ส่องวิกฤตอสังหาฯ จีน 1 ปีให้หลัง : สถานการณ์ดีขึ้นหรือแย่ลง ?
07 Dec 2022

Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนยักษ์ใหญ่เผชิญการขาดแคลนสภาพคล่อง

 

ผ่านไปกว่า 1 ปีแล้ว ตั้งแต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนยักษ์ใหญ่ Evergrande เผชิญการขาดแคลนสภาพคล่องและผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ตลาดต่างประเทศ (Offshore bond) มูลค่าประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ตลาดการเงินโลกเกิดความวิตกกังวลไปช่วงหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ภาคอสังหาฯ จีนเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤต หลังเริ่มมีสัญญาณความเปราะบางมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2020 เมื่อรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการสามเส้นแดงและมาตรการจำกัดการปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาฯ เพื่อลดการเก็งกำไรในตลาดอสังหาฯ ที่ร้อนแรงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาและลดการก่อหนี้ของบริษัทอสังหาฯ จีนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอยู่แล้วจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้บริษัทอสังหาฯ จีนไม่สามารถระดมทุนได้ ผลที่ตามมาคือราคาบ้านหดตัว การก่อสร้างหยุดชะงัก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง อีกทั้ง ยังกระทบไปถึงสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อและการจัดเก็บรายได้จากการขายที่ดินของรัฐบาลท้องถิ่นอีกด้วย

ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในภาคอสังหาฯ จีนอาจจะไม่ได้เป็นข่าวใหญ่ที่สุดในปีนี้เมื่อเทียบกับข่าวเศรษฐกิจโลกอื่นๆ อาทิ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นทั่วโลก และความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แต่ปัญหาในภาคอสังหาฯ จีนก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีหน้าเช่นกัน โดยเฉพาะไทยที่มีความสัมพันธ์กับจีนสูงในด้านการค้าและการลงทุน เนื่องจากภาคอสังหาฯ และการก่อสร้างคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 15% ของเศรษฐกิจจีน ในบทความนี้ SCB EIC จะประเมินสถานการณ์ในภาคอสังหาฯ จีนว่ามีความคืบหน้าไปในด้านลบหรือบวกอย่างไรบ้างในปี 2022 และมองแนวโน้มปี 2023 ว่าจะสามารถฟื้นตัวได้หรือไม่

 

ความคืบหน้าอสังหาฯ จีน ในด้านลบ

1. ตลาดอสังหาฯ จีนหดตัวสูง ขณะที่สัญญาณฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน : เมื่อเทียบกับปี 2021 แล้ว ตลาดอสังหาฯ จีนในปี 2022 ซบเซาลงอย่างมาก ทั้งในด้านการลงทุน (หดตัว -8.8%YOY ในช่วง 10 เดือนแรก) พื้นที่การก่อสร้างใหม่ (หดตัว -37.8%YOY) และพื้นที่ยอดขาย (หดตัว -22.3%YOY) หลังบริษัทอสังหาฯ ไม่สามารถลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างต่อไปได้เนื่องจากมีเงินทุนจำกัด ขณะที่ผู้ซื้อบ้านตัดสินใจเลื่อนการซื้อออกไปก่อนเนื่องจากกังวลว่าบริษัทอสังหาฯ จะไม่สามารถก่อสร้างโครงการให้เสร็จภายในกำหนดได้ อีกทั้ง ราคาบ้านอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลง ทั้งนี้บริษัทอสังหาฯ จีนนิยมขายบ้านแบบ Pre-sale หรือการขายบ้านก่อนที่จะเริ่มก่อสร้างโครงการเพื่อนำเงินทุนไปลงทุนในโครงการอื่น เนื่องจากเป็นช่องทางการระดมทุนที่เปรียบเสมือนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ซึ่งการขายบ้านล่วงหน้านั้น สามารถกระตุ้นภาคอสังหาฯ ได้ในยามที่ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้านอยู่ในระดับสูง แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้ซื้อบ้านไม่มั่นใจว่าโครงการที่ตนซื้อจะสร้างเสร็จหรือไม่ จึงกลายเป็นปัจจัยฉุดอุปสงค์ในภาคอสังหาฯ และกระทบต่อการระดมทุนของบริษัทอสังหาฯ จีน

2. การล็อกดาวน์ในจีนเข้มงวดขึ้นอีกครั้ง กระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค : ในปี 2022 จีนต้องเผชิญการระบาดของ COVID-19 รอบรุนแรงที่สุดสองระลอกด้วยกัน โดยในระลอกแรกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม จีนบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นมาตรการเข้มงวดที่สุดตั้งแต่การระบาดครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างมาก ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 6.1% ในเดือนเมษายน และความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เริ่มมีข้อมูลในปี 1990 โดยรายได้ประชากรที่ลดลงและมาตรการจำกัดการเดินทางเป็นอีกปัจจัยที่ซ้ำเติมให้อุปสงค์ในภาคอสังหาฯ ชะลอตัวลงอีก ที่สำคัญ จีนกำลังเผชิญการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งรุนแรงกว่ารอบก่อนหน้า นำไปสู่การล็อกดาวน์ในเมืองต่าง อีกครั้ง ซึ่งหากยืดเยื้อ ก็จะเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่กดดันการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ ต่อไป

3. รัฐบาลท้องถิ่นสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จำกัดมากขึ้น : รายได้จากการขายที่ดินถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับรัฐบาลท้องถิ่นจีน โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 42% ในปี 20201 ซึ่งหากรวมรายได้จากภาษีต่าง ที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว จะสูงถึง 52% เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ การชะลอตัวของภาคอสังหาฯ จึงส่งผลกระทบต่อฐานะการคลังของรัฐบาลท้องถิ่นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่การใช้จ่ายของรัฐบาลสูงขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลดภาษี และการอัดฉีดสภาพคล่องในธนาคารของรัฐ เป็นต้น ทั้งนี้รัฐบาลท้องถิ่นจีนได้เร่งออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี หลายมณฑลเริ่มมีระดับหนี้คงค้างใกล้ระดับเพดานที่กระทรวงการคลังจีนกำหนด ที่ 120% ของรายได้รัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละมณฑล ซึ่งอาจกระทบต่อการระดมทุนต่อไปในอนาคต รวมถึงการออกพันธบัตรรุ่นใหม่เพื่อชดเชยรุ่นเดิม (Rollover) อีกด้วย ปัจจัยนี้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่การคลังในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มมีจำกัดมากขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของ  ภาคอสังหาฯ และเศรษฐกิจจีนโดยรวมได้

4. ธนาคารขนาดเล็กเผชิญความเสี่ยงด้านเครดิตมากขึ้น : ภาคอสังหาฯ ที่เติบโตอย่างร้อนแรงในทศวรรษที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้มูลค่าสินเชื่อคงค้างที่ปล่อยให้กับบริษัทอสังหาฯ และผู้ซื้อบ้านเร่งตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเช่นกัน โดยในปี 2021 มูลค่าสินเชื่อคงค้างในภาคอสังหาฯ อยู่ที่ประมาณ 52 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 5 เท่าจากปี 2011 ซึ่งอยู่ที่เพียง 11 ล้านล้านหยวน และคิดเป็นสัดส่วน 27% ของสินเชื่อทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ ความสามารถการชำระหนี้ของบริษัทอสังหาฯ ที่ลดลงจึงเป็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ผู้ผ่อนบ้านส่วนหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจผ่านการทำ Mortgage boycott หรือการไม่ผ่อนหนี้ต่อในโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพระบบสถาบันการเงินเช่นกัน โดยเฉพาะในธนาคารขนาดเล็กที่มีฐานะเงินทุนที่ไม่แข็งแกร่งเท่าธนาคารขนาดใหญ่ และอาจกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้บริษัทอสังหาฯ ในระยะต่อไป


ความคืบหน้าอสังหาฯ จีน ในด้านบวก

1. รัฐบาลจีนประกาศการผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ในภาคอสังหาฯ : เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน รัฐบาลจีนได้ประกาศ 16 มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ โดยมีประเด็นสำคัญคือ การสนับสนุนการเข้าถึงสภาพคล่องของบริษัทอสังหาฯ และบริษัทก่อสร้าง การผ่อนผันการชำระหนี้ทั้งสินเชื่อธนาคารและหุ้นกู้ การผ่อนคลายข้อจำกัดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่ประกาศไว้เมื่อปี 2021 และการตั้งอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนองบ้านและอัตราเงินดาวน์ที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน คาดว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทอสังหาฯ เข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้านทยอยฟื้นตัวกลับมา และช่วยให้ภาคอสังหาฯ ฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นไป

2. นโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น : ในปี 2022 ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate 5 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านลง 35 BPS จากระดับ 4.65% สู่ระดับ 4.30% เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อและเศรษฐกิจ แสดงถึงภาวะการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นและลดภาระการชำระหนี้สำหรับบริษัทอสังหาฯ และผู้ซื้อบ้าน อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นผู้ซื้อบ้านที่อยู่ในระดับต่ำทำให้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้นยังไม่ได้มีผลต่ออุปสงค์สินเชื่อมากนัก แต่หากเศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจนขึ้นและบริษัทอสังหาฯ เข้าถึงสภาพคล่องได้มากขึ้นหลังผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ก็จะช่วยการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ ได้ในระยะต่อไป

 

แนวโน้มอสังหาฯ จีน ในอนาคต

ภาคอสังหาฯ จีนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้า ในระยะต่อไป พัฒนาการในปี 2022 สะท้อนว่าภาคอสังหาฯ จีนยังคงซบเซา แต่เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แพ็กเกจมาตรการล่าสุด 16 มาตรการที่ประกาศมา คาดว่าจะทำให้บริษัทอสังหาฯ จีนเข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้โครงการก่อสร้างดำเนินต่อไปได้ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวในที่สุด อย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างหนี้จำเป็นต้องใช้เวลาก่อนจะเห็นผลชัดเจน เช่นเดียวกับการก่อสร้าง การฟื้นตัวจึงจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจจีนในภาพรวม มีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการ Zero COVID ในปี 2023 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาได้บ้าง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคอสังหาฯ อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ภาคอสังหาจีนอาจจะไม่เติบโตร้อนแรงมากเท่าช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เคยกล่าวไว้ว่าบ้านมีไว้พักอาศัย ไม่ใช่เก็งกำไรรัฐบาลจีนจึงมีแนวโน้มที่จะดูแลตลาดอสังหาฯ ให้ขยายตัวอย่างเหมาะสมกับความต้องการที่พักอาศัยและไม่ให้เกิดการเก็งกำไรมากเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Common prosperity ที่ต้องการยกระดับความเท่าเทียมกันภายในเศรษฐกิจจีนด้วย

 


คลิกเพื่ออ่านบทวิเคราะห์ฉบับออนไลน์

1อ้างอิงจากการศึกษาของมหาวิทยาลัย CKGSB ประเทศจีน https://english.ckgsb.edu.cn/blog/land-finance-and-local-government-revenue-structures/

[อ่าน 1,655]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติการ รีแบรนด์ Microsoft Office เมื่อ “AI” เข้ามาเปลี่ยนวิธีคิดการดีไซน์
ทำไม JW Anderson จึงโดดเด่นในการออกแบบกระเป๋าถืออันเป็นเอกลักษณ์
สี จิ้นผิง–เผิง ลี่หยวน เปิดงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำ SCO 2025 ที่เทียนจิน โชว์บทบาทเจ้าภาพผลักดันความร่วมมือภูมิภาค
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เดิมพันครั้งสุดท้าย? คว้า ‘อเล็กซานเดอร์ หวัง’ ขุนศึก AI ปั้นฝัน Superintelligence
AI ไม่ได้ฆ่า Google Search? เบื้องหลังปราการป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าที่คิด
“มาห์เล” เร่งเครื่องนวัตกรรมยานยนต์ ลดคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีหลากหลาย – หนุนสหภาพยุโรปแก้กฎหมาย CO₂
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved