด้วยธรรมชาติของคนสองรุ่นดังกล่าว Gen X จะเป็นเจนเนอเรชั่นที่ใช้ชีวิตอย่างเป็นระบบ มีแบบแผน และมีความเชื่อมั่นกับการทำงานหนัก ขณะที่ Gen Y จะเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance ดังนั้น ในการทำงานบริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมสนุกๆ เพื่อให้คนทั้งสองรุ่นสามารถร่วมทำกิจกรรมได้ รวมทั้งการจัดพื้นที่แบบ Office Friendly เพื่อให้เกิดการใช้ห้องประชุม และการใช้พื้นที่เพื่อให้ทุกคนได้มีความร่วมมือกันง่ายขึ้น โดยเฉพาะการออกแบบพื้นที่ในอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่มีแผนจะโยกย้ายในปีหน้า

 

ขณะเดียวกัน ก็มีการปรับระเบียบการทำงานเพื่อให้ยืดหยุ่น เหมาะสมกับสถานการณ์มากชึ้น อาทิ Flexi Place ที่เปิดโอกาสให้พนักงานทำงานจากบ้านได้สัปดาห์ละ 1 วันและกำลังศึกษาถึงระบบการทำงานแบบไฮบริดเพิ่มเติม,Flexi Schedule เนื่องจากพนักงานทำงานแตกต่างกัน ดังนั้น จึงกำหนดเวลาที่ประชุมร่วมกันในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. Flex Friday โดยบริษัทอนุญาตให้พนักงานสามารถใช้เวลากับครอบครัวได้ในวันศุกร์ โดยที่พนักงานจะต้องทำงานเพิ่มในวันอื่นๆ เพื่อสะสมเวลาทำงานสำหรับชดเชยการหยุดในวันศุกร์, Leave without Pay การลาโดยไม่รับเงินเดือน ซึ่งจะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ สำหรับเหตุผลการลาของแต่ละบุคคล ฯลฯ

 

 

เพียงจิต กล่าวถึงคน Gen Y กับ 5 ค่านิยมขององค์กรว่า

 

“Gen Y จะเข้าถึงค่านิยม Yatte Minahare และ Gemba ได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่กล้าคิด กล้าทำ และมีความเป็นผู้ประกอบการสูง ปรับเปลี่ยนเข้ากับสถานการณ์ได้เร็ว มี Agile & Growth Mindset”

[อ่าน 2,326]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“BVAX Master” โดย “หอแว่น Better Vision” ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาของคนทุก Generation
แอสเซนด์ มันนี่ ปักธง Virtual Bank อย่างเป็นทางการ! พร้อมเปิดมิติใหม่การเงินเพื่อคนไทยทุกคน
ไมเนอร์ โฮเทลส์ คว้า 26 รางวัลทรงเกียรติ จาก T+L Luxury Awards Asia Pacific ประจำปี 2025
ทรู หนุนสร้างที่ทำงานปลอดภัย เปิดกว้างทุกความหลากหลาย ผ่านคลับ “Bring Your Best” ในงาน “True Colors”
กรุงเทพประกันภัยเร่งจ่ายเคลมสินไหมจากเหตุแผ่นดินไหว สร้างความเชื่อมั่นด้วยการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่
เอไอเอ ประเทศไทย จัดพิธีมอบรางวัล “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ปีที่ 3 เชิดชูโรงเรียนทั่วประเทศ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved