‘บาร์บี้’ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ร่วมกับวัฒนธรรม เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับแบรนด์ได้อย่างไร
08 Aug 2023

ทราบหรือไม่ว่าจากในตอนแรกอุตสาหกรรมของเล่นปฏิเสธบาร์บี้ เพราะนำเสนอในสิ่งที่แปลกแหวกแนวไปจากธรรมเนียมปฏิบัติในยุคนั้น แต่ปัจจุบัน บาร์บี้กลับกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดและมีผู้คนชื่นชอบมากที่สุดทั่วโลก ‘ตุ๊กตาผมบลอนด์ขนาด 11.5 นิ้ว และบุคลิกอันโดดเด่นและน่าหลงใหลของแบรนด์’ สร้างยอดขายทั่วโลกประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022 และมีมูลค่าแบรนด์สูงถึง 590 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว

 

ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น บาร์บี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1959 ที่งาน New York International Toy Fair ในฐานะนางแบบแฟชั่นวัยรุ่น

กาลผ่านวันเปลี่ยน กระทั่ง 64 ปีต่อมา บาร์บี้ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจทางวัฒนธรรม สังคมวิทยา จิตวิทยา และการตลาด ด้วยการสร้างแบรนด์สัญลักษณ์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับแฟนๆ ทุกเพศทุกวัย  (ตุ๊กตาบาร์บี้ทำตลาดสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป)

 

Mattel บริษัทของเล่นเจ้าของบาร์บี้ ประสบความสำเร็จในการขยายวงจรชีวิตของแบรนด์บาร์บี้มานานกว่าครึ่งศตวรรษ

 

 

กระนั้นด้วยความงดงามและเพียบพร้อม เปรียบเสมือนดาบสองคมที่ทำให้บาร์บี้ได้รับทั้งคำชมและคำติในเวลาเดียวกัน โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจ

แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกตำหนิว่าสร้างความคาดหวังที่ไม่สมจริงเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของผู้หญิง ซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวก็ทำให้ Mattel นำเสนอตุ๊กตาบาร์บี้ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น

 

ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ ในขณะที่ของเล่นส่วนใหญ่ได้รับความนิยมเพียงสองหรือสามปี

แต่ความสำเร็จในระยะยาวของตุ๊กตาบาร์บี้ที่ก้าวสู่ทศวรรษที่ 7 ได้สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองและความสามารถในการปรับตัวของ Mattel ต่อวาทกรรมทางค่านิยม วัฒนธรรม และการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคม

 

enlightened แล้วเหตุใด ทำไม ‘บาร์บี้’ (Barbie) ถึงเป็นตัวอย่างที่ดีของ Creative Economy?

 

ตุ๊กตาบาร์บี้มักถูกมองว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เนื่องจากเหตุผลหลายประการ ดังนี้

 

 

  • แนวคิดที่เป็นนวัตกรรมแห่งยุคสมัย

บาร์บี้เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ Ruth Handler และนำสู่ตลาดโดย Mattel ในปี 1959 นับเป็นหนึ่งในตุ๊กตาแฟชั่นตัวแรกๆ ที่มุ่งเป้าไปที่เด็กๆ

นับเป็นการปฏิวัติวงการตุ๊กตาในเวลานั้น เนื่องจากเปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงได้เล่นและจินตนาการถึงบทบาทและอาชีพต่างๆ  ผ่านชุดและเครื่องประดับที่หลากหลายของบาร์บี้

 

  • ไอคอนทางวัฒนธรรม

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา บาร์บี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นตัวแทนของความงาม แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน

ตุ๊กตาระดับไอคอนนี้ได้ปรับตัวให้เข้ากับบรรทัดฐานทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา สะท้อนถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย และส่งเสริมให้ผู้คนยอมรับความแตกต่างและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

 

 

  • มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

บาร์บี้มีวิวัฒนาการและเพิ่มความหลากหลายไปตามกาลเวลา โดยปรับให้เข้ากับรสนิยมและความสนใจของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป

Mattel เปิดตัวบาร์บี้รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องโดยมีอาชีพ สไตล์ ภูมิหลัง เชื้อชาติ สีผิว สีผม สีตา รูปร่างที่แตกต่างกัน และอื่นๆ อีกมากมายที่สะท้อนถึงชีวิตของผู้คนในโลกแห่งความจริง ทำให้แบรนด์บาร์บี้มีความเกี่ยวข้องและดึงดูดเด็กรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา

 

  • การออกใบอนุญาตและการจำหน่ายสินค้า

ความนิยมของบาร์บี้นำไปสู่โอกาสในการออกใบอนุญาตและการจำหน่ายสินค้ามากมาย ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ รายการทีวี หนังสือ วิดีโอเกม แฟชั่น และการร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ขยายอิทธิพลของบาร์บี้และสร้างรายได้ให้กับ Mattel เป็นกอบเป็นกำ

 

 

  • สร้างดีมานด์อย่างยั่งยืนในตลาดของสะสม

บาร์บี้เป็นหนึ่งในของสะสมที่มีคุณค่าและเฟื่องฟู มีผู้ที่ชื่นชอบและบรรดานักสะสมต่างแสวงหารุ่นที่ผลิตและจำหน่ายแบบจำกัด (Limited Edition) รุ่นวินเทจ และรุ่นที่หายาก

เสน่ห์ของตุ๊กตาบาร์บี้ในแง่มุมนี้ ทำให้บาร์บี้ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาหรือของเล่น แต่ทว่ามีความยั่งยืนและส่งผลทางเศรษฐกิจในระยะยาว

 

  • การต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ดี

ความสำเร็จของบาร์บี้ยังกระตุ้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บ้านในฝันของบาร์บี้ ไลน์เสื้อผ้าในธีมบาร์บี้ และเครื่องประดับอื่นๆ

ผลิตภัณฑ์ที่แยกออกมาเหล่านี้มีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยรวมโดยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และกระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ๆ ในการออกแบบและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์

 

 

  • ผลกระทบเชิงบวกทางสังคมและการศึกษา

บทบาทของบาร์บี้ในการส่งเสริมการเล่นที่สร้างสรรค์และกระตุ้นให้เด็กๆ สำรวจเส้นทางอาชีพต่างๆ มีผลกระทบเชิงบวกทางสังคมและการศึกษา ผ่านการเล่น

เด็กๆ จะพัฒนาทักษะที่สำคัญ เข้าสังคม และเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการโดยรวม

 

  • ยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดี

ความนิยมที่ยาวนานกว่า 6 ทศวรรษของบาร์บี้ แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวของแบรนด์นี้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ความสามารถในการรักษาความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยง และการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภครุ่นใหม่เป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์สาย Creative Economy ที่ประสบความสำเร็จ

 

เหล่านี้คือคำตอบที่มีให้กับคำถามที่ว่าทำไมตุ๊กตาแฟชั่นในตำนานอายุอานามก็ปาเข้าไป 64 ปี เป็นวัยคุณย่า คุณยายแล้ว แต่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวๆ จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงทุกวันนี้

 


 

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของบาร์บี้กับการโลดแล่นบนโลกภาพยนตร์โดยใช้คนแสดง ทำให้เกิดความคลั่งไคล้ในหลายๆ ทาง ด้วยการสนับสนุนงบประมาณการตลาดของฮอลลีวูด

แม้การใช้จ่ายด้านการตลาดทั้งหมดของบาร์บี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สตูดิโอขนาดใหญ่จะจ่ายเงินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไปสำหรับการเปิดตัวครั้งสำคัญ

(งบการตลาดทั่วโลกสำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Little Mermaid มีค่าใช้จ่ายประมาณ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

นั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กระแสบาร์บี้กลับมาอีกครั้ง ทุกวันนี้เป็นเรื่องยากมากที่จะหาสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมจากพลัง ‘คลื่นสีชมพู’ ของบาร์บี้

ตั้งแต่แบรนด์ไฮสตรีทไปจนถึงไฮแฟชั่น น้ำมะนาวไปจนถึงชุดลำลอง พรมขนหนานุ่ม เคสโทรศัพท์  เมนูอาหารและเครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งที่พักตากอากาศ

 

 

ทั้งนี้สิ่งที่บาร์บี้ทำได้ดีมากและน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่งคือในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ที่สอดคล้องกับการพัฒนาทางเทคโนโลยี สังคม และวัฒนธรรม

เนื่องจาก Mattel ตระหนักดีว่าไม่เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงบทบาทของการเล่น จากความบันเทิงไปสู่การศึกษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริบทของวัฒนธรรมด้วย

โดยชี้ให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเห็นถึงความฝันหรือเป้าหมายในอนาคตที่เปลี่ยนจากการแสวงหาความสมบูรณ์แบบไปสู่การเติมเต็มศักยภาพของตัวเอง


สำหรับภาพยนตร์บาร์บี้ ถือเป็นพัฒนาการล่าสุดของแบรนด์นี้ที่น่าประทับใจเป็นอย่ามาก เพราะค่านิยมและวัฒนธรรมในปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เรื่องราวของบาร์บี้แสดงให้เห็นว่าในโลกที่เปลี่ยนแปลงและพลิกผันอย่างรวดเร็วนี้ แบรนด์ต่างๆ ต้องแสดงสองบทบาทที่ดูเหมือนขัดแย้งกันอย่างไร ในฐานะที่เป็นเครื่องมือทางธุรกิจ

แบรนด์จำเป็นต้องเป็นไอคอนที่สร้างการจดจำได้ทันทีผ่านดีเอ็นเอและตัวตนที่ชัดเจนของแบรนด์ แต่ในฐานะที่เป็นวัตถุทางวัฒนธรรม ก็จำเป็นต้องคำนึงถึงยุคสมัย พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทันที ภายใต้กระแสธารแห่งวัฒนธรรมที่ไม่หยุดนิ่ง

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จำเป็นต้องพัฒนาควบคู่กับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ผันผ่านไปตามกาลเวลา แต่ยังต้องคงความโดดเด่นและเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของตัวเองไว้ให้ได้

แบรนด์ที่จะโบยบินได้ไกลคือแบรนด์ที่เปิดโอกาสในการเติบโตอย่างไม่จำกัด ต้องสร้างแพลตฟอร์มแบรนด์ที่ไม่ขึ้นกับผลิตภัณฑ์และหมวดหมู่สินค้า

เพราะไม่เพียงแต่จะปลดล็อกแหล่งรายได้ใหม่ผ่านนวัตกรรมและการออกใบอนุญาตให้คู่ค้าผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แบรนด์สามารถปรับตัวและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน

กรณีของบาร์บี้ Mattel ตระหนักดีว่า พลังที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ตุ๊กตา แต่อยู่ในแบรนด์ ตุ๊กตาเป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาดที่ดีที่สุดของแบรนด์เท่านั้น

 


 

ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือของบาร์บี้กับ Balmain เมื่อปีที่แล้ว มีการเปิดตัวคอลเลกชั่นแฟชั่นสุดพิเศษพร้อมกับ NFT จำนวน 3 ชุดที่มีอวตารของบาร์บี้และเคน

สีและแบบอักษรอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถูกนำมาใช้ทั้งในเสื้อผ้าและตัวอักษรของ Balmain ทำให้ความร่วมมือนี้โดดเด่นแบบตะโกน!

 

 

นอกจากนี้ ยังต้องส่งเสริมชุมชนที่มีความจงรักภักดี เพราะกลุ่มแฟนตัวยงจะสนับสนุนแบรนด์ผ่านการวิจารณ์หรือการโต้เถียงแทนแบรนด์ โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

แบรนด์ต่างๆ ต้องมีจุดยืนในประเด็นทางสังคม ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะดำรงอยู่ได้โดยไม่ก่อให้เกิดความขุ่นเคืองใจ ดังนั้นการมีผู้คนที่สนใจเรื่องราวของแบรนด์จึงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับภาพยนตร์บาร์บี้ ดาราที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอาจไม่ใช่ มาร์กอต ร็อบบี้ ในบทบาร์บี้ และ ไรอัน กอสลิง ในบทเคน

แต่เป็นทีมงานการตลาดของภาพยนตร์ ที่วางแผนกลยุทธ์ต่างๆ มาเป็นอย่างดี และล่วงหน้าเป็นเวลานาน ซึ่งทำงานล่วงเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งตุ๊กตา ภาพยนตร์ และแบรนด์จะเปรี้ยงปร้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน

 

 

จำนวนสินค้าที่มีตราสินค้าของภาพยนตร์บาร์บี้มีอยู่มากมายก่ายกอง อาจจะเต็มตู้เสื้อผ้าหรืออาจจะทั้งบ้านเลยก็ว่าได้ (ถ้าซื้อทัน เพราะเกือบทั้งหมดแปะป้าน Sold Out ตั้งแต่เปิดจำหน่ายเพียงไม่กี่วัน)

ไม่ว่าจะเป็นคอลเลกชั่นของ Gap, Barbie x Bloomingdales, กระเป๋าเดินทางล้อลากสีชมพูกับ Beis แบรนด์กระเป๋าเดินทางสุดหรู , คอลเลกชั่นแคปซูล (คอลเล็กชั่นเฉพาะกิจ ที่ดีไซเนอร์ผลิตไอเท็มพื้นฐานเพียงไม่กี่ชิ้น ที่สามารถใส่ได้ตลอดเวลาและอยู่เหนือเทรนด์ เน้นฟังก์ชันและดีไซน์ที่คลาสสิก) กับ Superga แบรนด์รองเท้าผ้าใบ, เซ็ตเครื่องสำอางและสกินแคร์มากมายเกินกว่าที่เราจะนับได้

คอลเลกชั่นพิเศษจาก Crocs, เครื่องประดับจาก Fossil, สารพันแอกเซสซอรีจาก Casetify, คอลเลกชั่นรองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับจาก ALDO,  แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Joybird มีที่นั่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาบาร์บี้ดรีมเฮาส์เพื่อตกแต่งบ้าน

และมีแม้กระทั่งบาร์บี้ชีสเบอร์เกอร์รุ่นลิมิเต็ดจาก Burger King ที่ราดซอสสีชมพูกวนๆ

 

 

นอกจากนี้ ยังมีโรลเลอร์เบลดบาร์บี้สีนีออนสุดแสบตาจาก Impala Skate ซึ่งกลายเป็นไวรัลหลังจากภาพในฉากรั่วไหลออกไป กองทัพโรลเลอร์เบลดที่สวมรองเท้าสเก็ตพอดีตัวได้โปรโมตภาพยนตร์บาร์บี้ที่งาน New York City Pride ในปีนี้ หรือเซอร์ไพรส์เปิดบ้านในฝันของบาร์บี้ในมาลิบูที่จองได้บน Airbnb

ขณะเดียวกันก็มี Xbox ตุ๊กตาบาร์บี้ที่ดูเหมือนบ้านตุ๊กตาเล็กๆ และ Nintendo Switch รุ่นตุ๊กตาบาร์บี้สีชมพู รวมถึง Roku City ออกแบบเกมใหม่ให้ดำเนินเนื้อเรื่องภายในบ้านในฝันของบาร์บี้และปะรำโรงภาพยนตร์ที่โฆษณาภาพยนตร์เรื่องนี้

และยังมี Google ที่เมื่อค้นหาคำหลักใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ในขณะนี้ หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู และประกายสีชมพูวิบวับโปรยปรายลงมาบนหน้าจอ

 

 

จากพลังที่ล้นเหลือและไร้ขีดจำกัดของบาร์บี้ จึงไม่แปลกใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ดึงดูดเหล่าเกมเมอร์ และดึงดูดใจผู้ที่ชอบสะสมสิ่งของสำหรับบ้าน รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสเก็ต และรองเท้า เพราะโลกของบาร์บี้เป็นโลกแฟนตาซีเหนือจริงมาโดยตลอด

ตุ๊กตาที่อาศัยอยู่ในโลกที่สมบูรณ์แบบ ผู้ซึ่งกระโดดจากอาชีพหนึ่งไปสู่อีกอาชีพหนึ่งโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขวางทางเธอ จะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนหรือจะชอบทำกิจกรรมอะไรก็ได้ ทำให้บาร์บี้มีเพื่อนนับล้านที่อยู่เคียงข้างเธอ

และนี่คือตัวอย่างและ Creative Economy ในฝัน

[อ่าน 5,832]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยูนิโคล่ สนับสนุนทัวร์นิทรรศการ KAWS + Warhol พร้อมจัดแสดงครั้งแรกที่พิตต์สเบิร์ก
คาร์เทียร์จัดนิทรรศการ Crystallization of Time พร้อมการเรียบเรียงใหม่บนพื้นที่ใหม่
SiteMinder สานต่อความร่วมมือกับ Trip.com ตอบรับการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวของจีน
มงต้องลงแล้ว Miss AI เวทีประกวดนางงามจาก AI ครั้งแรกของโลก!
‘Digital Art Toy’ ภาคต่อที่เพิ่มมูลค่าให้กับ ‘ของเล่นศิลปะ’
พบความเชื่อมโยง แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก
กับเหตุสังหารหมู่โลมา เมืองไทจิ ประเทศญี่ปุ่น
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved