หากกำลังเผชิญปัญหาไม่มีฟันเหลือเลย หรือมีฟันที่เหลือเพียงไม่กี่ซี่ที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว การทำฟันปลอมทั้งปาก คือทางเลือกสำคัญที่ช่วยให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งด้านการเคี้ยวอาหาร การพูด และบุคลิกภาพ แต่คำถามที่มักวนเวียนในใจของหลายคนคือ “เจ็บไหม?” “ต้องถอนฟันก่อนทุกซี่หรือเปล่า ?” และ “จะเริ่มใช้งานได้เมื่อไร ?” คำตอบทั้งหมดอยู่ในบทความนี้
ต้องถอนฟันก่อนหรือไม่ ?
ไม่ใช่ทุกเคสที่จำเป็นต้องถอนฟันออกทั้งหมดก่อนทำฟันปลอมทั้งปาก ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ หากยังมีฟันบางซี่ที่แข็งแรงอยู่ แพทย์อาจพิจารณาเก็บไว้เพื่อเป็นตัวยึดสำหรับฟันปลอมบางประเภท เช่น ฟันปลอมแบบบางส่วนหรือฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Denture) อย่างไรก็ตาม ในเคสที่จำเป็นต้องถอนฟันทั้งปากจริง ๆ ก็จะมีขั้นตอนพักฟื้นเพื่อให้เหงือกหายดี ก่อนเข้าสู่กระบวนการทำฟันปลอม
เจ็บแค่ไหน ? และต้องใช้เวลากี่ครั้งในการทำ
ความรู้สึกเจ็บระหว่างการทำฟันปลอมทั้งปาก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยทั่วไปขั้นตอนการพิมพ์ฟันและทดลองใส่ฟันปลอมจะไม่เจ็บมาก อาจรู้สึกไม่สบายในช่วงแรกจากแรงกดของวัสดุพิมพ์หรือการลองฟัน แต่หากมีการถอนฟันร่วมด้วย อาการเจ็บจะเกิดในช่วงหลังถอนมากกว่า ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่ทันตแพทย์สั่ง
กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่เริ่มประเมิน พิมพ์ฟัน ทดลองใส่ และส่งมอบฟันปลอมจริง มักใช้เวลารวมประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละเคส โดยทั่วไปจะนัดเข้าไปที่คลินิก 3-5 ครั้ง
ช่วงเวลา “ฝึกปรับตัว” สำคัญแค่ไหน ?
เมื่อได้ฟันปลอมมาสวมจริงครั้งแรก ร่างกายจะต้องใช้เวลาปรับตัวประมาณ 1–2 สัปดาห์ จึงจะเริ่มรู้สึก “เข้าที่” และใช้งานได้ใกล้เคียงธรรมชาติ ช่วงแรกผู้ใส่อาจมีอาการพูดไม่ชัด น้ำลายมาก หรือเจ็บจุดที่ฟันปลอมกดทับเหงือก สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นอาการปกติ และสามารถปรับให้ดีขึ้นได้ด้วยการฝึกพูดหน้ากระจก ฝึกอ่านออกเสียง หรือเคี้ยวอาหารอ่อน ๆ อย่างต่อเนื่อง
การดูแลหลังใส่ฟันปลอม
หลังทำฟันปลอมทั้งปากแล้ว การดูแลรักษาที่ดีคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ใช้งานได้นาน ไม่เสียรูปเร็ว ควรถอดฟันปลอมล้างทุกวัน ใช้แปรงขนนุ่มทำความสะอาด และแช่ในน้ำสะอาดหรือน้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอมโดยเฉพาะ ควรงดนอนใส่ฟันปลอมเพื่อให้เหงือกได้พัก
แม้จะต้องใช้เวลาและมีความไม่สบายในช่วงแรก แต่สำหรับผู้ที่เคยขาดฟันทั้งปาก ทำฟันปลอมทั้งปาก คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งสุขภาพกายและใจ ความสามารถในการเคี้ยวอาหารอย่างมั่นใจ การพูดชัดขึ้น และการมีบุคลิกที่ดูสดใส คือสิ่งที่หลายคนบอกว่า “คุ้มค่ากับทุกขั้นตอนที่ผ่านไป”