รัฐสภาเม็กซิโกพลิกประวัติศาสตร์โลก สู่ประเทศผู้นำผ่านกฎหมายคุ้มครองโลมา

18 Jul 2025

เมื่อเร็วๆ นี้สภาผู้แทนราษฎรเม็กซิโกได้มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 415 ต่อ 0 ในการแก้ไขกฎหมายทั่วไปว่าด้วยสัตว์ป่า (Ley General de Vida Silvestre) เพื่อห้ามการแสดงโลมา วาฬเพชฌฆาต สิงโตทะเล และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลชนิดอื่น รวมถึงการจัดตั้งสวนโลมาแห่งใหม่ในประเทศ

กฎหมายฉบับใหม่นี้ อนุญาตให้กักขังสัตว์เหล่านี้ได้เฉพาะในกรณีที่เป็นสัตว์ที่ได้รับการช่วยเหลือ หรือเพื่อการวิจัยและอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น โดยต้องไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงหรือผลกำไร และต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามหลักวิทยาศาสตร์อย่างเคร่งครัด

 

กฎหมายที่มีผลบังคับจริงพร้อมบทลงโทษหนัก

ร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านการเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญเมื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงฉันทามติทางการเมืองที่หายากในประเด็นสวัสดิภาพสัตว์ กฎหมายกำหนดบทลงโทษเป็นค่าปรับตั้งแต่ 200 ถึง 75,000 เท่าของหน่วย UMA (Unidad de Medida y Actualización) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูงสุดกว่า 8 ล้านเปโซเม็กซิโก หรือประมาณ 16.8 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

Virginia Reyes สมาชิกรัฐสภา กล่าวว่า "ไม่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลใดควรถูกบีบบังคับให้เป็นเครื่องมือความบันเทิงอีกต่อไป"

 

ออสเตรเลียควรเดินตามรอย – จบวงจรธุรกิจที่ไม่ยั่งยืน

Suzanne Milthorpe หัวหน้าการรณรงค์ขององค์กรพิทักษ์สัตว์โลก ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า "นี่คือความก้าวหน้าครั้งสำคัญเพื่อสัตว์ และออสเตรเลียควรเดินตามรอยเช่นกัน"

องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก ได้บันทึกหลักฐานอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานของโลมาที่ถูกกักขัง ไม่ว่าจะในเม็กซิโก ออสเตรเลีย หรือประเทศอื่นทั่วโลก

"วันนี้ เราเข้าใกล้ความจริงที่ว่า โลมารุ่นนี้อาจเป็นรุ่นสุดท้ายที่ต้องทนทุกข์เพื่อความบันเทิงของมนุษย์"ความเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนอย่างชัดเจนว่า การกักขังสัตว์ป่าไม่ใช่รูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืน โลมาและวาฬเพชฌฆาตมีอายุยืนหลายสิบปี ขณะที่กระแสของสังคมกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

เรียกร้องการกำกับดูแลที่เข้มงวด

"เมื่อกฎหมายฉบับใหม่ของเม็กซิโกมีผลบังคับใช้ เราขอเรียกร้องให้ทางการเม็กซิโกกำกับดูแลสวัสดิภาพของโลมาที่ยังคงอยู่ในที่กักขังอย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมของพวกมันตอบสนองความต้องการตามธรรมชาติได้อย่างแท้จริง" - Suzanne Milthorpe กล่าวเพิ่มเติม

องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก เรียกร้องให้รัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ แสดงความเป็นผู้นำเช่นเดียวกับเม็กซิโก ด้วยการเร่งปฏิรูประบบกฎหมายและยุติการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่แสวงหาผลกำไรจากสัตว์ โดยเฉพาะสถานที่อย่าง Sea World ที่โกลด์โคสต์ และ Coffs Coast Wildlife Sanctuary ที่ยังคงใช้โลมาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงเพื่อความบันเทิง

 

 

การมีส่วนร่วมจากประชาชนและรัฐบาลทั่วโลก

องค์กรพิทักษ์สัตว์โลกขอเรียกร้องให้ประชาชนในออสเตรเลียและทั่วโลกทบทวนบทบาทของตนเองในฐานะผู้บริโภคความบันเทิงจากสัตว์ ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องร่วมกันปฏิเสธรูปแบบความบันเทิงที่ตั้งอยู่บนความทุกข์ของสัตว์ป่า ขณะเดียวกัน องค์กรฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เร่งปฏิรูปกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า และยุติการใช้งานสัตว์ป่าในอุตสาหกรรมบันเทิงทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสังคมที่เคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีของสิ่งมีชีวิตร่วมโลกอย่างแท้จริง

 

แนวโน้มการท่องเที่ยวเปลี่ยนสู่ความยั่งยืน – ไทยควรเป็นผู้นำในเอเชีย

ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ “การท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ” ต่อทั้งสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมามีหลายบริษัทท่องเที่ยวระดับนานาชาติที่เริ่มขยับ เช่น Klook และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับนโยบายสวัสดิภาพสัตว์อย่างเป็นรูปธรรมด้วยการยุติการขายบัตรท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับการขายโปรแกรมสถานที่ท่องเที่ยวหรือประสบการณ์ที่แสวงประโยชน์จากสัตว์ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลก

โรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดการนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เอาจริงเอาจังของบริษัทท่องเที่ยวอย่าง Klook และแพลตฟอร์มออนไลน์ท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้ช่วยตัดเม็ดเงินที่จะไปสนับสนุนธุรกิจที่ใช้สัตว์ป่าเพื่อสร้างความบันเทิง ซึ่งเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับการฝึกสัตว์อย่างโหดร้ายผิดธรรมชาติ และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ยั่งยืน รัฐบาลไทยควรถือโอกาสเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อปกป้องและคุ้มครองสัตว์ป่า ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวที่เคารพต่อสวัสดิภาพของสัตว์ ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยให้สอดคล้องกับกระแสโลก และเพื่อให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต่อสัตว์ทั่วโลก

 


เครดิตภาพถ่าย World Animal Protection / Sasha Rink

[อ่าน 40]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอไอเอ ประเทศไทย นำทัพประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง พร้อมด้วยประกันยูนิต ลิงค์
กรุงเทพประกันชีวิต นำทัพทีมตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงินร่วมงานประชุม MDRT Annual Meeting 2025 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
กทพ. แจ้งปิดเบี่ยงการจราจรบนทางพิเศษกาญจนาภิเษก วันที่ 17 ก.ค. 2568 เวลา 22.00 น. ถึงวันที่ 25 ก.ค. 2568 เวลา 24.00 น.
ว้าวให้สุด! “Have a WOW Day” กับไวไวว้าว – เปิดประสบการณ์ใหม่ใจกลางสยาม ที่ต้องไปลองด้วยตัวเอง!
IRIS OHYAMA x Daddy And The Muscle Academy เคลียร์เมคอัพจบในแผ่นเดียว
กิจกรรม “RANGNAM LOCALICIOUS ตามหาความอร่อยในย่านรางน้ำ”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved