‘เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)’ ประเดิมเซกเมนต์รถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่ ไฟฟ้า 100% ด้วยการเปิดตัว ‘Kia EV9’ เอสยูวี 6 ที่นั่งรุ่นแรกในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พลิกโฉมการขับขี่ด้วยการมอบประสบการณ์การใช้งานระดับ ‘พรีเมียม สมาร์ท’
‘Kia EV9’ นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเรือธง มีความโดดเด่นด้วยปรัชญาการออกแบบ ‘Opposites United’ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นการพลิกโฉมรถเอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากการผสมผสานองค์ประกอบที่เป็นธรรมชาติและมีความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สอดคล้องกับการสื่อสารของแบรนด์ภายใต้แนวคิด ‘The Inspiration Larger than Life’
ส่งผลให้ได้รถยนต์ในสไตล์ที่แตกต่าง มาพร้อมความสง่างามที่ยากจะมีใครเทียบ ผสมผสานความปลอดภัยอันเหนือชั้น รวมทั้งการออกแบบ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สร้างความตื่นเต้นให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ นับเป็นก้าวสำคัญของเกียในฐานะ ‘แบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน’ (Sustainable Mobility Solutions Provider) โดยให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การเชื่อมต่อ (Connectivity), การขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous driving), ประสิทธิภาพ (Performance) และการออกแบบ (Design)
รูปลักษณ์ภายนอกให้ความรู้สึกร่วมสมัยและเรียบหรู เข้ากับสไตล์อันซับซ้อนของคอนเซปต์การขับเคลื่อนที่ยั่งยืนในยุคปัจจุบัน โฉมด้านหน้าแสดงออกถึงความมั่นใจ ความชัดเจน และความสงบ ด้วยเส้นสายและพื้นผิวที่ชัดเจน โดยโฉมด้านหน้าแบบ ‘Digital Tiger Face’ อันเป็นเอกลักษณ์ของรถเอสยูวีรุ่นนี้
สะท้อนถึงความพิเศษเฉพาะตัวด้วยกระจังหน้าในสไตล์ ‘Digital Pattern Lighting Grille’ และไฟหน้าแนวตั้ง ส่งให้ Kia EV9 เป็นรถเอสยูวีมีรูปลักษณ์ทันสมัยและล้ำอนาคต นอกจากนี้ ยังมาพร้อมดวงไฟทรงลูกบาศก์ขนาดเล็กสองแถวที่อยู่ติดกับไฟหน้าแต่ละดวงอย่างมีเอกลักษณ์
ตัวรถมีระยะฐานล้อ 3,100 มิลลิเมตร สามารถรองรับล้อรถขนาด 21 นิ้ว หรือ 20 นิ้ว ตามแต่จะเลือกใช้ มีความยาวโดยรวมตลอดตัวรถอยู่ที่ 5,015 มิลลิเมตร กว้าง 1,980 มิลลิเมตร และสูง 1,780 มิลลิเมตร ทำให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและร่วมสมัย ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี
ภายในมาพร้อมกับ ‘Panoramic Wide Display’ ที่มีจอแสดงผลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5.3 นิ้ว ช่วยให้สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและส่งผ่านข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ โหมด EV ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบและควบคุมข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับ EV ทั้งหมดได้ในโหมดเดียว โดยผู้ขับขี่สามารถแก้ไขและกําหนดค่าอินเทอร์เฟซในสไตล์วิดเจ็ตได้อย่างอิสระตามต้องการ
ในแง่ของการใช้งาน Kia EV9 มีตัวเลือกการปรับที่นั่งอันหลากหลายซึ่งตอบสนองกับความต้องการในการใช้งานรูปแบบต่างๆ โดยสามารถปรับที่นั่งสำหรับ 6 ที่ได้ 2 แบบสำหรับแถวที่ 2 เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้พื้นที่ให้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด
Kia EV9 มาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกําลังไฟฟ้ามากมายตามมาตรฐาน Electric Global Modular Platform (E-GMP) และใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นที่ 4 ของเกีย โดยมีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 99.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทั้ง 2 รุ่น
นอกจากนี้ ยังมอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งานด้วยระยะทางจากพลังงานไฟฟ้า สูงสุด 680 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งในการชาร์จแบบรวดเร็วพิเศษ (Ultra-fast Charge) 350 กิโลวัตต์ เป็นเวลา 24 นาที จะสามารถวิ่งได้เป็นระยะทาง 450 กิโลเมตร
ที่สำคัญ Kia EV9 ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมายซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากเกีย เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสาร อาทิ
Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA), Lane Keeping Assist (LKA), Smart Cruise Control (SCC) with Stop & Go และ Forward Collision Avoidance Assist (FCA) with Junction Assist ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในสถานการณ์ที่อาจเกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ ยังมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้วยฟีเจอร์พิเศษต่างๆ เช่น Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance (RCCA) และ Parking Collision-Avoidance Assist (PCA)
Kia EV9 Earth Long Range ราคา 3.499 ล้านบาท และ Kia EV9 GT-Line AWD ราคา 3.899 ล้านบาท โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 7 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 7 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) 7 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร