แกร็บ เผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2566 มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น

20 Jun 2024

แกร็บ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนพันธกิจ “GrabForGood หรือ แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและสิ่งแวดล้อม ผ่านรายงานความยั่งยืนประจำปี 2566 (ESG Report 2023) ที่รวบรวมผลการดำเนินงานของแกร็บที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนในสังคม การส่งเสริมและดูแลสิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการอย่างยั่งยื่น โดยในปีที่ผ่านมา (2566) แพลตฟอร์มแกร็บช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในภูมิภาคมากกว่า 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินโดยให้สินเชื่อกับพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้ารวมกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากกว่า 71,000 ตัน และลดปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งมากกว่า 7,365 ตัน

 

วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า

“ปัจจุบันแพลตฟอร์มของแกร็บกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ไม่เฉพาะแต่ผู้ใช้บริการที่มีมากกว่า 35.5 ล้านคนทั่วทั้งภูมิภาค แต่ยังรวมถึงพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้ากว่า 13 ล้านรายที่อาศัยแพลตฟอร์มของเราเป็นช่องทางในการหารายได้ เราตระหนักดีว่าแกร็บไม่ได้เป็นเพียงแค่แอปพลิเคชันที่ช่วยตอบสนองความสะดวกสบายอีกต่อไป แต่เรายังสามารถมีส่วนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย

ดังนั้น ที่ผ่านมาเราจึงได้พยายามพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการ ขณะเดียวกันก็ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมใน 3 มิติหลัก ได้แก่ การสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนในสังคม (Social Impact) ซึ่งโฟกัสไปที่การเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างอาชีพและรายได้จากแพลตฟอร์มของเรา การส่งเสริมและดูแลสิ่งแวดล้อม (Environment) โดยมุ่งใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และการใช้ธรรมาภิบาลในการกำกับดูแลกิจการเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน (Governance) โดยทั้งหมดนี้สอดคล้องไปกับพันธกิจ GrabForGood ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่แกร็บในทุกประเทศยึดถือมาตลอดนับตั้งแต่เริ่มต้นดำเนินธุรกิจ”

 

สำหรับรายงานความยั่งยืนของแกร็บประจำปี 2566 ได้นำเสนอภาพรวมการดำเนินงานที่แกร็บทั่วทั้งภูมิภาได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมในปีที่ผ่านมา โดยมีไฮไลท์สำคัญ ดังนี้

 

การสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนในสังคม:

  • พาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้าสามารถสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มแกร็บได้รวมกันมากกกว่า 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.07 แสนล้านบาท) ขณะที่รายได้ต่อชั่วโมงของพาร์ทเนอร์คนขับเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  • ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินโดยให้สินเชื่อพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้าเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 5.55 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 57% โดย 1 ใน 3 ของพาร์ทเนอร์คนขับทั้งแพลตฟอร์มได้รับสินเชื่อจากแกร็บ
  • พัฒนาทักษะและศักยภาพของพาร์ทเนอร์เพื่อเพิ่มโอกาสในการหารายได้ ด้วยการจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ อาทิ หลักสูตรการเงิน การตลาดดิจิทัล การอบรมภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า โดยในปี 2566 มีพาร์ทเนอร์คนขับเข้ารับการอบรมออนไลน์ผ่านโครงการ GrabAcademy มากถึง 1.2 ล้านคน
  • รักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย โดย 99.99% ของเที่ยวเดินทางในการรับส่งผู้โดยสารและบริการเดลิเวอรีปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ขณะที่จำนวนเที่ยวการเดินทางจากให้บริการทั้งสองประเภทเพิ่มขึ้นถึง 11% ในปีที่ผ่านมา

 

การส่งเสริมและดูแลสิ่งแวดล้อม:

  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 71,000 ตัน จากการสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์คนขับเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำหรือเป็นศูนย์ ในการให้บริการ 
  • สนับสนุนการปลูกต้นไม้กว่า 280,000 ต้น จากการบริจาคเงินของผู้ใช้บริการผ่านฟีเจอร์ชดเชยคาร์บอนทุกครั้งที่ใช้บริการเรียกรถและเดลิเวอรี
  • ลดการใช้ช้อนส้อมพลาสติกไปเป็นจำนวนรวมกว่า 817 ล้านชุด และลดปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้มากถึง 7,365 ตัน จากฟีเจอร์งดรับช้อนส้อมพลาสติกและการส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์แบบรีไซเคิลได้

 

“สำหรับในประเทศไทย แกร็บยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจ GrabForGood อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยในปีที่ผ่านมา นอกจากการพัฒนาและปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังโควิด โดยยังคงเปิดโอกาสให้คนไทยใช้แพลตฟอร์มของเราในการสร้างรายได้แล้ว เรายังได้ส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับ-ร้านค้าที่มีข้อจำกัดสามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน ด้วยการให้สินเชื่อแก่พาร์ทเนอร์กว่า 100,000 ราย

ในด้านสิ่งแวดล้อม เรายังคงมุ่งผลักดันโครงการ Grab EV โดยผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจเพื่อสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์คนขับเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันเราก็ยังเดินหน้าโครงการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) โดยส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการร่วมบริจาคผ่านฟีเจอร์ชดเชยคาร์บอนเมื่อใช้บริการต่างๆ ของแกร็บ ซึ่งเฉพาะในปีที่ผ่านมา เราได้นำเงินบริจาคไปซื้อคาร์บอนเครดิต และปลูกต้นไม้เพื่อชดเชยคาร์บอนได้มากกว่า 150,000 ต้นในจังหวัดกระบี่” วรฉัตร กล่าวเสริม

 

 

นอกจากนี้ เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกที่ผ่านมา แกร็บ ประเทศไทย ยังได้จัดกิจกรรม GrabForGood เพื่อปลุกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับพนักงาน โดยร่วมกับมูลนิธิเทอร์ราไซเคิล ไทย (TerraCycle Thai Foundation) ชวนพนักงานจิตอาสาไปร่วมเก็บขยะในคลองลาดพร้าว พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการและการคัดแยกขยะที่ถูกวิธี โดยสามารถเก็บขยะได้เป็นจำนวนกว่า 1.3 ตัน เพื่อนำมาคัดแยกและรีไซเคิลต่อไป

[อ่าน 420]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
LINE MAN ผนึก ช่องวัน 31 พลิกโฉมประสบการณ์ดูซีรีส์ 
ด้วย “Taste-perience”
Chang Canvas เปิดพื้นที่ Brewhouse สุดไอคอนิก ส่งต่อความสุขเทศกาลดนตรีระดับโลก
ทรู ผนึกกำลังการีนา เปิดศึก RoV สุดมันส์ทั่วไทย!
หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ร่วมออกบูธในงาน Set in the City 2025
โปรแกรมตรวจรับคอนโด ผู้ช่วยที่ทำให้การตรวจรับเป็นเรื่องง่ายขึ้น
พรูเด็นเชียล ประเทศไทย รุกตลาด “High Net Worth” ชูแนวคิด “PRULegacy: Your Mark Lives On”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved