Bain & Co. บริษัทที่ปรึกษารายงานว่าตลาดจีนเป็นผู้บริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยที่สำคัญของโลก โดยคาดว่าผู้บริโภคชาวจีนจะมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่ง หรือคิดเป็น 46% ของตลาดสินค้าหรูหราทั่วโลกภายในปี 2025 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 35% ในปี 2019
.
ด้วยการล็อกดาวน์เป็นเวลานานหลายปีของโควิด-19 ทำให้ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยส่วนบุคคลของจีนลดลง 10% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2022 เหลือ 4.25 แสนล้านหยวน หรือ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้านาฬิกาหรูได้รับผลกระทบมากที่สุด ถือเป็นการสิ้นสุดการเติบโตของตลาดสินค้าหรูแบบก้าวกระโดดในรอบ 5 ปี จากการที่ตลาดสินค้าหรูในจีนอยู่ในช่วงขาขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
.
โดยตลาดเพิ่มขึ้นสองเท่าระหว่างปี 2019-2021 และแนวการเติบโตดังกล่าวสิ้นสุดลงในปี 2022 ซึ่งหยุดชะงักลงด้วยนโยบายปลอดโควิด การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดยังคงมีอยู่จนถึงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมชะลอตัว
.
อย่างไรก็ตาม หลังจีนประกาศเปิดประเทศเมื่อ 8 มกราคม 2023 อนาคตของตลาดสินค้าหรูที่ถูกขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูงก็กลับมาคึกคักและสดใสอีกครั้ง
.
"เราเห็นการฟื้นตัวที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในแง่ของสินค้าหรูหราและการบริโภคระดับไฮเอนด์" Winnie Wu หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านหุ้นของจีนของ Bank of America กล่าว
.
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนครอบครองสัดส่วนการจับจ่ายมหาศาลในตลาดสินค้าหรูคือการขยายตัวของชนชั้นกลางในแผ่นดินใหญ่ เป็นเหตุให้จำนวนชาวจีนที่สามารถซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2015 ชนชั้นกลางของจีนคิดเป็น 57% ของเศรษฐกิจ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 75% ภายในปี 2030 ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่าจะไม่มีการชะลอตัวอีกต่อไปในตลาดนี้ เนื่องจากชาวจีนมีความกระตือรือร้นที่จะโอบรับวิถีชีวิตใหม่ และพฤติกรรมการบริโภคแบบใหม่ที่เน้นความหรูหราเป็นพิเศษ
.
โดยผู้บริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยชาวจีนส่วนใหญ่จะชื่นชอบแฟชั่นและเครื่องประดับมากกว่าเครื่องหนังหรือกระเป๋า จึงคาดว่าสินค้าหรูทั้งสองประเภทนี้จะผลักดันการขยายตัวและอัตราการเติบโตของตลาดสินค้าหรูหราส่วนบุคคลในจีน
.
#ตลาดสินค้าหรู #จีน #MarketPlusOnline #MarketPlusDaily