บลจ.อีสท์สปริง เชื่อหุ้นปันผลโลกทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง พร้อมเปิดขายกองทุน ES-GDIV วันนี้-27 ม.ค.
25 Jan 2023

บลจ.อีสท์สปริง เชื่อหุ้นปันผลโลกยังทำผลงานได้ดี แม้เงินเฟ้อผ่านจุดพีค แต่จะยังคงตัวในระดับสูง แนะลงทุนกองทุนหุ้นปันผลโลก พร้อมชวนคว้าโอกาสลงทุน กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity Fund หรือ ES-GDIV เปิดขาย 23 - 27 มกราคมนี้

 

บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนาออนไลน์ "Building Resilience in a Reset World ลงทุนหุ้นทั่วโลก พร้อมโอกาสรับปันผล” ร่วมกับทาง JPMorgan Asset Management (JPMAM) เพื่อเปิดตัวกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity Fund เมื่อเร็วๆนี้

 

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “แม้ภาวะการลงทุนทั่วโลกจะยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตามอง ทั้งอัตราเงินเฟ้อ นโยบายการเงิน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่เราเชื่อมั่นว่าปีนี้ยังคงเป็นปีที่มีโอกาสการลงทุนที่หลากหลายรออยู่ โดยหนึ่งในการลงทุนที่อีสท์สปริงนำเสนอในครั้งนี้ เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง สามารถจ่ายเงินปันผลได้ แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเผชิญกับความท้าทายอย่างยิ่งในช่วงที่ผ่านมา”

 

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มุมมองด้านการลงทุนของอีสท์สปริงในปี 2566 จะยังคงมีความผันผวนอยู่ โดยในช่วงไตรมาสแรก การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯจะยังคงกดดันภาวะการลงทุนอยู่ ถึงแม้ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะค่อยๆ ลดลงแล้วก็ตาม แต่การที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดไว้ อาจส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลกดีขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างมากลงได้ เปิดช่องให้เฟดมีช่องว่างที่จะปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกได้

“ประเมินว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯจะค่อยๆปรับลงอย่างช้าๆ แต่คาดว่าเฟดจะยังคงมีแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวต่อเงินเฟ้อ เนื่องจากหากเปลี่ยนโทนเร็วเกินไปอาจกระตุ้นให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนของสหรัฐฯจะกลับมาดีขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้ออาจกลับมาได้อีก ซึ่งคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯในไตรมาสแรกจะยังมีความผันผวนอยู่ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นบ้างในกรอบแคบๆ จนกว่าเฟดจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าน่าจะจบที่ปลายไตรมาสแรกของปีนี้”

ขณะที่ในไตรมาส 2 มองว่าหลายสินทรัพย์ในหลายประเทศมีความน่าสนใจ เนื่องจากได้รับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง รวมถึงประเด็นเศรษฐกิจถดถอยไปมากแล้ว ซึ่งน่าจะเห็นภาพการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังไตรมาสแรกของปี 2566 ไปแล้ว และในปีนี้อาจเห็น Country Rotation โดยคาดว่านักลงทุนจะเริ่มปรับสัดส่วนไปลงทุนในประเทศที่มีความเสี่ยงขาลงจำกัดกว่า ซึ่งโดยรวมในปีนี้ อีสท์สปริงยังคงให้น้ำหนักในหุ้นทั่วโลก สหรัฐฯ จีน และเอเชีย รวมถึงให้ความสำคัญกับหุ้นกลุ่มที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และจ่ายเงินปันผลสูง เพื่อเป็นตัวรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นช่วงๆ

 

นอกจากนี้ นายอนิส เทียศิริ Executive Director, Southeast Asia Funds, JPMorgan Asset Management (JPMAM)  ได้กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่สินทรัพย์ต่างๆ ล้วนได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การทุ่มเงินมหาศาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในประเทศต่างๆ รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน

แต่ในปีนี้ทาง JPMAM เชื่อว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว โดยราคาน้ำมันและอาหารมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ แต่ยังคงอยู่เหนือระดับคาดการณ์ของธนาคารกลางที่ 2% ในช่วงสิ้นปีนี้ ด้วยเหตุที่ค่าที่พักและค่าจ้างแรงงานในสหรัฐฯและยุโรปนั้นยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงโดยง่ายจึงเชื่อว่าเงินเฟ้อจะยังคงตัวในระดับสูงต่อไป

 

สำหรับสถานการณ์การลงทุนในช่วงนี้นั้น จะเห็นได้ว่าในช่วงที่เงินเฟ้อสูงอย่างในปีที่ผ่านมานั้น หุ้นที่ยังสามารถจ่ายปันผลได้นั้น แสดงว่าตัวบริษัทเองมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง หรือตีความได้ว่าหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นคุณภาพนั่นเอง ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้หุ้นปันผลมีโอกาสสร้างผลงานได้ดีต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อจะยังคงปรับลดลงอย่างช้าๆ และอยู่ในระดับที่สูงจนถึงสิ้นปี

สำหรับกองทุน ES-GDIV ที่ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) นำเสนอในครั้งนี้ นายปณิธาน ศรีอินทร์ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ ได้ให้รายละเอียดว่า เป็นกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงกองทุนอยู่ระดับที่ 6 เน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ JPMorgan Global Dividend Fund – Class C (acc) USD เพียงกองทุนเดียว  ซึ่งกองทุนหลักมีนโยบายเน้นการลงทุนในตราสารทุนทั่วโลกที่มีคุณภาพและมีการเติบโตของอัตราการจ่ายปันผลที่ดี และมีเป้าหมายสร้างพอร์ตโฟลิโอที่สามารถจ่ายปันผลมากกว่าตลาดในระยะยาว โดยใช้การวิเคราะห์รายบริษัท รวมถึงกรอบการจ่ายเงินปันผล ในการเฟ้นหากิจการคุณภาพ  โดยมีจำนวนหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะลงทุนอยู่ราว 40-90 บริษัท และมีการกระจายการลงทุนไปในหลายภูมิภาค ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 มีสัดส่วนการลงทุนในสหรัฐ 58.4% สหภาพยุโรป 17.6% และสหราชอาณาจักร 5.7%

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ การมีหุ้นปันผลอยู่ในพอร์ตจะช่วยสร้างสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุนของตนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สถานการณ์การลงทุนยังมีความไม่แน่นอน เพราะการให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นสไตล์ใดสไตล์หนึ่งมากเกินไป อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นได้

 


ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

[อ่าน 1,412]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
AWC ผนึกแมริออท เปิดตัว “พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา” ยกระดับพัทยาสู่เมืองท่องเที่ยวยั่งยืน
“BVAX Master” โดย “หอแว่น Better Vision” ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาของคนทุก Generation
แอสเซนด์ มันนี่ ปักธง Virtual Bank อย่างเป็นทางการ! พร้อมเปิดมิติใหม่การเงินเพื่อคนไทยทุกคน
ไมเนอร์ โฮเทลส์ คว้า 26 รางวัลทรงเกียรติ จาก T+L Luxury Awards Asia Pacific ประจำปี 2025
ทรู หนุนสร้างที่ทำงานปลอดภัย เปิดกว้างทุกความหลากหลาย ผ่านคลับ “Bring Your Best” ในงาน “True Colors”
กรุงเทพประกันภัยเร่งจ่ายเคลมสินไหมจากเหตุแผ่นดินไหว สร้างความเชื่อมั่นด้วยการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved