เพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ’ ชู ‘ทักษะผู้นำซันโทรี่’ (Suntory Leadership Spirit: SLS) สร้าง ‘5 ค่านิยม’ สู่ ‘วัฒนธรรมองค์กรเพื่อขับเคลื่อนสู่การเติบโต’ พร้อมใช้ความยืดหยุ่น คล่องตัวสร้าง ‘Engagement – Hard & Soft Skill’ ให้ทีมงานทั้งองค์กร และหนุนให้ ‘กล้าฝัน กล้าลอง กล้าทำ’ เพื่อปักหมุดความสำเร็จแบบ Moonshot ร่วมกัน เผย Gen Y เช้ากับวัฒนธรรม Yatte Minahare และ Gemba ได้เร็วสุด เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความเป็นผู้ประกอบการ
ในการดำเนินธุรกิจระดับนานาชาติอย่าง บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรสองประสานระหว่าง ‘ซันโทรี่’ จากญี่ปุ่น และ ‘เป๊ปซี่โค’ จากอเมริกาที่มีอายุกว่าหนึ่งศตวรรษนั้น การจะผสานทีมงานทั้งองค์กรทั่วประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวนั้นป็นภารกิจหลักที่องค์กรมองข้ามไม่ได้ เพื่อให้ทั้งองค์กรมองเป้าหมายเดียวกัน มีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมและสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์การบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลว่า
“สำหรับการขับเคลื่อนองค์กร ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ เพื่อการเติบโตนั้นในส่วนของการบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทฯ มุ่งเน้นขับเคลื่อนผ่าน ‘5 ค่านิยม’ ที่เรียกว่า ‘ทักษะผู้นำซันโทรี่’ (Suntory Leadership Spirit: SLS) เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรสู่การเติบโตจากพลังผนึกและความร่วมมือร่วมใจจากบรรดาบุคลากรทั่วประเทศ ตลอดจนการสร้าง Engagement กับทีมงาน บนพื้นฐานของความเสมอภาค ความหลากหลาย และความเท่าเทียมทางเพศ ด้วยการเปิดกว้างและการปรับเปลี่ยนในหลายมิติ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ตลอดการลดช่องว่างเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน”
ทักษะผู้นำซันโทรี่
ทั้งนี้ ‘ทักษะผู้นำซันโทรี่’ (Suntory Leadership Spirit: SLS) ประกอบด้วย ‘5 ค่านิยม’ นั่นคือ
ในส่วนของการนำเสนอ 5 ค่านิยมดังกล่าว เพียงจิตกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับความเข้าใจที่มีต่อ 5 ค่านิยมทั้ง ‘ก่อนและหลัง’ ด้วย ในช่วงกุมภาพันธ์ และพฤศจิกายน 65 ตามลำดับ โดยการสำรวจในช่วงกุมภาพันธ์ได้คะแนนกว่า 70% และคาดว่า ช่วงพฤศจิกายนคะแนนจะขึ้นมากกว่า 90%
ทั้งนี้ ในระหว่างเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการเชิงปฏิบัติเป็นลำดับต่อไป อาทิ มีนาคม 65 ได้จัดทำ Visual Workshop กับพนักงานจากทุกหน่วยงานทั้งระยอง สระบุรี มีนบุรีและสำนักงานใหญ่เกี่ยวกับค่านิยม Yatte Minahare, เมษายน -พฤษภาคม 65 เป็นการเรียนออนไลน์ เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จได้ด้วย 5 ค่านิยมดังกล่าว
เชื่อม Gen X – Gen Y
ในส่วนของความหลากหลายนั้นมีทั้งในมิติของความหลากหลายทางเพศ และความหลากหลายของกลุ่มอายุของพนักงาน เพียงจิตกล่าวว่า สำหรับความหลากหลายทางเพศ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศอยู่แล้ว และเพิ่งร่วมแคมเปญ The Pride Month ในเดือนก่อน และเมื่อพิจารณาจากเพศของพนักงาน จะพบว่า บริษัทมีสัดส่วนพนักงานชาย 65 : หญิง 35 แต่เมื่อพิจารณาในระดับบริหารจะพบว่า ระดับบริหารมีพนักงานที่เป็นเพศหญิงถึง 54% ขณะที่อายุเฉลี่ยของพนักงานในบริษัทฯ อยู่ที่ 36 ปี และมีพนักงาน 2 เจนเนอเรชั่นที่เป็นกลุ่มใหญ่ นั่นคือ Gen X, Gen Y
เพียงจิตกล่าวถึงการเชื่อมเพื่อปิดช่องว่างระหว่างวัยของคนสองเจนเนอเรชั่นดังกล่าวว่า
“ด้วยธรรมชาติของคนสองรุ่นดังกล่าว Gen X จะเป็นเจนเนอเรชั่นที่ใช้ชีวิตอย่างเป็นระบบ มีแบบแผน และมีความเชื่อมั่นกับการทำงานหนัก ขณะที่ Gen Y จะเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance ดังนั้น ในการทำงานบริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมสนุกๆ เพื่อให้คนทั้งสองรุ่นสามารถร่วมทำกิจกรรมได้ รวมทั้งการจัดพื้นที่แบบ Office Friendly เพื่อให้เกิดการใช้ห้องประชุม และการใช้พื้นที่เพื่อให้ทุกคนได้มีความร่วมมือกันง่ายขึ้น โดยเฉพาะการออกแบบพื้นที่ในอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่มีแผนจะโยกย้ายในปีหน้า
ขณะเดียวกัน ก็มีการปรับระเบียบการทำงานเพื่อให้ยืดหยุ่น เหมาะสมกับสถานการณ์มากชึ้น อาทิ Flexi Place ที่เปิดโอกาสให้พนักงานทำงานจากบ้านได้สัปดาห์ละ 1 วันและกำลังศึกษาถึงระบบการทำงานแบบไฮบริดเพิ่มเติม,Flexi Schedule เนื่องจากพนักงานทำงานแตกต่างกัน ดังนั้น จึงกำหนดเวลาที่ประชุมร่วมกันในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. Flex Friday โดยบริษัทอนุญาตให้พนักงานสามารถใช้เวลากับครอบครัวได้ในวันศุกร์ โดยที่พนักงานจะต้องทำงานเพิ่มในวันอื่นๆ เพื่อสะสมเวลาทำงานสำหรับชดเชยการหยุดในวันศุกร์, Leave without Pay การลาโดยไม่รับเงินเดือน ซึ่งจะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ สำหรับเหตุผลการลาของแต่ละบุคคล ฯลฯ
เพียงจิต กล่าวถึงคน Gen Y กับ 5 ค่านิยมขององค์กรว่า
“Gen Y จะเข้าถึงค่านิยม Yatte Minahare และ Gemba ได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่กล้าคิด กล้าทำ และมีความเป็นผู้ประกอบการสูง ปรับเปลี่ยนเข้ากับสถานการณ์ได้เร็ว มี Agile & Growth Mindset”