Sony และ Siemens เปิดตัวชุดหูฟังและจอแสดงผลความเป็นจริงผสม (Mixed Reality) ที่ออกแบบมาสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมที่งาน CES 2024 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อต่อกรกับ Vision Pro ของ Apple
ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งสองค่ายได้ร่วมมือกันพัฒนาชุดหูฟังและจอแสดงผลสำหรับวิศวกรรมและการออกแบบ ซึ่งเตรียมเปิดตัวในปลายปีนี้
โดยชุดหูฟังความเป็นจริงผสมนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับมืออาชีพที่ต้องการขยายประสิทธิภาพการทำงานและการแก้ปัญหาภายใน Industrial Metaverse (การผสมผสานระหว่างโลกดิจิทัลและทางกายภาพที่เร่งประสิทธิภาพผ่านวิศวกรรม การผลิต และการบริการภาคสนาม)
และอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มองหา Vision Pro ของ Apple
ทั้งสองบริษัทใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์เด่นนี้
โดย Siemens รวมโลกแห่งความเป็นจริงและโลกดิจิทัลเข้ากับซอฟต์แวร์ NX Immersive Designer ใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีการโต้ตอบ 3 มิติที่แม่นยำ ความเที่ยงตรงของภาพอันน่าทึ่ง และการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น
ซึ่งโซลูชันทางวิศวกรรมที่สมจริงนี้กำลังเปลี่ยนแปลงเกมการแข่งขันในพื้นที่ CAD (การนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในงานออกแบบและเขียนแบบ)
ขณะที่ Sony ประดิษฐ์จอแสดงผลแบบสวมศีรษะ (HMD) โดยพัฒนาขึ้นใน NX Immersive Designer เพื่อให้การควบคุมเฉพาะทางวิศวกรรมที่ปรับให้เหมาะกับผู้ใช้ NX Immersive Designer
ดร. Roland Busch ซีอีโอของ Siemens กล่าวว่า ชุดหูฟังและจอแสดงผลนี้ จะถูกใช้ภายใน Industrial Metaverse
ซึ่งเขาอธิบายว่าเป็น "พื้นที่ที่ดื่มด่ำซึ่งผู้คนและ AI สามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์เพื่อแก้ไขปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง
และช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเร่งสร้างนวัตกรรม เพิ่มความยั่งยืน รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ได้เร็วขึ้นและแพร่หลายในวงกว้าง
ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งของอุตสาหกรรมทั้งหมดและชีวิตประจำวันของเรา”
ชุดหูฟังและจอแสดงผลนี้จะมีจอแสดงผลขนาดเล็ก 4K OLED และควบคุมโดยใช้ตัวควบคุมคู่หนึ่ง
โดยตัวหนึ่งเป็นคอนโทรลเลอร์ VR ที่มีดีไซน์แบบดั้งเดิม แต่อีกตัวสวมอยู่บนนิ้วเพียงนิ้วเดียว เพื่อโต้ตอบกับวัตถุ 3 มิติได้อย่างง่ายดาย
ในงาน CES 2024 มีการสาธิตกรณีการใช้งานชุดหูฟังและจอแสดงผลที่กำลังได้รับการจับตานี้
โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้ Digital Twins (แบบโมเดลจำลองเสมือนจากวัตถุทางกายภาพ ทำให้สามารถทำงานได้เหมือนกับวัตถุจริง ซึ่งวัตถุในที่นี้อาจจะเป็น รถยนต์ ตึก หรือแม้กระทั่งเมืองหนึ่งในโลก)
ซึ่งเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์หรือการออกแบบเสมือนจริงที่มีรายละเอียดสูง สามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ ลดต้นทุนการผลิตได้ด้วยการสร้างต้นแบบการออกแบบของตนใน Metaverse
ชุดหูฟังและจอแสดงผลความเป็นจริงผสมจาก Sony และ Siemens ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ Xcelerator ซอฟต์แวร์การแปลงดิจิทัลของ Siemens
ซึ่งรวมฮาร์ดแวร์ IoT เข้ากับระบบนิเวศแบบเปิดของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีและพันธมิตรทางอุตสาหกรรม ช่วยให้การทำงานร่วมกันดีขึ้น
ด้าน Yoshinori Matsumoto รองประธานบริหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและการบ่มเพาะของ Sony กล่าวว่า
"ที่ Sony เรามีความหลงใหลในการเพิ่มศักยภาพให้กับครีเอเตอร์ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และในด้านการสร้างสรรค์เนื้อหาเชิงพื้นที่
เราประสบความสำเร็จในการคิดค้นวิธีการใหม่ๆ เพื่อให้พวกเขาทำงานโดยใช้เทคโนโลยีการเคลื่อนไหวและการแสดงผลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา
ด้วยการรวมเทคโนโลยีของเราเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของ Siemens เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดใช้งานวิศวกรรมที่ล้ำลึกขึ้น
ซึ่งจะกำหนดขั้นตอนการทำงานประจำวันของนักออกแบบและวิศวกรใหม่ การเรนเดอร์คุณภาพสูง สมจริง และการโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติ จะช่วยให้ผู้สร้างมีเครื่องมือในการดำเนินกระบวนการสร้างสรรค์ที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น
ซึ่งจะขับเคลื่อนนวัตกรรมเพิ่มเติมใน Industrial Metaverse”
นอกจากนี้ Siemens ยังร่วมมือกับ Amazon Web Services (AWS) เพื่อนำ AI เชิงสร้างสรรค์มาสู่นักพัฒนาอุตสาหกรรมอีกด้วย
ทั้งนี้ The Brainy Insights ประมาณการว่าตลาดความเป็นจริงผสมทั่วโลกจะเติบโตจาก 1.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 เป็น 25.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2575
#Sony #โซนี่ #Siemens #ซีเมนส์ #NXImmersiveDesigner #VisionPro #Apple #แอปเปิล #MarketPlusDaily #MarketPlusUpdate