หัวเว่ยฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องกีดกันการขายสินค้า โดยสภาคองเกรส
10 Mar 2019

หัวเว่ยได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา คัดค้านการเห็นชอบมาตรา 889 ของกฎหมายการป้องกันประเทศ ฉบับปี 2562 (2019 National Defense Authorization Act: NDAA) โดยการยื่นฟ้องครั้งนี้ หัวเว่ยต้องการขอให้ศาลมีคำสั่งพิพากษาแสดงสิทธิของบุคคลว่า การกีดกันที่พุ่งเป้าไปที่หัวเว่ยนั้นเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขอให้มีคำสั่งห้ามกฎหมายกีดกันนี้เป็นการถาวร 

“สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าในการสร้างหลักฐานสนับสนุนคำสั่งกีดกันของสหรัฐอเมริกาต่อผลิตภัณฑ์หัวเว่ย เราจึงถูกบีบบังคับให้ต้องเลือกดำเนินการทางกฎหมายเป็นทางออกสุดท้าย" กัว ผิง ประธานกรรมการบริหาร หมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าว

“การแบนหัวเว่ยนี้ไม่เพียงแค่ผิดหลักกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการจำกัดไม่ให้หัวเว่ยเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคของสหรัฐฯ เสียประโยชน์ในที่สุด เราจะตั้งตารอคำตัดสินของศาล และเชื่อว่าคำตัดสินนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งหัวเว่ยและชาวอเมริกัน"

ทั้งนี้ หัวเว่ยได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯ ที่เมืองพลาโน รัฐเท็กซัส ตามคำร้องดังกล่าว มาตรา 889 ของกฎหมายการป้องกันประเทศ ฉบับปี 2562 ไม่เพียงห้ามไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ ทุกหน่วยงาน ซื้ออุปกรณ์และบริการของหัวเว่ยเท่านั้น แต่ยังห้ามไม่ให้ทำสัญญาหรือให้เงินสนับสนุนหรือเงินกู้ยืมแก่บุคคลที่สามที่ซื้ออุปกรณ์หรือบริการของหัวเว่ยโดยไม่ผ่านกระบวนการพิจารณาคดีจากศาลหรือจากผู้บริหารด้วย

การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายจำกัดตัดสิทธิบุคคล (Bill of Attainder Clause) และกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย (Due Process Clause) นอกจากนี้ ยังละเมิดหลักการแบ่งแยกอำนาจที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา เพราะสภาคองเกรสกำลังทำหน้าที่ทั้งออกกฎหมาย และพยายามพิจารณาตัดสินและบังคับใช้กฎหมายนี้ไปพร้อมๆ กัน

ซ่ง หลิ่วผิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ย กล่าวย้ำว่า “มาตรา 889 นั้นอิงจากข้อสมมติฐานที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งไม่ได้รับการพิสูจน์และการตรวจสอบ และตรงกันข้ามกับข้อสมมติฐานดังกล่าว รัฐบาลจีนไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้ควบคุม และไม่มีอิทธิพลชักจูงหัวเว่ยแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น หัวเว่ยมีบันทึกสถิติและโปรแกรมด้านความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และจนถึงขณะนี้สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่สามารถแสดงหลักฐานโต้แย้งใดๆ”

"ที่หัวเว่ย เราภูมิใจที่เราเป็นบริษัทที่เปิดกว้าง โปร่งใส และได้รับการตรวจสอบมากที่สุดในโลก" จอห์น ซัฟโฟลค์ เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวระดับโลกของหัวเว่ย กล่าว

"แนวทางด้านความปลอดภัยของหัวเว่ยที่ผ่านการพัฒนาและการปรับใช้ออกแบบ ได้สร้างมาตรฐานระดับสูงที่มีเพียงไม่กี่บริษัทที่สามารถเทียบชั้นได้"

ในมุมมองของหัวเว่ย ข้อจำกัดของ NDAA กีดกันไม่ให้บริษัทสามารถจัดหาเทคโนโลยี 5G ที่มีความก้าวล้ำกว่าให้แก่ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ได้ ซึ่งจะทำให้การใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ล่าช้าออกไป และเป็นการขัดขวางความพยายามในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่าย 5G ในสหรัฐอเมริกาให้ดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ผู้ใช้เครือข่ายในพื้นที่ชนบทและห่างไกลของสหรัฐฯ จะถูกบังคับให้เลือกระหว่างผลิตภัณฑ์ที่รัฐบาลให้ทุนสนับสนุนหรือผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า สิ่งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการอัพเกรดเครือข่าย และทำให้ช่องว่างด้านดิจิทัลขยายกว้างออกไปอีก

และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การกีดกันหัวเว่ยจะทำให้การแข่งขันในตลาดหยุดชะงัก และทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาต้องจ่ายเงินในราคาสูงขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ที่ด้อยประสิทธิภาพกว่า

การคาดการณ์จากแหล่งอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่า การอนุญาตให้หัวเว่ยเข้าร่วมแข่งขันในตลาดจะช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานไร้สายได้ราวร้อยละ 15 - 40 ซึ่งจะช่วยให้อเมริกาเหนือประหยัดงบได้อย่างน้อย 20,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในช่วงสี่ปีข้างหน้า

กัว ผิง กล่าวเพิ่มเติมว่า "หากมีการยกเลิกกฎหมายฉบับนี้อย่างที่ควรจะเป็น หัวเว่ยจะสามารถนำเทคโนโลยีที่มีความก้าวล้ำกว่ามาสู่สหรัฐอเมริกา และช่วยสร้างเครือข่าย 5G ที่ดีที่สุดได้ หัวเว่ยยินดีที่จะพูดคุยหาทางออกเกี่ยวกับข้อกังวลด้านความปลอดภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ การยกเลิกการแบนตามกฎหมาย NDAA จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีความยืดหยุ่นซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานร่วมกับหัวเว่ย และจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยที่แท้จริงได้"

[อ่าน 1,360]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มงต้องลงแล้ว Miss AI เวทีประกวดนางงามจาก AI ครั้งแรกของโลก!
‘Digital Art Toy’ ภาคต่อที่เพิ่มมูลค่าให้กับ ‘ของเล่นศิลปะ’
พบความเชื่อมโยง แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก
กับเหตุสังหารหมู่โลมา เมืองไทจิ ประเทศญี่ปุ่น
ทำไม 'รถยนต์​ไฟฟ้า' ของ Apple ถึงไปไม่ถึง 'ฝัน'
ทำความเข้าใจการขึ้นราคากระเป๋า Chanel ล่าสุดปี 2024 และตลาดขายต่อ
"ยูนิลีเวอร์" วางแผนแยกธุรกิจไอศกรีม ส่งผลให้พนักงาน 7,500 ราย ถูกเลิกจ้าง
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved