7-Eleven ขอผงาดในตลาดร้านสะดวกซื้อแดนลุงแซม
29 Sep 2020

 

ย้อนกลับไปในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ได้เกิดข่าวสะเทือนตลาดร้านสะดวกซื้อของแดนซามูไร เมื่อมีข่าวหลุดออกว่า Seven & i Holdings บริษัทแม่ของ 7-Eleven เชนร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงได้สนใจที่จะเข้าซื้อ Speedway ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อและธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในแดนลุงแซม

ครั้งนั้นมีการเปิดเผยออกมาว่า 7-Eleven เตรียมใช้เงิน 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6.9 แสนล้านบาทด้วยกัน ในช่วงเวลานั้นหลายคนได้มองว่า การเข้าซื้อครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะตามงบ Seven & i Holdings มีเงินสดอยู่ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าดีลซื้อกิจการ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจะกลายเป็นภาระทางการเงินก้อนโตที่บริษัทต้องแบกรับ

 

ซื้อจริงด้วยมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

หลังจากมีข่าวหลุดออกมาก็มีข่าวที่ทยอยลือออกมาเป็นระยะๆ ว่า Seven & i Holdings อาจจะไม่ได้เข้าซื้อ Speedway ก็เป็นไปได้ เพราะในช่วงแรกนั้น 7-Eleven ได้ระบุว่า กำลังสำรวจความเป็นไปได้ที่หลากหลายสำหรับกลยุทธ์การเติบโตใหม่ รวมถึงเพิ่มพันธมิตรและการเข้าซื้อกิจการ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจอะไรเลย อีกอย่างคือ ราคาสำหรับดีลนี้ค่อนข้างสูงเกินไปนิด

แต่หลังจากบ่อยเวลาล่วงเลยมาถึงครึ่งปีในที่สุดดีลดังกล่าวก็เกิดขึ้นมาจริงๆ เมื่อมีการเปิดเผยว่า Seven & i Holdings ได้บรรลุข้อตกลงที่จะเข้าซื้อ Speedway ด้วยมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6.6 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงนิดหน่อยเมื่อเทียบกับข่าวที่หลุดออกมาก่อนหน้า

ดีลดังกล่าวได้กลายเป็นข้อตกลงการซื้อที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ ในปีนี้ และแม้จะใช้เงินมหาศาลแต่นี่อาจเป็นสิ่งที่คุ้มค่าสำหรับSeven & i ผู้เป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต Ito-Yokado และห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นและที่อื่นๆ รวม 69,000 สาขาทั่วโลก

เพราะนี่จะเป็นการปูทางให้ธุรกิจจากแดนซามูไรเข้าไปผงาดในแดนลุงแซม

 

วางแผนขยายให้ครบ 20,000 สาขา

อย่างที่รู้กันธุรกิจร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นนั้นกำลังเผชิญข้อท้าทายเป็นอย่างมาก ทั้งจากตลาดที่อิ่มตัวจนไม่สามารถขยายสาขาจำนวนมากๆ เพื่อติดจรวดยอดขายได้เหมือนเดิมอีกต่อไป

ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดของเด็กที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ จึงทำให้แดนซามูไรกำลังเดินทางเข้าสู่สังคมสูงวัยในเวลาอันใกล้ ซึ่งทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ใช้พนักงานจำนวนมาก ไม่สามารถหาแรงงานเข้ามาได้

ดังนั้นเพื่อให้ธุรกิจยังเดินหน้าเติบโตต่อไปได้ หนทางที่ดีที่สุดคือการที่ต้องออกไปเติบโตนอกบ้านเกิด ซึ่งการบุกเข้าสู้ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกจึงเป็นดังแสงสว่างปลายอุโมงค์ให้กับ Seven & i Holdings ซึ่งที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจเพิ่มเติมในอเมริกาเหนือ อย่างต่อเนื่อง ปีงบประมาณล่าสุดคิดเป็นสัดส่วนยอดขายกว่า 40% ก้าวกระโดดอย่างมากในช่วง 5 ปีมานี้

การเข้าซื้อในครั้งนี้จะทำให้ Seven & i Holdings ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในตลาดร้านสะดวกซื้อชนิดที่คู่แข่งตามได้ยากในทันที เพราะเมื่อมองเข้าไปในตลาดจะพบว่า 7-Eleven ถือเป็นเบอร์ 1 ด้วยจำนวนประมาณ 9,000 แห่ง ส่วนอันดับ 2 เป็นของ Alimentation Couche-Tard ซึ่งบริหารร้าน Circle K จำนวน 8,000 สาขาด้วยกัน และอันดับสามไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น Speedway ซึ่งมีสาขาประมาณ 4,000 แห่ง นั้นเอง

ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า หลังจากควบรวมกิจการแล้ว 7-Eleven วางแผนให้ตัวเองขึ้นแตกลูกหลานให้ครบ 20,000 สาขา โดยที่ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาที่แน่ชัด

 

โอกาสก็มี แต่ความท้าทายก็ยังรออยู่

ข่าวดังกล่าวได้ถูกมองว่า 7-Eleven กำลังวางแผนท้ารบกับ Walmart ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมค้าปลีกแดนลุงแซม เพราะไม่เพียงจำนวนสาขาที่มากขึ้นแล้ว การดำเนินธุรกิจก็มีความใกล้เคียงกันอีก ยิ่งวันนี้การหลอมรวมระหว่างออนไลน์และร้านค้าแบบดั้งเดิมที่ใกล้เข้ามาเพิ่มอีกเรื่อยๆ

เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคนิยมส่งสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น แต่ด้วยเครือข่ายโลจิสติกส์ของแดนลุงแซมที่กำลังพัฒนาในหลายส่วนของประเทศ และอาจจะยังไม่ได้ครอบคลุมเท่าญี่ปุ่น ทำให้ผู้บริโภคต้องสั่งมาลงที่ร้านค้าก่อนถึงไปรับทีหลัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้

ขณะเดียวกันแม้สหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักจากวิกฤติโควิด-19 แต่ในระยะยาวนั้นประชากรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดร้านสะดวกซื้อมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกในอนาคต

อย่างไรก็ตามไม่ได้มีเพียงโอกาสเท่านั้น แต่ยังมีความท้าทายอยู่อีกมาก เพราะในสหรัฐนั้นร้านสะดวกซื้อมันตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน ซึ่งวันนี้อนาคตของรถยนต์เครื่องยนต์เผาไหม้กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ Seven & i ต้องใช้เงินอีกมากเพื่อลงทุนในสถานีชาร์จ ในขณะที่เดิมนั้นตัวเองก็ต้องแบกรับภาระการเข้าซื้อกิจการเป็นจำนวนเงินมหาศาลอยู่แล้ว

[อ่าน 2,347]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติการ รีแบรนด์ Microsoft Office เมื่อ “AI” เข้ามาเปลี่ยนวิธีคิดการดีไซน์
ทำไม JW Anderson จึงโดดเด่นในการออกแบบกระเป๋าถืออันเป็นเอกลักษณ์
สี จิ้นผิง–เผิง ลี่หยวน เปิดงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำ SCO 2025 ที่เทียนจิน โชว์บทบาทเจ้าภาพผลักดันความร่วมมือภูมิภาค
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เดิมพันครั้งสุดท้าย? คว้า ‘อเล็กซานเดอร์ หวัง’ ขุนศึก AI ปั้นฝัน Superintelligence
AI ไม่ได้ฆ่า Google Search? เบื้องหลังปราการป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าที่คิด
“มาห์เล” เร่งเครื่องนวัตกรรมยานยนต์ ลดคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีหลากหลาย – หนุนสหภาพยุโรปแก้กฎหมาย CO₂
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved