
อาการเจ็บใต้ชายโครงขวาอาจเป็นเพียงสัญญาณเตือนเล็กน้อยที่ร่างกายส่งมาให้รับรู้ แต่บ่อยครั้งที่อาการนี้กลับถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นตำแหน่งอวัยวะสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะ “ตับ” ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลสุขภาพโดยรวมทั้งหมด หากรู้สึกเจ็บใต้ชายโครงขวาจึงไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคที่ต้องการการดูแลอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนยากแก้ไข
ตับมีปัญหา ทำไมจึงรู้สึกเจ็บใต้ชายโครงขวา ?
หลายคนเชื่อว่าตับไม่มีเส้นประสาทจึงไม่รู้สึกเจ็บปวด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ตับอาจไม่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกในเนื้อตับเอง แต่มีเยื่อหุ้มตับ (Glisson's capsule) ที่เต็มไปด้วยเส้นประสาท เมื่อใดก็ตามที่ตับเกิดความผิดปกติจนมีขนาด บวมโต หรือ อักเสบ เช่น ในภาวะตับอักเสบเฉียบพลันหรือภาวะไขมันพอกตับอย่างรุนแรง เยื่อหุ้มตับจะถูกยืดออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการปวดตื้อ ๆ หรือรู้สึกแน่นบริเวณใต้ชายโครงขวา ซึ่งนี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าตับกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตที่ต้องการความสนใจ
ไม่ใช่แค่ตับ อวัยวะอื่นก็ทำให้ปวดได้
อาการเจ็บใต้ชายโครงขวาไม่ได้จำกัดอยู่แค่โรคตับเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับอวัยวะข้างเคียงอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย โดยอวัยวะที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ได้แก่
ภัยเงียบของโรคตับ เริ่มต้นจากความเฉยเมย
ความน่ากังวลของโรคตับหลายชนิด เช่น ไวรัสตับอักเสบบี, ตับแข็งระยะแรก หรือแม้แต่มะเร็งตับในระยะเริ่มต้น คือมักจะไม่แสดงอาการปวดอย่างชัดเจน อาการที่พบบ่อยกลับเป็นเพียงความอ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงอาการป่วยธรรมดา แต่เมื่อใดก็ตามที่เริ่มมีอาการเจ็บใต้ชายโครงขวา หรือมีอาการร่วมที่เด่นชัดขึ้น เช่น ตาเหลือง ตัวเหลือง นั่นหมายถึงโรคได้ดำเนินไปในระดับที่รุนแรงพอสมควรแล้ว ดังนั้น การรอให้ปวดก่อนจึงอาจเป็นการปล่อยให้โรคดำเนินไปไกลเกินกว่าจะรักษาให้หายขาดได้
สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที
เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรปล่อยให้อาการปวดใต้ชายโครงขวาอยู่กับคุณเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการร่วมเหล่านี้
การประเมินสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง จึงเป็นกุญแจสำคัญในการตรวจพบความผิดปกติของตับตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ก่อนที่อาการเจ็บปวดจะปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณสุดท้ายที่ร่างกายเตือน





