เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2568 ณ Hangu Pass Historical and Cultural Tourism Zone จังหวัดซานเหมินเซีย มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดพิธีเปิดตัว “เสมือนจริงเล่าอี้” (Laozi Digital Human) ภายใต้ชื่องาน “บทสนทนาข้ามกาลเวลา” โดยใช้เทคโนโลยี AI, การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และการวิเคราะห์ความหมายเชิงภาษาธรรมชาติ ร่วมกับการศึกษาข้อมูลปรัชญาจากบันทึกกว่า 100,000 ฉบับ เพื่อสร้าง Tao Te Ching Semantic Knowledge Graph ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ “เล่าอี้” ได้เสมือนมีชีวิตจริง
ภายในวันเดียวกัน ยังมีพิธีเปิด “ฐานวิจัยเผยแพร่ลัทธิเล่าอี้” ของมหาวิทยาลัยครูจีนตะวันออก (East China Normal University) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางศึกษาวิจัยและเผยแพร่ปรัชญาเล่าอี้ทั่วโลก
ทางประวัติศาสตร์ เล่าอี้เดินทางจากราชธานีลั่วหยางเมื่อกว่า 2,500 ปีก่อน เดินทางมาที่ Hangu Pass และรังสรรค์ “เต๋าทีชิง” กว่า 5,000 เล่มคัมภีร์ ระหว่างพำนักกว่า 7 เดือน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญที่สุดของวัฒนธรรมจีน การผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับมรดกทางปรัชญาช่วยสร้างจุดขายใหม่ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเสริมภาพลักษณ์ให้ซานเหมินเซียเป็น “แหล่งกำเนิดอารยธรรมจีน”
ในมิติธุรกิจ เทคโนโลยี Digital Human เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนหยิบยกนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีเวนต์ การศึกษา และการตลาดเชิงวัฒนธรรม ช่วยขยายตลาดดิจิทัลเซอร์วิสและสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ล้ำสมัย
ภายใต้ธีม “เสาหลักแห่งเสถียรภาพ – แม่น้ำฮวงโหว่เบ่งบาน” จัดกิจกรรมหลัก 9 รายการ ระหว่างวันที่ 17–25 พ.ค. 2568 ครอบคลุมทั้งนิทรรศการวัฒนธรรม ทัวร์ล่องแม่น้ำ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
การเปิดตัว Laozi Digital Human ไม่เพียงแต่สะท้อนการผสานเทคโนโลยีล้ำหน้าเข้ากับมรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวจีนก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ พร้อมสร้างมิติใหม่ในการนำเสนอประวัติศาสตร์ผ่านนวัตกรรมเสมือนจริง