บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS จากเดิมชื่อ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นวันที่ 20 กันยายน 2544 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2550 ปัจจุบันดำเนินกิจการเกี่ยวกับ Digital Technology ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ Online Games, Blockchain & Innovation Technologies, Marketing Technologies และ Corporate Venture Capital
ทั้งนี้ในปี 2565 ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โดยมีการตั้งบริษัทร่วมทุนในนาม บริษัท คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (KUBPLAY) ต่อมามีการ่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มเกมอย่างต่อเนื่องจนเมื่อ 30 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซื้อหุ้นสามัญในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด จำนวน 4,149,000 หุ้น หรือคิดเป็น 9.22% ของทุนจดทะเบียน จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้น 600 ล้านบาท โดยการซื้อขายจะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566นี้
สำหรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub Online Co., Ltd.) หรือที่รู้จักกันในนาม บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ (Bitkub Exchange) เป็นศูนย์ซื้อขายในไทย ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในปี 2565 ได้รับ ISO/IEC 27001 มาตรฐานระบบบริหารจัดการความปลอดภัยข้อมูล และล่าสุดได้รับ ISO/IEC 27701 มาตรฐานระบบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล จากสถาบันรับรองมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอังกฤษ
ปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานกรรมการ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากมีความร่วมมือเกิดขึ้นกับบิทคับในปี 2565ที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจจากเดิมที่ให้บริการเกมออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่การเป็นบริษัทด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชน และการพัฒนา Web 3.0 จะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอนาคต บริษัทจึงสนใจเข้าลงทุนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ เนื่องจากเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลอันดับหนึ่งในประเทศไทย
ทั้งนี้ยังมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% รวมถึงกลุ่มบิทคับมีความเชี่ยวชาญและมีระบบนิเวศด้านบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีครบวงจร ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจของกลุ่มบริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เช่น การนำฐานข้อมูลธุรกรรมบนระบบออนไลน์ขึ้นบล็อกเชนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น การประยุกต์เทคโนโลยีบล็อกเชนกับธุรกิจเกมในรูปแบบ Play & Earn และการพัฒนา Metaverse รวมถึงการสร้าง dApps (Decentralized Applications) เพื่อต่อยอดบริการใหม่ๆ ในธุรกิจ
นอกจากนี้บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน และมีฐานลูกค้ามากกว่า 180 ล้านไอดี ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความใกล้เคียงกับฐานลูกค้าของบิทคับ ซึ่งการเข้าลงทุนครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวของการได้สร้างสตาเทจิกพาร์ทเนอร์ชิพ
จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชน และWeb 3.0 กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองบริษัทมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจและการทำงานที่สอดคล้องกัน ดังนั้นกลุ่มบริษัทบิทคับและแอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ พร้อมจะแบ่งปันจุดแข็งที่ต่างฝ่ายมี เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทบิทคับให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ได้คำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ และการจับมือกันในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการร่วมกันวางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในทุกมิติเพื่อให้กลุ่มบริษัทบิทคับสามารถขยายตลาดไปสู่ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
นอกจากนี้จะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนกลุ่มบริษัทบิทคับ จะได้พันธมิตรด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่สำคัญ โดยแอสเฟียร์ มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เกม รวมถึงธุรกิจสื่อและการตลาด จะช่วยเข้ามาผนึกกำลังในกลุ่มบิทคับรวมไปถึงการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ของ แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ อีกด้วย