‘ท่าเรือชินโจว กว่างซี’ ประตูเชื่อมสินค้าไทย – จีนตะวันตก ท่าเทียบเรืออัจฉริยะ รองรับสินค้าได้ถึง 3 แสนตัน
25 Sep 2022

ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง จัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “ท่าเรือชินโจว กว่างซี” ประตูเชื่อมสินค้าไทย – จีนตะวันตก ชี้ท่าเรืออัจฉริยะรองรับสินค้าได้ถึง 3 แสนตัน ถือเป็นโอกาสดีที่ผู็ประกอบการใทยจะใช้พิจารณาเป็นท่าเรือทางเลือกใหม่ที่มีข้อดี ทั้งให้ความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา มีจุดเชื่อมกับท่าเรือสำคัญในภูมิภาคและตั้งอยู่ใกล้กับภูมิภาคอาเซียนด้วย

 

 

กว่างซี หรือ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการค้าและการลงทุนที่เชื่อมต่อยุโรปตะวันออก จีนตะวันตก ไทย และอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยมีท่าเรือชินโจวเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาเส้นทางการค้าทางบกและทางทะเลระหว่างประเทศแห่งใหม่ (ILSTC) อีกทั้งยังเป็นประตูเชื่อมให้สินค้าจากประเทศไทยเข้าไปรุกในตลาดจีนตะวันตก ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกลางของจีนก็มุ่งพัฒนาท่าเรือชินโจวให้เป็นส่วนหนึ่งของการค้าแห่งใหม่ของจีนตะวันตกผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 และกรอบเขตการค้าเสรีของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)

 

ท่าเรือชินโจว เป็นท่าเทียบเรืออัจฉริยะแห่งที่ 5 ของจีน เป็นศูนย์กลางของกลุ่มท่าเรือตั้งอยู่ในเขตท่าเรือสินค้าทัณฑ์บนชินโจว (Qinzhou Free Trade Port Area) บริเวณรอบอ่าวเป่ยปู้กวางซี (อ่าวตังเกี๋ย) และเป็นจุดเชื่อมต่อของ ระเบียงการค้าระหว่างประเทศเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่”(New International Land-Sea Trade Corridor) ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่มณฑลภาคตะวันตกของจีนกำลังเร่งผลักดันเพื่อเชื่อมโยงยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ (New Silk Road) อีกทั้งเป็นท่าเรืออัตโนมัติแห่งแรกของจีนที่ให้บริการขนส่งทางทะเลและทางรถไฟหลายรูปแบบ สามารถรองรับเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 2 แสนตัน และมีคลังน้ำมันขนาด 3 แสนตัน และท่าเทียบเรือรองรับสินค้าเทกอง (Bulk) 3 แสนตัน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

 

 

นอกจากนี้  ท่าเรือดังกล่าวยังเป็นท่าเรืออัตโนมัติแห่งแรกของจีนที่ให้บริการขนส่งทางทะเลและทางรถไฟหลายรูปแบบ สามารถรองรับเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 2 แสนตัน และมีคลังน้ำมันขนาด 3 แสนตัน และท่าเทียบเรือรองรับสินค้าเทกอง (Bulk) 3 แสนตัน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ด้วยฟังก์ชัน Smart Port ท่าเรือชินโจวยังสามารถอำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกผลไม้สด ธัญพืช ผัก รถยนต์ และเนื้อสัตว์ ควบคู่ไปกับการพัฒนานโยบายศุลกากรแบบ International Single Window เพื่อลดขั้นตอนการขนส่งผ่านการเชื่อมโยงข้อมูล และมอบโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทยในตลาดจีนที่กำลังเติบโตอย่างมากได้ด้วย

อีกทั้งการดำเนินการตามความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-อาเซียน และการพัฒนาเขตการค้าเสรีนำร่องของจีน (กว่างซี) จะเป็นแรงผลักดันที่แข็งขันให้เกิดความร่วมมือใหม่ๆ เพิ่มเครือข่ายการเดินเรือ การค้าและอุตสาหกรรม รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งห่วงโซ่อุปทานในเขตเศรษฐกิจต่างๆ ที่สำคัญ เช่น นิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย เมืองฉงจั่ว นิคมอุตสาหกรรมระยองไทย-จีน เขตเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร เป็นต้น

 

 

ท่าเรือชินโจว มีข้อได้เปรียบหลายด้าน โดยเฉพาะฟังก์ชันรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ โดยมีโมเดล ‘เรือ+ราง’ ที่อำนวยความสะดวกให้สามารถขนส่งได้รวดเร็วขึ้น และประหยัดเวลา เนื่องจากใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือแหลมฉบังประมาณ 4-5 วัน  ดังนั้น จึงสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดต้นทุนรวมของการขนส่งได้มากถึง 18%-38% หากเปรียบเทียบกับการขนส่งผ่านเส้นทางอื่นๆ จากประเทศไทยไปประเทศจีน ด้วยระบบท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) ที่ Integrate เทคโนโลยี 5G ทำให้การขนส่งทำได้รวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้ที่ท่าเรือชินโจวมีความแออัดน้อย ทำให้การระบายตู้สินค้าไม่ต้องรอคิวนาน (คิวเรือเข้าเทียบท่า/ ขนถ่ายตู้สินค้า/ กระบวนการตรวจปล่อยสินค้าของศุลกากร) จึงช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบได้อย่างมาก

 

ท่าเรือชินโจว คือ โอกาสใหม่ของผู้ประกอบการไทย  โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น มันสำปะหลัง เป็นต้น นอกจากนี้ ท่าเรือชินโจวได้ถูกกำหนดให้เป็นด่านนำเข้าสินค้ากลุ่มเฉพาะ 3 ประเภท ได้แก่ ผลไม้นำเข้า ธัญพืชนำเข้า และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์นำเข้า ดังนั้น การค้าและการขนส่งผ่านท่าเรือชินโจวจึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่จะนำสินค้าเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการค้าที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีนที่หันมาสนับสนุนการบริโภคในประเทศมากขึ้น

 

 

 

[อ่าน 2,944]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติการ รีแบรนด์ Microsoft Office เมื่อ “AI” เข้ามาเปลี่ยนวิธีคิดการดีไซน์
ทำไม JW Anderson จึงโดดเด่นในการออกแบบกระเป๋าถืออันเป็นเอกลักษณ์
สี จิ้นผิง–เผิง ลี่หยวน เปิดงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำ SCO 2025 ที่เทียนจิน โชว์บทบาทเจ้าภาพผลักดันความร่วมมือภูมิภาค
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เดิมพันครั้งสุดท้าย? คว้า ‘อเล็กซานเดอร์ หวัง’ ขุนศึก AI ปั้นฝัน Superintelligence
AI ไม่ได้ฆ่า Google Search? เบื้องหลังปราการป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าที่คิด
“มาห์เล” เร่งเครื่องนวัตกรรมยานยนต์ ลดคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีหลากหลาย – หนุนสหภาพยุโรปแก้กฎหมาย CO₂
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved