
ใครที่เริ่มมีภาวะมองใกล้เริ่มไม่เห็น แต่หากระยะไกลๆ ยิ่งชัดแจ๋ว รู้หรือไม่ว่าคุณอาจเกิดภาวะสายตายาวให้แล้ว
สำหรับอาการของสายตายาว (Hyperopia หรือ Farsightedness) เป็นภาวะสายตาที่ทำให้มองเห็นวัตถุระยะไกลได้ชัดเจน แต่มีปัญหาในการมองเห็นวัตถุในระยะใกล้ ทำให้เกิดอาการพร่ามัว ไม่สบายตา หรือปวดศีรษะเมื่อพยายามเพ่งมองวัตถุใกล้ๆ โดยภาวะนี้จะแตกต่างจากสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อมีอายุมากขึ้นจนต้องไปตัดแว่นสายตายาว เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
แต่ในการเลือกเลนส์แว่นสายตายาว ควรเลือกอย่างไรที่เหมาะสมกับการใช้งาน เรารวมเรื่องควรรู้ก่อนการตัดแว่นมาแนะนำกัน
ลักษณะของสายตายาว
โดยทั่วไป ในดวงตาปกติ แสงจะหักเหผ่านกระจกตา (Cornea) และเลนส์แก้วตา (Lens) จะไปโฟกัสที่จอประสาทตา (Retina) ซึ่งอยู่ด้านหลังของลูกตา ทำให้มองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน แต่ในผู้ที่มีสายตายาว ลูกตาจะมีขนาดสั้นเกินไป หรือกระจกตาแบนเกินไป ทำให้แสงโฟกัสเลยจอประสาทตาไปด้านหลัง ส่งผลให้มองเห็นวัตถุระยะใกล้ไม่ชัดเจน
อาการที่พบบ่อยในผู้ที่มีสายตายาว
- มองเห็นวัตถุระยะใกล้ไม่ชัดเจน: เป็นอาการหลักของสายตายาว ทำให้มีปัญหาในการอ่านหนังสือ ทำงานฝีมือ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้การมองในระยะใกล้
- ปวดตาหรือเมื่อยล้าดวงตา: การพยายามเพ่งมองวัตถุใกล้ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวดตา เมื่อยล้า หรือแสบตา
- ปวดศีรษะ: อาการปวดศีรษะมักเกิดขึ้นหลังจากใช้สายตาในระยะใกล้เป็นเวลานาน
- ตาพร่ามัว: ในบางกรณี อาจมีอาการตาพร่ามัวทั้งในระยะใกล้และไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีสายตายาวมาก การแก้ไขด้วยการใส่แว่นสายตายาวจึงเป็นสิ่งจำเป็น
- ตาไวต่อแสง: ผู้ที่มีสายตายาวบางรายอาจรู้สึกว่าดวงตาไวต่อแสงมากกว่าปกติ
สาเหตุของสายตายาว
สายตายาวมักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางกายวิภาคของดวงตา ได้แก่
- ลูกตาสั้นเกินไป: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ทำให้ระยะห่างระหว่างเลนส์แก้วตาและจอประสาทตาสั้นกว่าปกติ
- กระจกตาแบนเกินไป: ทำให้การหักเหของแสงไม่เพียงพอที่จะโฟกัสภาพบนจอประสาทตาได้อย่างแม่นยำ
- ความผิดปกติของเลนส์แก้วตา: ในบางกรณี เลนส์แก้วตาอาจมีรูปร่างผิดปกติ ทำให้การโฟกัสภาพไม่สมบูรณ์
การเลือกเลนส์แว่นตาสำหรับสายตายาว
การแก้ไขสายตายาวทำได้โดยการใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ที่มีเลนส์นูน (Convex Lens) ซึ่งจะช่วยหักเหแสงให้โฟกัสบนจอประสาทตาได้อย่างถูกต้อง การเลือกเลนส์แว่นสายตายาวที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล โดยมีเลนส์หลักๆ ดังนี้
- เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision Lenses): เป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียว ใช้สำหรับมองระยะใดระยะหนึ่งเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้แว่นตาสำหรับอ่านหนังสือหรือมองระยะไกลเพียงอย่างเดียว ข้อดีคือราคาไม่แพงและใช้งานง่าย แต่ต้องเปลี่ยนแว่นเมื่อต้องการมองระยะอื่น
- เลนส์สองชั้น (Bifocal Lenses): เป็นเลนส์ที่มีสองค่าสายตาในเลนส์เดียว ส่วนบนสำหรับมองไกล และส่วนล่างสำหรับมองใกล้ มีเส้นแบ่งระหว่างสองค่าสายตาอย่างชัดเจน ข้อดีคือสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการมองทั้งระยะใกล้และไกลในแว่นเดียว แต่มีข้อเสียคือมีเส้นแบ่งที่อาจรบกวนการมอง และมีการกระโดดของภาพเมื่อเปลี่ยนระยะการมอง
- เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lenses): เป็นเลนส์ที่พัฒนามาจากเลนส์สองชั้น โดยไม่มีเส้นแบ่งระหว่างค่าสายตา ทำให้การเปลี่ยนระยะการมองเป็นไปอย่างนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในทุกระยะ ทั้งใกล้ กลาง และไกล ข้อดีคือให้ภาพที่คมชัดในทุกระยะการมอง และไม่มีเส้นแบ่งที่รบกวนสายตา แต่มีราคาสูงกว่าเลนส์ประเภทอื่น และต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย
- เลนส์ออฟฟิศ (Office Lenses): เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ทำงานในออฟฟิศหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ให้ระยะการมองที่ชัดเจนในระยะใกล้และกลาง เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือ ทำงานบนคอมพิวเตอร์ หรือประชุม แต่ไม่เหมาะสำหรับการมองไกลมากนัก
สายตายาวเป็นภาวะสายตาที่พบบ่อย ทำให้มีปัญหาในการมองเห็นวัตถุระยะใกล้ การเลือกแว่นสายตายาวที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ การไปปรึกษาจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจะช่วยให้คุณเลือกเลนส์ที่เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการใช้ชีวิตของคุณได้อย่างถูกต้อง เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
[อ่าน 5,302]