ธุรกิจคอนเทนต์ทุกวันนี้ หากจะขึ้นเป็นผู้นําไม่ใช่เรื่องง่าย
วินท์รดิศ กลศาสตร์เสนี President แห่ง TrueID ย้ำชัดถึงการแข่งขันของอุตสาหกรรมแพลตฟอร์มคอนเทนต์ ที่ไม่เพียงแต่ต้องสู้กับคู่แข่งระดับโลก แต่ยังต้องสร้างความแตกต่างบนเวทีที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย
จุดตั้งต้นสู่เส้นทาง “OTT สัญชาติไทย" วินท์รดิศเล่าถึงเส้นทางก่อนเข้ารับตำแหน่งใน TrueID ว่าเริ่มจากความชอบ ความเชี่ยวชาญ และความฝันในการสร้างบริการ VDO Streaming ตั้งแต่สมัยที่ Netflix เพิ่งเปิดตัวในช่วงปี 2010-2011 เขาเคยสั่งสมประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี และร่วมงานกับบริษัทใหญ่อย่าง Microsoft และ Discovery จนกระทั่งได้โอกาสมาร่วมบุกเบิก TrueID เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และต้องการผลักดันคอนเทนต์ไทยสู่สายตาต่างชาติ
แพลตฟอร์ม “คนไทย” ที่ให้มากกว่า VDO TrueID เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มดูหนัง-ซีรีส์ แต่ยังให้บริการสิทธิพิเศษ (Privilege) สำหรับลูกค้ากลุ่มทรูหลากหลายรูปแบบ พร้อมชุมชน (Community) ที่ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน ทั้งคนรักการดูฟุตบอลที่เข้ามาพูดคุยระหว่างชมแมตช์ผ่านฟีเจอร์ Live Commenting และคอมมูนิตี้ธรรมะจากโครงการสามเณรปลูกปัญญา เป็นต้น
การเติบโตท่ามกลางการแข่งขัน ตลาดคอนเทนต์ร้อนแรงเพราะต้นทุนคอนเทนต์พุ่งสูง การเป็นผู้นำในประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่า TrueID เลือกโฟกัสที่การสร้าง “ซูเปอร์แอป” คล้ายโมเดลในจีน เช่น WeChat ที่รวมบริการหลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งด้านคอนเทนต์ การชอปปิง และการเข้าถึงบริการอื่นๆ ผ่านแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งเป็นแนวทางที่ TrueID มองว่าจะสร้างคุณค่าและตอบโจทย์ผู้บริโภคคนไทยได้ตรงจุด
เมื่อกฎหมายยังไม่ชัดเจน...“กรณีพิพาท Regulator” ประเด็นน่าจับตาคือ ข้อพิพาทระหว่าง TrueID กับหน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ วินท์รดิศชี้แจงว่า TrueID ไม่มีเจตนาต้องการเผชิญหน้าทางกฎหมาย แต่เนื่องจากจดหมายแจ้งเตือนที่ได้รับอาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือ ทั้งกับลูกค้ากว่า 30 ล้านคนต่อเดือน และพันธมิตร ทางแพลตฟอร์มจึงจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ประเด็นใหญ่ที่ภาคธุรกิจ OTT ไทยอยากเห็น คือกฎหมายเฉพาะที่ชัดเจน และกติกาที่เอื้อประโยชน์อย่างเป็นธรรมต่อผู้ให้บริการในประเทศ ซึ่งต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มต่างชาติที่ไม่อยู่ใต้ข้อบังคับเดียวกัน วินท์รดิศย้ำว่า TrueID พร้อมร่วมเสวนาเพื่อหาแนวทางการควบคุมที่บาลานซ์ ระหว่างการสนับสนุนภาคธุรกิจไทยและการปกป้องผู้บริโภค
โมเดลรายได้กับวิสัยทัศน์ “Free Tier” โมเดลรายได้ของธุรกิจ OTT ส่วนใหญ่ยังมาจากโฆษณา (Advertising-based) ซึ่ง TrueID ก็เช่นกัน เนื่องจากวัตถุประสงค์แรกคือ อยากให้คนไทยทั้ง 70 ล้านคนเข้าถึงคอนเทนต์มีคุณภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากผู้บริโภคต้องการหลีกเลี่ยงโฆษณาจึงค่อยเลือกสมัครสมาชิกแบบจ่ายเงิน (Subscription) เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
อนาคต TrueID: เมื่อคอนเทนต์ใกล้ชิด “คอมเมิร์ซ” สิ่งที่ TrueID มุ่งให้ความสำคัญในปีต่อไป คือ การพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ “Social Commerce” ในแบบที่ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มคนไทยต้องการ ผสานบริการ “คอนเทนต์” เข้ากับ “การขายของ” ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ใหญ่ระดับโลก เห็นได้จาก TikTok ที่ขยับจากการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น สู่การผสานระบบชอปปิงอย่างเต็มตัว
“AI จะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ” วินท์รดิศมองว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบไม่หยุดยั้งคือหัวใจในการสร้าง “ความพึงพอใจของผู้ใช้งาน” ดังนั้น TrueID จะเร่งเดินหน้าพัฒนาระบบ Product Development อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันการเปลี่ยนแปลง และสามารถสร้าง “ซูเปอร์แอป” ที่จับทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทยและก้าวสู่ตลาดโลกได้ในที่สุด