เซเว่น-อีเลฟเว่นพร้อมรับชำระเงินด้วยอี-วอลเล็ทจากต่างประเทศผ่าน แอป อาลีเพย์พลัส
14 Feb 2024
  • อาลีเพย์พลัสเพิ่ม 9 อี-วอลเล็ทจากต่างประเทศ รวมเป็น 13 เพื่ออำนวยความสะดวกให้การชำระเงินแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยให้ครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม
  • จากความร่วมมือกับ เคาน์เตอร์ เซอร์วิส แอปพาร์ทเนอร์ของอาลีเพย์พลัสสามารถใช้ชำระเงินค่าสินค้าและบริการที่ เซเว่น-อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ ต่อยอดการใช้งานอาลีเพย์ (จากจีนแผ่นดินใหญ่) ที่สามารถใช้ชำระเงินได้ตั้งแต่ปี 2016
  • เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน อาลีเพย์พลัส และเซเว่น-อีเลฟเว่นจัดแคมเปญพิเศษที่เซเว่น-อีเลฟเว่น

 

เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) เพิ่มตัวเลือกช่องทางการชำระเงินผ่าน 13 อี-วอลเล็ทจากต่างประเทศผ่านอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ผู้ให้บริการด้านธุรกรรมการชำระเงินแบบดิจิทัลระหว่างประเทศ และแพลตฟอร์มการตลาด บริหารงานโดย แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการแก่นักท่องเที่ยวที เซเว่น-อีเลฟเว่นในกว่า 14,500 สาขา ทั่วประเทศ โดยการให้บริการดังกล่าวคือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนโดยมี เคาน์เตอร์ เซอร์วิส (Counter Service) เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อการบริการระหว่าง อาลีเพย์พลัส และเซเว่น-อีเลฟเว่น เข้าด้วยกัน

 

เมื่อเร็วๆ นี้ อาลีเพย์พลัส ได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรผู้ให้บริการอี-วอลเล็ทต่างประเทศเพื่อรองรับการชำระเงินค่าสินค้าที่เซเว่น-อีเลฟเว่นในประเทศไทย โดย อี-วอลเล็ทที่รองรับการชำระเงินได้แก่ MyPB by Public Bank Berhad จากมาเลเซีย, Naver Pay และ Toss Pay จากเกาหลีใต้, Changi Pay และ OCBC Digital จากสิงคโปร์, GCash จากฟิลิปปินส์, Hipay จากมองโกเลีย , MPay จากเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, และ Tinaba จากอิตาลี

 

อี-วอลเล็ท อาลีเพย์ (Alipay) จากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศไทยได้มาตั้งแต่ปี 2015 ในขณะที่ AlipayHK จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, Kakao Pay จากเกาหลีใต้ และ Touch ‘n Go eWallet จากมาเลเชีย เริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา

 

เทศกาลตรุษจีนซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากกว่า 1 ล้านคนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศกว่า 28.4 พันล้านบาท (หรือราว 800 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศมากที่สุดในช่วงเทศกาลดังกล่าวคือนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ และนักท่องเที่ยวจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง[1]

 

เซเว่น-อีเลฟเว่นมีสาขากว่า 14,500 แห่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยเซเว่น-อีเลฟเว่นไม่เพียงเป็นร้านสะดวกซื้อที่เหมือนเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการรับประทาน แต่ยังเป็นร้านค้าที่มีสินค้าครบครันตอบโจทย์ในที่เดียวทั้งสินค้าพื้นฐานเพื่อการอุปโภคและบริโภค ของที่ระลึกและสินค้าพื้นบ้าน สินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับคนรักสุขภาพ อาทิ ไข่ต้มพร้อมรับประทาน อกไก่พร้อมรับประทาน หรือเครื่องดื่มโปรตีนเชค เป็นต้น

 

วีรเดช อัครผลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า

“เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ระบบเทคโนโลยีการชำระเงินชั้นนำระดับโลกที่เชื่อถือได้ ได้เสริมประสิทธิภาพและขอบเขตการให้บริการช่องทางการชำระเงินแบบดิจิทัลสำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ เซเว่น-อีเลฟเว่น เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้คน โดยให้บริการด้านการเงิน การชำระเงินค่าประกัน ค่าบัตรเข้าชมกีฬาและคอนเสริต ชำระเงินเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ และจากกระแสความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวที่กำลังเพิ่มขึ้น เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ได้มีการวางระบบเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว และพร้อมเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อเพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่เดินทางมาจากทั่วโลกด้วยช่องทางการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยว”

 

ปัจจุบัน อาลีเพย์พลัส ให้บริการใน 57 ประเทศ โดยเชื่อมโยงผู้ค้ากว่า 88 ล้านรายทั่วโลกเข้ากับบัญชีผู้ใช้ 1.5 พันล้านบัญชีผ่านอี-วอลเล็ท และแอปชำระเงินชั้นนำกว่า 25 รายการ ในประเทศไทย อาลีเพย์พลัสเดินหน้าเพิ่มเครือข่ายร้านค้าพันธมิตรอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันร้านค้าพันธมิตรนั้นครอบคลุมทั้งในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว อาทิ ห้างสรรพสินค้าในเครือ เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, เดอะ มอลล์ กรุ๊ป และร้านค้าแบรนด์ไทยยอดนิยมอย่าง คิงเพาเวอร์ และจิม ทอมสัน

 

สิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทย แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า

“ประเทศไทยคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับโลกที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเรารู้สึกดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวผ่านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล และทำงานร่วมกับร้านค้า รวมถึงพาร์ทเนอร์อย่างกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียนมาประเทศไทย ผ่านความสะดวกและสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายที่ไร้กังวลให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งเพื่อช่วยธุรกิจในประเทศให้สามารถสร้างรายได้ผ่านการเติมโตด้านการท่องเที่ยว

 

และเพื่อเป็นการตอบรับเทศกาลท่องเที่ยวที่กำลังดำเนินอยู่  อาลีเพย์พลัส ร่วมกับ เซเว่น-อีเลฟเว่น ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้งานแอปอาลีเพย์พลัส ด้วยคูปองส่วนลดกว่า 50%

[อ่าน 937]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Dr. Kaimook Clinic ชี้เทรนด์ศัลยกรรมมาแรง! “สมดุล ละมุนตา” เน้นความแลดูเป็นธรรมชาติ น้อยแต่มาก
เหตุผลที่ทำให้ HONOR Magic V5 เป็นมือถือจอพับที่บาง แข็งแรง และดีที่สุดในตลาด
จากบ้านสู่โลก: KTC FIT Talk 19 ผนึกพลังพันธมิตร ดันโซลูชันพลังงานสะอาด ลดคาร์บอน สู่เป้าหมาย Net Zero
LINE MAN Wongnai เข้าซื้อกิจการ JERA Cloud
 ขยายพรมแดนธุรกิจ สู่ธุรกิจความงามและสุขภาพ
KFC ประเทศไทย ฉลองเดือนเกิดผู้พัน เปิดตัวกล่องสุ่มลิมิเต็ด “เบบี้ แซนเดอร์ส คอลเลกชัน”

เซ็นทรัลพัฒนา คว้ารางวัลใหญ่ ASEAN Corporate Governance Scorecard ตอกย้ำองค์กรธรรมาภิบาลดีเด่น นักลงทุนเชื่อมั่น
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved