มูลค่าตลาดของ Nvidia พุ่งทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้า Apple และกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับสองของโลก โดยราคาหุ้นของบริษัท Nvidia เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ในวันพุธที่ผ่านมา
.
การเติบโตของ Nvidia สามารถไต่ระดับอย่างรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง โดยตอนนี้มูลค่าตลาดอยู่ตามหลังแค่ Microsoft เท่านั้น ซึ่ง Microsoft เองก็เป็นอีกหนึ่งคู่แข่งหลักในอุตสาหกรรม AI เนื่องจากไมโครซอฟได้มีการลงทุนใน OpenAI ซึ่งเป็นผู้สร้าง Chat GPT ที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วโลก
.
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Nvidia มีมูลค่าตลาดหลักทรัพย์ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ต่อมาทางบริษัทได้ประกาศแผนการแยกหุ้น โดยเพิ่มจำนวนหุ้นอีก 10 เท่า และลดมูลค่าหุ้นลงตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้หุ้นมีราคาไม่แพงสำหรับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งอาจเปิดการซื้อขายภายในวันศุกร์ที่จะถึง และคาดว่าจะสร้างความต้องการหุ้นเพิ่มมากขึ้น
.
.
Nvidia ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1993 มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้ผลิตชิปในหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (Graphic Processing Units - GPUs) หรือ การ์ดจอ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่หากติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์ก็จะทำให้ผู้เล่นเกมสัมผัสถึงรายละเอียดและการเคลื่อนไหวที่สมจริงของตัวละครในเกมส์
.
ในปัจจุบันการ์ดจอไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแค่ในอุตสาหกรรมเกมเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้งานได้หลากหลายอุสาหกรรม โดยเฉพาะอุสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือ AI เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Nvidia ที่เน้นการผลิตการ์ดจอจนปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 84% ทิ้งห่างอันดับสองและสามอย่าง AMD และ Intel ที่ 12% และ 4% ตามลำดับ (อ้างอิงจากข้อมูลปี 2022)
.
นั่นจึงทำให้ต่อมา Nvidia กลายเป็นบริษัทที่ทำรายได้อย่างมหาศาลจาก AI โดยเฉพาะหลังจากที่ ChatGPT เปิดตัว ไม่เพียงแต่ Nvidia เจ้าเดียวที่ครองตลาด AI ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ AI ต่างก็ได้รับผลประโยชน์นี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Cloud Provider Service, Data Center/Data Warehouse, Computer Software และเหล่าผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นชิ้นส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้
.
เจนเซน ฮวง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia มองว่า การพัฒนาด้าน AI จะกลายเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งต่อไป เนื่องจากเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกธุรกิจ ทำให้บริษัทของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยรายงานยอดขาย 26 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามเดือนถึง 28 เมษายน ซึ่งมากกว่าสามเท่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 และเพิ่มขึ้น 18% จากสามเดือนก่อนหน้า
.
ทางฝั่ง Apple ดูเหมือนจะขาดทุนเมื่อต้นปีนี้ เนื่องจากการเติบโตของยอดขายหยุดชะงัก แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบริษัท Apple กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากความคาดหวังว่าระบบชิปของแอปเปิ้ลจะรวมเข้ากับ AI ทำให้หุ้นในบริษัทเพิ่มขึ้น 0.7%
.
ที่มา https://www.bbc.com/news/articles/c6ppqd3j621o
.
#NVIDIA #AI #Apple #MarketPlus #MarketPlusUpdate #MarketPlusOnline