ไอ-เทล รายงานผลประกอบการ Q1/67 แข็งแกร่ง รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93%
03 May 2024

บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC รายงานผลการดำเนินธุรกิจประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีรายได้จากยอดขายรวมที่ 4,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 821 ล้านบาท เติบโต 93 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังเพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่กลับมาสู่ระดับปกติ การเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียม การปรับราคาขาย และปริมาณคำสั่งซื้อจากลูกค้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก ส่งผลให้ไอ-เทลมียอดขายเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพร่วมกับกลยุทธ์การปรับราคาสินค้า ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจมีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาที่ 26 เปอร์เซ็นต์ และ 20 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

 

พิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“หลังจากก้าวผ่านความท้าทายในปี 2566 ในที่สุดการดำเนินธุรกิจของไอ-เทล สามารถกลับมามีกำไรและยอดขายที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีความพร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ในปี 2567

โดยบริษัทฯ ยังคงยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเป็นศูนย์กลาง (Pet Centric) และต่อยอดธุรกิจด้วยการคว้าโอกาสสำคัญต่างๆ จากภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงที่คาดว่าจะเติบโตในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเวลานี้เป็นต้นไป”

“อีกทั้ง ไอ-เทลได้เดินหน้ากลยุทธ์เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจร่วมกับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันควบคู่ไปกับการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสที่ 1 ได้เริ่มต้นข้อตกลงทางธุรกิจเพื่อการผลิตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงให้แก่แบรนด์ค้าปลีกชั้นนำในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มมีคำสั่งซื้อและส่งมอบสินค้าล็อตแรกในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้”

 

 

สำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 ไอ-เทลมีสัดส่วนของยอดขายแบ่งตามภูมิภาคดังนี้ สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 45 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่เอเชียและโอเชียเนียอยู่ที่ 36 เปอร์เซ็นต์และยุโรปอยู่ที่ 19 เปอร์เซ็นต์

อีกทั้ง สามารถแบ่งสัดส่วนของยอดขายตามประเภทของสินค้าอาหารหลัก 3 ประเภท ได้แก่ อาหารแมว 75 เปอร์เซ็นต์ อาหารสุนัข 13 เปอร์เซ็นต์ ขนมทานเล่นของสัตว์เลี้ยง 10 เปอร์เซ็นต์ และธุรกิจอื่นๆ อีกราว 2 เปอร์เซ็นต์

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการตอบรับเทรนด์การดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว หรือ “Pet Humanization” ที่มาพร้อมกับการบริโภคสินค้าพรีเมียมที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของไอ-เทลในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมคุณค่าทางโภชนาการที่ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย

รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐานและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Pet Parents ทั่วโลกที่ต้องการดูแลและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 500 รายการ ในไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยการลงทุนราว 1.3 พันล้านบาท เพื่อติดตั้งระบบการจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage & Retrieval System - ASRS) ที่โรงงานในจังหวัดสงขลา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนในระยะยาว

ท้ายที่สุดนี้ ไอ-เทล ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาความยั่งยืนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ SeaChange® 2030 โดยได้เริ่มการติดตั้งระบบการปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยการกรองแบบ Ultrafiltration and Reverse Osmosis (UFRO) ที่โรงงานในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบในจำนวน 5 โรงของกลุ่มไทยยูเนี่ยนในการนำร่องด้านกระบวนการผลิตที่เป็นเลิศ (best-in-class manufacturing) โดยคาดว่าการติดตั้งจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยน้ำเสียเป็นศูนย์ (zero water discharge) ให้สำเร็จภายในปี 2573

 

“ผมเชื่อมั่นว่าไอ-เทลจะสามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในปี 2567 เพื่อตอกย้ำศักยภาพของเราในการเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของโลกที่พร้อมส่งมอบคุณค่าเชิงบวกสู่สังคมและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อก้าวไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนไปพร้อมกันในระยะยาว” พิชิตชัยกล่าวทิ้งท้าย

[อ่าน 849]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โออิชิ รุกต่างประเทศ !!! พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ ภายใต้แบรนด์ “โอโยชิ อีทโตะ” เจาะตลาดอาเซียน – ยุโรป
ถอดรหัสเบื้องหลัง การผนึกพลังข้ามชาติของ สยามพิวรรธน์ และ Huawei
orbix INVEST ออกแคมเปญ “ดีลเด็ด” หนุนมือใหม่ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมชดเชยขาดทุนสูงสุด 1,000 บาท
ยูโอบี จับมือ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล เดินหน้าส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมไทย-อาเซียน
NetApp แต่งตั้ง แอนเจลีน ลิม ผู้นำคนใหม่ประจำภูมิภาคอาเซียน ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ก้าวต่อไปในความสำเร็จ
“จระเข้” คว้า Asia Responsible Enterprise Awards 2025 ตอกย้ำผู้นำก่อสร้างสีเขียว
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved