
เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ผลผลิต และปัญหาตลาด หลายชุมชนสามารถก้าวข้ามด้วยพลังคนตัวเล็กที่ไม่หยุดเรียนรู้ “ผู้ใหญ่ลั่นทม โชติดิลก” ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปถนอมอาหาร อ.วังชิ้น จ.แพร่ คือตัวแทนของผู้นำชุมชนหญิงที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแปรรูปเพิ่มคุณค่าปลานิล สร้างผลิตภัณฑ์ “ปลาส้มผู้ใหญ่ลั่นทม” ต่อยอดสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน สร้างทั้งรายได้และความสุขให้คนในชุมชนอย่างแท้จริง ภายใต้การสนับสนุนของโครงการ “โรงเรียนผู้นำชุมชนประโยชน์สุข” ที่ช่วยเพิ่มความรู้ด้านการสร้างแบรนด์ และการตลาดออนไลน์
“ปลาส้มผู้ใหญ่ลั่นทม” ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดดเด่นด้วยสูตรเฉพาะจากปลานิลเนื้อแน่น ขาวสะอาด และหมักด้วยข้าวสามชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิขาว มะลิแดง และข้าวเหนียว เพื่อให้รสชาตินุ่มกลมกล่อม มีจุดเริ่มต้นจากการรวมกลุ่มชาวบ้านพ่อแม่ที่ว่างเว้นจากการทำนามาผลิตและแปรรูปปลาส้ม โดยมี “ผู้ใหญ่ลั่นทม” เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการพัฒนาเป็นผลิตคุณภาพ ได้มาตรฐาน และกำลังก้าวสู่มาตรฐานฮาลาล เดินหน้าแตกไลน์สินค้าใหม่ เช่น น้ำพริกปลาส้ม และนักเก็ตปลาส้ม พร้อมใช้การตลาดออนไลน์สร้างยอดขายเติบโต ทั้งช่องทางขายผ่าน Facebook, Shopee และไปรษณีย์ไทย
ปลาสดคือหัวใจของ “ปลาส้มผู้ใหญ่ลั่นทม” - เริ่มดี ผลลัพธ์ก็ดี
ข้าว 3 สายพันธุ์ เคล็ดลับที่ทำให้ปลาส้มผู้ใหญ่ลั่นทม นุ่ม-หอม มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ใช้ความคิดเป็นเครื่องมือ วิเคราะห์แก้ปัญหา
ผู้ใหญ่ลั่นทมบอกว่า การแปรรูปถนอมอาหารไม่ยากและไม่ง่าย ซึ่งกว่าจะมาเป็นปลาส้มผู้ใหญ่ลั่นทม เนื้อแน่น ขาวอวบตามสโลแกน เคยเจอปัญหามากมายทั้งเนื้อปลาเละ เน่าเสีย และไม่มีตลาดรองรับ ต้องทำการคิดและวิเคราะห์หาสาเหตุเพื่อแก้ปัญหาหลายเรื่อง จนนำมาสู่การปรับปรุงและพัฒนา เริ่มจากเรื่องสำคัญที่สุดคือ ปลาต้องสด กดแล้วไม่บุ๋ม ล้างให้สะอาดด้วยน้ำที่คนบริโภคได้ และทันเวลา อายุปลาไม่เกิน 6 เดือน เพื่อให้กระดูกไม่แข็งเกินไปและเนื้อแน่น แต่เนื่องจากชุมชนไม่ได้เลี้ยงปลาเอง จึงต้องทำความเข้าใจกับเครือข่ายเลี้ยงปลานิลในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.เชียงราย ที่มีพื้นที่เลี้ยงปลานิลแปลงใหญ่ และเป็นแหล่งวัตถุดิบหลัก
ทุกขั้นตอนของปลาส้มเกิดจากมือที่ตั้งใจและความรู้ที่สั่งสมมาในชุมชน
ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญมาเช่นกันคือ “คน” ที่ต้องมีความรู้และมีการพัฒนาทักษะ เพราะทุกกระบวนการผลิตเป็นแฮนด์เมด ดังนั้น คนต้องเข้าใจและมีเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการล้างปลาให้สะอาด ไม่ให้เหม็นกลิ่นดินโคลน ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้หลายคนไม่รับประทานปลานิล และการขอดเกล็ดที่ใช้ช้อนแกงเพื่อไม่ให้ปลาช้ำ หรือแม้แต่การแล่เนื้อปลาไม่ให้มีกลิ่นคาว รวมถึงวิธีทำให้ปลาตายโดยไม่ทุบหัว แต่ไม่ได้ปล่อยให้ตายตามธรรมชาติ ตลอดจนการไล่ไม่ให้มีเลือดในกล้ามเนื้อ ทำให้ได้เนื้อปลาขาว ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ โรงเรือนยังต้องได้มาตรฐาน
“ปลาส้ม” ตัวแทนการเรียนรู้ต่อยอดสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
ผู้ใหญ่ลั่นทมทิ้งท้ายว่า “แม้เราจะมีตลาด และเพจ Facebook เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าแล้ว แต่เรายังไม่เปิดกว้างพอ มุมมองของเราก็แค่เล็กๆ แคบๆ แค่งานโอท็อป แต่ปัจจุบันเป็นโลกยุคไอที ทั่วโลกมองเห็นกันได้หมด น้องๆ จากเอสซีจีบอกว่า เราต้องไปสู่พื้นที่ที่ทุกคนมองเห็น แนะนำให้ลงอัปเดตเพจบ่อยๆ และสม่ำเสมอ ซึ่งต้องขอบคุณโครงการ ‘โรงเรียนผู้นำชุมชนประโยชน์สุข’ ของเอสซีจี ที่ทำให้กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่เล็กๆ ของ อ.วังชิ้นได้รับความรู้ และก้าวมาสู่ความสำเร็จได้ในวันนี้”
ผู้ใหญ่ลั่นทม ไม่หยุดเรียนรู้ ร่วมอบรมโครงการ “โรงเรียนผู้นำประโยชน์สุข” เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ
“ปลาส้มผู้ใหญ่ลั่นทม” จึงเป็นเสมือนตัวแทนการยืนหยัดสู้ปัญหา ใช้ความคิดเป็นเครื่องมือ วิเคราะห์ปัญหาเป็นแนวทางพัฒนา ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พร้อมใช้ความรู้ที่ได้รับจากโครงการ “โรงเรียนผู้นำชุมชนประโยชน์สุข” ของเอสซีจี พาปลาส้มที่เป็นผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ต่อยอดสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน สร้างรายได้อย่างมั่นคงและความสุขที่แท้จริงให้กับชุมชน





