UOB Sustainability Innovation ขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอีด้านการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน
28 Jul 2023

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ Sustainability Innovation อย่างเป็นทางการ หนุนผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้เดินหน้าธุรกิจสู่ความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

โครงการ “Sustainability Innovation” ดำเนินการโดย เดอะฟินแล็บ ประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ O2O Forum ที่จะยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจการท่องเที่ยวกว่า 150 บริษัท ผ่านการสนับสนุนที่จำเป็น พร้อมด้วยทรัพยากรและเครื่องมือในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่จะสร้างสมดุลระหว่าง ผลกระทบ ผลกำไร และประสิทธิภาพได้อย่างลงตัว

ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ด้วยข้อมูลเชิงลึกและองค์ความรู้ต่างๆ ในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน การปรับกระบวนการปฏิบัติงานแบบดิจิทัลเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การนำเครื่องมือดิจิทัลอย่าง “cWallet” ซึ่งเป็นระบบบัญชีก๊าซเรือนกระจกมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ จะทำให้ SMEs สามารถก้าวสู่ทิศทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนได้พร้อมทั้งมีการเก็บข้อมูลของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเรียลไทม์

เพื่อให้ SMEs ได้ทดลองใช้เครื่องมือดิจิทัลในธุรกิจ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิพิเศษในการทดลองใช้ cWallet แพลตฟอร์มแบบออลอินวันสำหรับการบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ SMEs ยังจะได้รับสิทธิ์ทดลองใช้ระบบจองร้านอาหาร Appointment Anywhere เป็นเวลา 4 เดือน พร้อมรับส่วนลด 4,400 บาทในการสมัครสมาชิกรายปี 1 ปี โดยจะช่วยลดขั้นตอนของการบริหารจัดการด้านการจองโต๊ะสำหรับธุรกิจร้านอาหาร นับเป็นการเพิ่มศักยภาพ และสร้างผลกำไรทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เนื่องจากธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนกำลังได้รับความสนใจและมีการคาดการณ์ว่าธุรกิจสามารถสร้างมูลค่าได้สูงถึง 843 ล้านบาทในปี 2565 (USD 24.6MB) โครงการ Sustainability Innovation โดยธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงพร้อมที่จะสนับสนุน SMEs ให้เกิดการพัฒนาธุรกิจของตนเองให้เป็นไปตามความคาดหมายของผู้บริโภคในการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจจากรายงาน “Sustainability Travel Study 2022” ที่ระบุว่า ร้อยละ 90 ของผู้บริโภคนักเดินทางใช้เกณฑ์เรื่องความยั่งยืนเป็นตัวเลือกเมื่อตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยว ทำอย่างไรให้การไปท่องเที่ยวทริปนั้นยั่งยืนมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 69 มองหาทริปที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และร้อยละ 65 แสดงออกถึงความสนใจวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นชุมชน

บัลลังก์ ว่องธวัชชัย Head of Digital Engagement and FinTech Innovation ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน นับเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากผู้บริโภคเองต่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้นเมื่อพวกเขาเดินทางท่องเที่ยว

“โครงการของเราจึงรวบรวมบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำปรึกษาแก่ SMEs เพื่อมุ่งมั่น รับมือและก้าวสู่โอกาสใหม่ๆ นี้ให้ได้ โดย SMEs สามารถก้าวไปเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนได้จากเครื่องมือทางดิจิทัลที่ผ่านการคัดเลือกและปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการ ไปจนถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการปรับใช้เทคโนโลยีสีเขียว ไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีความชำนาญในด้านการจัดโครงสร้างโมเดลทางธุรกิจของตน”

นิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ประเทศไทยมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากกว่า 12.8 ล้านราย และคาดการณ์ไว้ว่าจะสูงถึง ร้อยละ 80 ของระดับนักท่องเที่ยวก่อนการระบาดของโควิด-19

“ททท.เองก็อยากที่จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในที่หมายของการท่องเที่ยว จึงได้เริ่มโครงการ SUKJAI SMART TRAVEL ขึ้นเพื่อที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านเทคโนโลยี NFT ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปใกล้ชิดชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจ และยังดูแลสิ่งแวดล้อมตามหลักการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ โครงการ SUKJAI SMART TRAVEL ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเป็นที่รู้จักของพวกเขาบนแพลตฟอร์มอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ และเมื่อทำงานร่วมกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทยในการดำเนินโครงการ Sustainability Innovation ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยต่อยอดโครงการ SUKJAI SMART TRAVEL

แต่ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้มีความพร้อม ความสามารถ และโอกาส ในการรองรับนักท่องเที่ยวได้ดีขึ้น นอกจากนี้เรายังคาดการณ์ว่าภายในปี 2566 ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาท

โครงการ Sustainability Innovation เปิดให้เจ้าของกิจการและผู้บริหารในธุรกิจการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบันเทิง ที่มีความสนใจในการปรับใช้แนวทางความยั่งยืน เปิดรับเทคโนโลยีล้ำสมัย และพร้อมลงทุนต่อยอดธุรกิจด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัล มีความพร้อมและเวลาในการเข้าร่วมโครงการ ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2566

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.facebook.com/uob.th หรือ https://thefinlab.com/th/thailand

[อ่าน 531]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พันธุ์ไทย เปิดตัว “กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทย” ที่ไม่ใช่แค่อร่อยกว่า แต่ยังย่อยสลายได้ทุกชิ้นส่วน 100%
ICONSIAM ART & CULTURE ชวนดื่มด่ำงานศิลป์กับ 3 งานอาร์ต ชมความงดงามที่หลากหลาย
“อีเอ็ม มอเตอร์” เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EM Qarez ตอบโจทย์ Gen Z คาดปีนี้ ยอดขายทะลุ 600 ล้านบาท
ท็อปส์ ปลุกกำลังซื้อรับไตรมาส 2 จับมือ 3 ครีเอเตอร์ไทยร่วมอวดผลงานบนพรีเมี่ยมสุดยูนีค
AWC เผย Q1/67 โตก้าวกระโดด 1,401 ล้านบาท จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมถึงร้อยละ 83
โอโมดา แอนด์ เจคู เปิดตัวหุ่นยนต์ “Mornine” เติมเต็มระบบนิเวศการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved