ในโลกของศิลปะดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เทรนด์ใหม่กำลังเกิดขึ้นและน่าจับตาเป็นอย่างมากก็คือ ‘ของเล่นศิลปะดิจิทัล’ ของสะสมเชิงนวัตกรรมเหล่านี้กำลังเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับการสะสม และทำให้เส้นแบ่งระหว่างของเล่นศิลปะที่จับต้องได้และของเล่นศิลปะดิจิทัลไม่ชัดเจน
หนึ่งในแพลตฟอร์มที่อยู่แถวหน้าของการเคลื่อนไหวนี้คือ ArToys ซึ่งอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้นที่รวบรวมนักออกแบบของเล่นศิลปะ งานศิลปะ แบรนด์ และนักสะสม โดยเชื่อมช่องว่างระหว่างของสะสมดิจิทัลและของจริงในอุตสาหกรรมของเล่นศิลปะ
ArToys ใช้งานง่ายและมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นสำหรับทั้งแบรนด์และนักสะสม แต่ของเล่นศิลปะดิจิทัลเป็นอนาคตของการสะสมหรือเป็นเพียงกิมมิคที่สร้างสีสันและเพิ่มมูลค่าให้กับของเล่นศิลปะชิ้นนั้นๆ กันแน่ เราชวนผู้อ่านทุกท่านร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ของเล่นศิลปะดิจิทัลมีหลายรูปแบบ แต่ละชิ้นมอบประสบการณ์การสะสมที่ไม่เหมือนใคร ประเภทแรกคือ ของเล่นศิลปะดิจิทัล ในรูปแบบคาแรกเตอร์ 3 มิติ รุ่นลิมิเต็ด ที่มีเฉพาะในรูปแบบดิจิทัลเท่านั้น
ของเล่นศิลปะเหล่านี้สามารถจัดเก็บไว้ส่วนกลางบนเซิร์ฟเวอร์ของ ArToys หรือในบล็อกเชน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้และป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของสินค้าปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบ
ส่วนของเล่นศิลปะดิจิทัลอีกประเภทที่น่าสนใจคือ ‘Digital Twin’ หรือ ‘Phygital Toy’ ซึ่งเป็นแบบจำลองดิจิทัลของของเล่นศิลปะทางกายภาพ เมื่อซื้อของเล่นจริง นักสะสมจะได้รับ ‘แฝดดิจิทัล’ เช่นกัน
ซึ่งสามารถแลกได้โดยใช้รหัส QR หรือชิป NFC ด้วยการบูรณาการองค์ประกอบทางกายภาพและดิจิทัลนี้เพิ่มมิติใหม่ให้กับประสบการณ์การสะสมมีคุณค่าและน่าดึงดูดมากขึ้น
หนึ่งในแง่มุมที่น่าตื่นเต้นของของเล่นศิลปะดิจิทัลคือ ความสามารถในการโต้ตอบกับของเล่นในรูปแบบที่ไม่เหมือนของเล่นศิลปะแบบดั้งเดิม ด้วย ArToys นักสะสมสามารถสำรวจของเล่นศิลปะดิจิทัลของตนในแบบ 3 มิติ โดยรับชมจากทุกมุมด้วยความละเอียดสูง เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ช่วยให้ของเล่นศิลปะดิจิทัลมีชีวิต โดยบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอในโลกทางกายภาพ นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้จะสามารถปรับแต่งและใช้ในเกม ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นที่ดื่มด่ำ
ไม่เพียงเท่านี้ ArToys ยังก้าวไปไกลกว่าการสะสมแบบดั้งเดิม ด้วยการนำเสนอตัวเลือกการปรับแต่ง เปิดโอกาสให้นักสะสมสามารถรวมแอนิเมชันขนาดเล็กหรือแม้แต่ของเล่นศิลปะดิจิทัลแบบแอนิเมชันเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มการโต้ตอบและการมีส่วนร่วม
แพลตฟอร์มดังกล่าวยังช่วยให้สามารถสร้างอุปกรณ์เสริมเครื่องสำอางหรือเกมเพิ่มเติมได้ ช่วยให้นักสะสมสามารถปรับแต่งของเล่นตามความต้องการได้ ในขณะที่งานศิลปะวอลเปเปอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มเสน่ห์และคุณค่าทางศิลปะให้กับของเล่นศิลปะได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าของเล่นศิลปะดิจิทัลเป็นตัวแทนของขอบเขตอันน่าตื่นเต้นในโลกแห่งการสะสม จากการนำเสนอประสบการณ์แบบไดนามิกและการโต้ตอบที่นอกเหนือไปจากของสะสมทางกายภาพแบบดั้งเดิม
ด้วยความสามารถในการสำรวจ เล่น และปรับแต่ง นักสะสมสามารถมีส่วนร่วมกับของเล่นศิลปะของตนในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
การบูรณาการ AR เทคโนโลยีบล็อกเชนและตัวเลือกการปรับแต่งจะเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้สำหรับทั้งศิลปินและนักสะสม
แม้ว่าบางคนอาจมองว่าของเล่นศิลปะดิจิทัลเป็นแค่กิมมิค แต่ความจริงแล้วของเล่นศิลปะดิจิทัลมีศักยภาพที่จะกลายเป็นส่วนสำคัญของการสะสม
ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและศิลปะดิจิทัลโดยทั่วไปได้รับการยอมรับ ความต้องการของสะสมดิจิทัลก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ฟีเจอร์และประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่นำเสนอโดยแพลตฟอร์มอย่าง ArToys จึงปูทางไปสู่ยุคใหม่แห่งการสะสม ยุคที่ขอบเขตระหว่างงานศิลปะทางกายภาพและศิลปะดิจิทัลพร่ามัว และความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด
ของเล่นศิลปะดิจิทัลกำลังปฏิวัติประสบการณ์การสะสม โดยนำเสนอการผสมผสานของเทคโนโลยี การโต้ตอบ และการแสดงออกทางศิลปะ ArToys ซึ่งมีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและของเล่นดิจิทัลหลากหลายประเภท ถือเป็นแนวหน้าของการเคลื่อนไหวนี้
แม้ว่าอนาคตของการสะสมอาจยังคงมีการพัฒนาไป แต่ก็ชัดเจนว่าของเล่นศิลปะดิจิทัลมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนวิธีที่เรารวบรวมและชื่นชมงานศิลปะ ไม่ว่าของเล่นจะกลายเป็นจุดสนใจหลักของนักสะสมหรือยังคงเป็นส่วนเสริมที่น่าตื่นเต้นของคอลเลกชันแบบดั้งเดิม ของเล่นศิลปะดิจิทัลก็กำลังเข้ามามีบทบาทในโลกแห่งศิลปะและการสะสมอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับในภาพรวมของอุตสาหกรรมศิลปะดิจิทัล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น ศิลปินดิจิทัลไม่จำเป็นต้องผ่านสถาบันศิลปะที่เป็นตัวกลางอย่างแกลเลอรีหรือพิพิธภัณฑ์อีกต่อไป และยังสามารถโต้ตอบกับผู้ชมได้โดยตรงมากขึ้น
Polaris Market Research รายงานว่า ตลาดงานศิลปะดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่า 4,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 และคาดว่าจะมีอัตราเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 15.40%
ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนคือ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี AR และ VR ที่หนุนให้งานศิลปะดิจิทัลก้าวไปไกลกว่าหน้าจอแบบเดิมๆ นำไปสู่ยุคแห่งประสบการณ์ที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริง
AR ช่วยให้สามารถซ้อนทับงานศิลปะดิจิทัลลงสู่โลกทางกายภาพ โดยให้ผู้ชมได้สัมผัสกับงานศิลปะแบบโต้ตอบได้ ในทางกลับกัน VR จะทำให้ผู้ใช้ดื่มด่ำไปกับพื้นที่ศิลปะเสมือนจริง ซึ่งก้าวข้ามแนวคิดดั้งเดิมของการนำเสนอทางศิลปะ การเปลี่ยนแปลงไปสู่ประสบการณ์ที่ตราตรึงนี้ได้กระตุ้นให้ความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นไปได้ของศิลปินพวยพุ่งมากขึ้น โดยปลดล็อกขอบเขตการมีส่วนร่วมทางประสาทสัมผัสที่ไม่เคยมีมาก่อน
อย่างไรก็ตาม การละเมิดลิขสิทธิ์ดิจิทัลและการคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นปัจจัยที่ขัดขวางการเติบโตของตลาดงานศิลปะดิจิทัล ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการจำลองและการเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งศิลปินและแพลตฟอร์มต่างก็ต่อสู้กับการปกป้องสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในโดเมนดิจิทัล โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จำเป็นในการดำเนินการบังคับใช้ลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด และด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่กล่าวมา จะช่วยเสริมปราการและสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดนี้ได้
บทความจากนิตยสาร MarketPlus ฉบับที่ 165 April