เพาเวอร์ มอลล์ (POWER MALL) เดอะมอลล์ กรุ๊ป NO.1 ELECTRONICS & LIFESTYLE EXPERIENTIAL MEGA STORE ของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที ผนึกกำลังแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลกมากกว่า 200 แบรนด์ จัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส ” (POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE) มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง ขนทัพสินค้าจัดเต็มทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE ULTIMATE RACE OF INNOVATION”
พร้อมไฮไลท์สินค้าใหม่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ที่ “POWER MALL FIRST” และหลากหลายไฮไลท์สินค้าที่มาพร้อมฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบโจทย์เทรนด์ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยี AI ในสินค้าหลากหลายกลุ่ม เพื่อทำให้การใช้ชีวิตประจำวันง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น พิเศษเฉพาะสาขาพารากอน เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ด้วย Apple Shop ใหม่ ใหญ่ที่สุดในโลกที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า, โซนเกมมิ่งใหม่ล่าสุดที่เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับเหล่าเกมเมอร์และโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (SMALL APPLIANCE) นำเสนอหลากหลายสินค้าสุขภาพไลฟ์สไตล์ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มค่า สินค้าลดสูงสุด 60%, รับฟรีคูปองส่วนลดเงินสดสูงสุด 15,000 บาท, ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน, สมาชิก M CARD ลดเพิ่มสูงสุด 20% (เฉพาะวันพุธ), รับคืน รวมสูงสุด 36,000 บาท จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 19 มิถุนายน – 29 กรกฏาคม 2567 ที่ POWER MALL ทุกสาขา
การจัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” ในปีนี้ ซึ่งเป็นมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของเมืองไทย ในช่วงกลางปี ของเพาเวอร์ มอลล์ ที่ลูกค้ารอคอย ถือเป็นจังหวะสำคัญในการสร้างยอดขาย และรองรับความต้องการซื้อที่สูงขึ้น เพาเวอร์ มอลล์ จึงได้ร่วมกับผู้ประกอบการแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำมากกว่า 200 แบรนด์ รวบรวมหลากหลายกลุ่มสินค้าทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน , ทีวี & ออดิโอ , โมบาย & ไอที & เกมส์, แกดเจ็ต และสินค้าสุขภาพและไลฟ์สไตล์ มานำเสนอให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE ULTIMATE RACE OF INNOVATION” รวมที่สุดแห่งสินค้าเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และยิ่งกว่านั้นช่วงเวลานี้ยังมีมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ซึ่งจะเป็นการผลักดันยอดขายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เพาเวอร์ มอลล์ ยังพร้อมเป็นเวทีให้แบรนด์ต่างๆ ได้ร่วมแสดงนวัตกรรมแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุด, สินค้านำเทรนด์ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทั้งฟังก์ชั่น AI หรือการสั่งงานผ่านอินเทอร์เน็ต-สมาร์ทโฟน, Wellness & Healthy Lifestyle, และ Sustainability รับเทรนด์มาแรง รวมถึงสินค้าที่จะมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่โซน POWER MALL FIRST พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ อาทิ
พิเศษสุดที่สาขาพารากอน พบกับคอนเซ็ปต์ Apple Shop โฉมใหม่ล่าสุดที่ใหญ่ที่สุดในห้างสรรพสินค้ามาพร้อม Double Digital Brand Wall ที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก นำเสนอหลากหลายกลุ่มสินค้า ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของผู้บริโภค, โซนเกมมิ่งใหม่ล่าสุด มาพร้อมไอเทมจัดเต็ม ตอบโจทย์เกมเมอร์อย่างครบครัน และเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตของคนเมืองรุ่นใหม่ ที่มีความใส่ใจเรื่องสุขภาพและความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต POWER MALL ยังได้ปรับโฉมพื้นที่กว่า 40 ตร.ม. ให้กับสินค้ากลุ่มเครื่องล้างจานจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ เช่น BOSCH, ELECTROLUX, TOSHIBA และ MEX รวมถึงขยายพื้นที่เพื่อสินค้าในกลุ่ม WATER SOLUTION ให้เด่นชัดขึ้น เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นจากแบรนด์ระดับโลก เช่น STIEBEL ELTRON, MAZUMA, PANASONIC รวมถึงเครื่องกรองน้ำชั้นนำจากเกาหลีอย่าง COWAY
อีกทั้งยังได้รวบรวมความครบครันของสินค้าเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไว้ให้ได้เป็นเจ้าของก่อนใคร เฉพาะงานนี้ อาทิ
รัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Mr.Ratchata Suttapattanon, Chief Business Officer - Specialty Business The Mall Group Co., Ltd.) กล่าวว่า
ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มส่งสัญญาณการเติบโตที่ดีตั้งแต่ต้นปี ทั้งนโยบาย Easy E-receipt ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี การท่องเที่ยวที่เติบโตมากขึ้น และสภาวะอากาศร้อนที่เป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะกลุ่มเครื่องความเย็น ซึ่งเพาเวอร์ มอลล์ ก็มีตัวเลขโดยรวมเติบโตมากกว่าตลาดปีที่ผ่านมา โดยเครื่องปรับอากาศโตขึ้น 45%, พัดลมโตขึ้น 32% , กลุ่มมือถือโตขึ้น 78% , กลุ่มทีวีไซส์ใหญ่โตขึ้น 20% , กลุ่มเครื่องซักผ้าโตขึ้น 10%
ประกอบกับแบรนด์ผู้ประกอบการต่างส่งไลน์อัพสินค้าใหม่ลงตลาดเต็มทุกเซ็กเมนต์ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่กระตุ้นการจับจ่ายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในปีนียังมี 2 งานใหญ่ กับ 2 มหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างฟุตบอลยูโร 2024 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 14 กรกฏาคม 2567 ตามด้วยกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่จัดตั้งแต่วันที่ 26 กรกฏาคม ถึง 11 สิงหาคม 2567 จึงคาดว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มทีวีและเครื่องเสียงจะคึกคักมากยิ่งขึ้น
พิเศษสุดสำหรับงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส ” (POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE) ในปีนี้ มีการจัดงานในพื้นที่ MCC HALL พบโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 70%, ซื้อ 1 แถม 1 , ซื้อ 1 ได้สูงสุดถึง 4, แจกฟรี คูปองส่วนลดเงินสด 1,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 80,000 บาท, ท้ายใบเสร็จกูร์เมต์ มาร์เก็ต / ตั๋วหนัง / ล็อตตอรี่ รับทันทีส่วนลดเงินสด 500 บาท , กินปุ๊บ รับปั๊บ ฟรีคูปองส่วนลดเงินสด 1,000 บาท เมื่อรับประทานอาหารโซน DINING GARDEN ชั้น 3 และเมื่อช้อปภายในงานครบ 100,000 บาท ต่อวัน รับสิทธิพิเศษจอดรถฟรี และสิทธิ์เข้า Platinum Logue 6 เดือน
และกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากศิลปิน อาทิ เจมีไนน์ นรวิชญ์, บอย ปกรณ์, ยุ่น ภุษณ, วง PERSES, บาร์โค้ด ตฤณสิษฐ์, ตรี ภรภัทร และสุดว้าวกับคุณหนุ่ย พงศ์สุข BT beartai เจ้าพ่อไอทีแนวหน้าของประเทศไทย ที่จะมารีวิวสินค้า Innovation สุดล้ำภายในงาน , กิจกรรมที่ทั้งความสนุกและได้ความรู้ กับ IT Workshop Zone , กิจกรรมแข่งเกมส์ Street Fighter จากแบรนด์ MSI Steelseries , กิจกรรม Cooking Show โดยเชฟบอย ปิยะชาติ พุทธวงษ์ จากร้านอาหารเสน่ห์จันทร์ ที่จะมารังสรรค์เมนูสุดพิเศษ เฉพาะที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 7 กรกฏาคม 2567 และที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ระหว่างวันที่ 19 – 29 กรกฏาคม 2567 รวมพื้นที่การจัดงานทั้งหมดมากกว่า 55,000 ตารางเมตร คาดว่ายอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมา 68% มูลค่า 534 ล้านบาท (34 วัน) ในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับทิศทางของ เพาเวอร์ มอลล์ ในปีนี้ เรายังคงเดินหน้าร่วมมือกับผู้ประกอบการแบรนด์นำสินค้ารุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น, เน้นกลุ่มสินค้าฟังก์ชั่น AI เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ มาพร้อมความหลากหลายของกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบครัน รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีแบบครบทุกมิติ, กระตุ้นกำลังซื้อผ่านโซนไฮไลท์ ที่จัดเป็นหมวดสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความสะดวกในการช้อปปิ้งของลูกค้า โดยเน้นสินค้ากลุ่มระดับกลาง-บน (Mid to High) รองรับความต้องการกลุ่มกำลังซื้อสูงที่ขยายตัว, เร่งขยายฐานลูกค้ารุ่นใหม่ พร้อมสต๊อกสินค้าเพิ่มเติมรับมือดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถปิดยอดขายของ POWER MALL จนถึงสิ้นปี เติบโตกว่า 20 - 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน รัชตะกล่าวปิดท้าย