โชติกา กำลูนเวสารัช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เป็นตัวเร่งให้เทคโนโลยีการศึกษาถูกนำไปใช้ในสถานศึกษาทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยแม้ปัจจุบันสถานการณ์การเริ่มคลี่คลาย แต่การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษายังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และถูกพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การเรียนการสอนในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบผสมผสาน Hybrid Learningหรือ Blended Learning เป็นการผสมผสานการเรียนรู้ในห้องเรียน ควบคู่ไปกับการเรียนออนไลน์เพื่อการจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ดังนั้นโรงเรียนจึงต้องมีการลงทุนเทคโนโลยีด้านการเรียน-การสอน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การให้บริการเทคโนโลยีด้านการศึกษาจึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีอนาคต
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทสามารถเทลคอม มีความพร้อมในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีด้านการศึกษาอย่างครบวงจร ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของบริษัทในเครือ มีทีมงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มายาวนานกว่า 10 ปี มีผลงานด้านระบบการจัดการการเรียนการสอนให้กับสถาบันการศึกษาชั้นนำในระดับอุดมศึกษา การสร้างบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (Courseware) และการอบรมออนไลน์ ให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งการร่วมเป็นพันธมิตรกับ PowerSchool ในครั้งนี้ จึงช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี และเพิ่มศักยภาพการให้บริการที่มีมาตรฐานไปสู่ระดับเวิลด์คลาส โดยมีเป้าหมายขยายการให้บริการ แก่กลุ่มสถานศึกษาระดับประถม และมัธยมศึกษา ในโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนเอกชน และอื่น ๆ โดยล่าสุดบริษัทสามารถเทลคอมได้รับการแต่งตั้งเป็น Diamond Global Power Partner จาก PowerSchool โดยเป็นตัวแทนแบบ Exclusive Partner ในประเทศไทย
สำหรับ PowerSchool เป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโลกด้านซอฟต์แวร์การศึกษาในระบบคลาวด์ มีประสบการณ์ด้านการศึกษาเชิงลึกและความรู้ด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรอย่างกว้างขวาง ให้บริการกว่า 90 ประเทศทั่วโลก และมีนักเรียนใช้บริการมากกว่า 50 ล้านคน โดยระบบสามารถเชื่อมโยงข้อมูลการศึกษารอบด้านทั้งนักเรียน ครู ผู้บริหาร และผู้ปกครอง โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการปรับปรุงผลการเรียนของนักเรียนในประเทศไทย ทั้งนี้ PowerSchool ได้ให้บริการในโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง
ส่วนจุดเด่นของ PowerSchool คือ สามารถให้บริการด้านเทคโนโลยีการศึกษาแบบครบวงจร มุ่งพัฒนาการศึกษาของนักเรียนเป็นสำคัญ โดยแพล็ตฟอร์มสามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับด้านการเรียนระหว่างนักเรียน ครู โรงเรียนและผู้ปกครอง โดยโรงเรียนไม่ต้องลงทุนระบบคอมพิวเตอร์หรือ server ใด ๆ เป็นบริการในลักษณะ Cloud-based Subscription Solutions สามารถรองรับการขยายการใช้งานได้ง่าย ระบบมีความเสถียร ปลอดภัย ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือสื่อสารและรายงานระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ช่วยให้ผู้ปกครองติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนได้ง่ายขึ้น ใกล้ชิดขึ้น พร้อมเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการเรียนการสอนสำหรับผู้สอน ลดเวลาในการจัดการข้อมูลนักเรียน ช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์การเรียนรู้ของนักเรียนสามารถจัดการการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) ผู้บริหารโรงเรียนสามารถเห็นภาพรวมการเรียนการสอนทั้งกระบวนการ และมีข้อมูลที่แม่นยำสำหรับการบริหารจัดการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น