ช่วงเวลาที่ทุกอย่างรอบตัวดูแย่และไม่เป็นไปอย่างที่คิด อย่าเสียเวลาไปกับการตีโพยตีพาย ที่อะไร ก็ไม่ได้ดังใจ แต่ให้ใช้ช่วงเวลานี้ อัพสกิล พัฒนาตัวเอง เผื่อจะพบโอกาสใหม่ หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์ COVID-19 นี้ไป โดยเครื่องประดับถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็ม ที่สายแฟทั้งหลายให้ความสำคัญ แน่นอนว่า ในแต่ละปีก็มีเทรนด์ใหม่ๆ ออกมา ดีไซน์เนอร์เครื่องประดับหลายคนได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมาก จากวงการออกแบบแฟชั่นทุกปี นักออกแบบเสื้อผ้าแทบทุกแบรนด์จะพยากรณ์แนวโน้ม และทิศทางสินค้าแฟชั่นในอนาคต และนำเสนอแนวคิดผ่านการจัดงานแสดงแฟชั่นตามเมืองศูนย์กลางแฟชั่นโลก ดังเช่น การจัดงานแสดงแฟชั่น ณ กรุงนิวยอร์ก เมื่อปลายเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา มีนักออกแบบแฟชั่นการนำเสนอแนวโน้มสินค้าเครื่องประดับที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาในปี 2563 ดังนี้
นักออกแบบเครื่องประดับไทยมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในวงการแฟชั่นและเครื่องประดับในระดับนานาชาติมานานและสินค้ามีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการในสหรัฐฯ เพราะมีความละเอียดและประณีตในการผลิตสินค้า ใครมีฝีมืออย่าปล่อยให้กำลังใจถดถอยไปกับสภาวการณ์ครั้งนี้ แต่ต้องมองหาโอกาสและช่องทางใหม่ที่จะเติบโตและอยู่รอดได้ในอนาคต
สนใจเข้าร่วม “โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” หรือ SMEs Pro-active ของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสขยายตลาดส่งออกสินค้า สามารถเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติได้ ซึ่งที่สหรัฐอเมริกานั้นมีงานแสดงสินค้าเครื่องประดับที่น่าสนใจหลายงานไม่ว่าจะเป็น ASD Market Week ที่ลาสเวกัส, GJX SHOW ที่ทูซอน และ JA New York Spring จากกว่า 42 งานทั่วโลก
สามารถศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์โครงการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการ https://smesproactive.ditp.go.th/
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0 2507 7783 และ 0 2507 7786 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 20 เมษายน 2563
ข้อควรรู้
สินค้ากลุ่มเครื่องประดับส่งออกจากไทยเกือบทั้งหมดได้รับสิทธิพิเศษยกเว้นภาษีนำเข้า (ร้อยละ 0) ภายใต้โครงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกาการเป็นการทั่วไป (Generalized System of Preference) โดยมีผลถึงสิ้นปี 2563 ยกเว้นสินค้าดังต่อไปนี้
- สินค้าแร่เงินอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 3.0
- สินค้าเครื่องเงินชุบอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 5.0
- สินค้าเครื่องประดับโลหะทองหรือทองคำขาวอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 5.5
- สินค้าเครื่องครัวจากโลหะเงินอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 3.0