“หนองรี” พลังเชฟรอนสุขอาสา สืบสานกสิกรรมธรรมชาติ
25 Oct 2024

 

“การใช้ชีวิตอย่างสมดุลอาจไม่ใช่เรื่องง่ายในทุกสถานการณ์ แต่ความ “พอดี” ของเราอาจส่งต่อธรรมชาติที่ยั่งยืนและสร้างความหมายให้โลกใบนี้ และนี่คือหัวใจที่สะท้อนอยู่ในวิถีกสิกรรมธรรมชาติที่สืบสานจิตวิญญาณไปสู่ศูนย์สุขภาพกสิกรรมธรรมชาติหนองรี ผืนแผ่นดินแห่งประวัติศาสตร์ที่เราได้ร่วมเรียนรู้วิถีชีวิตสอดคล้องกับธรรมชาติในวันนี้”

อาจารย์วิภา ภิญโญโชติวงศ์ หรือ “พี่ติ๊นา” กรรมการมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ จังหวัดชลบุรี จุดประกายแก่นแท้ของหลักกสิกรรมธรรมชาติ แก่พนักงาน บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และบริษัท เชฟรอน (ไทย) จํากัด พร้อมทั้งครอบครัว กว่า 100 ชีวิต ที่ได้เดินทางมาทำ กิจกรรมสุขอาสา (Together We Volunteer) “อาสาเรียนรู้ ลงมือทำ” บนผืนดินทอดยาว 10 ไร่ ณ ศูนย์สุขภาพกสิกรรมธรรมชาติหนองรี จังหวัดชลบุรี

โดยในทุกๆ ปี เชฟรอน” ได้จัดกิจกรรม สุขอาสา เพื่อส่งเสริมให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการคืนประโยชน์ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในฤดูปลายฝนต้นหนาวปีนี้ พนักงานต่างได้ร่วมกันลงแรงเพิ่มพื้นที่สีเขียว พร้อมเรียนรู้การสร้างแหล่งอาหารเป็นยาจากสมุนไพร และสานต่อหัวใจหลักของวิถีกสิกรรมธรรมชาติ หรือการจัดการดิน น้ำ ป่า ที่เริ่มจากคำว่า “สมดุล” บนผืนดินหนองรี

 

 

“ที่เรียกว่าเป็นพื้นที่คุณค่าทางประวิติศาสตร์ เพราะผืนดินนี้เป็นมรดกตกทอดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยมูลนิธิฯ ได้รับมอบพื้นที่จากคุณหมอจินตนา โพคะรัตน์ศิริ หนึ่งในเครือข่ายนักเกษตรอินทรีย์ ซึ่งแสดงเจตจำนงในการมุ่งหวังส่งต่อพื้นที่นี้สู่ประโยชน์แก่สาธารณะ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว พื้นที่นี้ยังเป็นดินทราย ดังนั้น ตอนพัฒนาพื้นที่ ทางอาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้ลงมือออกแบบด้วยตนเองผ่านโมเดล “โคก หนอง นา” พร้อมสร้างแหล่งกักเก็บน้ำ และมุ่งให้หนองรีเป็นประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพควบคู่กับธรรมชาติ

ตอนพัฒนาพื้นที่เราใช้หลักกสิกรรมธรรมชาติตั้งแต่ต้นโดยไม่มีการเผาและใช้สารเคมี จากนั้นก็เริ่มปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ทั้งพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ามาใช้ประโยชน์ปลูกผัก สมุนไพรเป็นยาได้ โดยเป้าสูงสุดคือเรามุ่งพัฒนาพื้นที่นี้เพื่อสร้างแหล่งอาหารเป็นยาสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในแพทย์แผนไทย พร้อมทั้งสร้างต้นแบบโมเดลพลังงานทางเลือกที่พึ่งพาตนเองได้ รวมถึงสร้างพื้นที่สีเขียวเพิ่มให้กลายเป็นปอดของชุมชน”

 

 

เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นของการผันตัวมาทำกสิกรรมธรรมชาติ พี่ติ๊นาตอบอย่างภูมิใจว่าตนมาเป็นอาสาตั้งแต่ 18 ปีที่แล้ว เพราะมีความฝันเล็กๆ ที่อยากเห็นธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์ จึงอยากเป็นกลไกที่สนับสนุนวิถี “พอดี” ที่เช่นเดียวกับต้นไม้ที่ต้องการน้ำและปุ๋ยในปริมาณที่พอเหมาะ ชีวิตของเราก็เช่นกัน ที่ต้องคำนึงถึงความสมดุล ทั้งการใช้ทรัพยากร  การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อสุขที่ยั่งยืนของทั้งตัวเราและโลกใบนี้

โดยพี่ติ๊นาได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างเชฟรอนว่า “การที่เชฟรอนได้พาพนักงานมาทำกิจกรรมในวันนี้เรียกว่าตรงเป้าหมายของมูลนิธิฯ ที่ว่า ยิ่งให้ไปยิ่งได้มา” เพราะงานอาสาคือการให้ด้วยใจ คนให้ก็มีความสุข พร้อมทั้งยังนำประโยชน์ส่งต่อผู้อื่นได้”

 

 

พนักงานเชฟรอนและครอบครัวได้ช่วยกันลงแรงอย่างพร้อมเพรียง โดยช่วงเช้าวิทยากรได้แบ่งกลุ่มส่งต่อแนวความรู้หลักกสิกรรมธรรมชาติ เพื่อสร้างความสมดุลของระบบนิเวศที่เลียนแบบธรรมชาติ ทั้งการห่มดินด้วยฟาง พร้อมศึกษาวิธีบำรุงดินให้ดินเลี้ยงพืช ด้วยวิธี “แห้งชาม” ที่นำปุ๋ยจากธรรมชาติมาโรยฟางที่ห่มไว้ และตามด้วยปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่เรียกว่า “น้ำชาม” รวมถึงร่วมกันปลูกไม้ป่า ไม้ผล และสมุนไพร จำนวน 1,000 ต้น เพื่อสร้างแหล่งอาหารเป็นยาในอนาคต

เมื่อเข้าสู่ช่วงบ่าย แม้ฝนจะตกหนัก แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มของพนักงานอาสาและครอบครัวที่กำลังตั้งใจเรียนรู้การทำยาดมและน้ำมันเขียวสมุนไพร รวมถึงทำซีอิ๊วหมักและเมี่ยงคำจากสวนสมุนไพรกินได้อย่างใจจดจ่อ พร้อมจุดประกายการสร้างสุขภาพดีด้วยวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

 

“ทุกครั้งที่บริษัทฯ เปิดให้ร่วมจิตอาสา เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่พวกเราชาวเชฟรอนต่างตั้งตารอคอยกันมากๆ จนบางครั้งต้องปิดลงทะเบียนก่อนกำหนดเสียอีก และจากประสบการณ์ที่ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมสุขอาสาทุกปี ต้องพูดเลยว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่คนไม่เต็ม” รัชพล เธียรชยากร Technical Drafting Coordinator บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวด้วยความภูมิใจเต็มเปี่ยมในฐานะพนักงานคนหนึ่งที่เป็นขาประจำของกิจกรรมสุขอาสา

“ตลอด 9 ปีกว่าที่ทำงานกับเชฟรอน ผมพยายามเข้าร่วมกิจกรรมสุขอาสาทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งครั้งนี้ผมประทับใจเป็นพิเศษเพราะผมเองเป็นคนชลบุรี จึงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มีส่วนช่วยเหลือบ้านเกิดไปในตัว นอกจากจะได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนเชฟรอนจากแผนกอื่นๆ  แล้ว ผมมองว่าเรายังได้เรียนรู้การแปรรูปจากสิ่งที่เราปลูกเองมาเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งช่วยสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านและกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ผมชื่นชอบที่สุดคือการได้เรียนรู้แนวคิดกสิกรรมธรรมชาติ ซึ่งสอนให้เราเข้าใจว่าการปลูกต้นไม้ไม่ใช่แค่เรื่องของการลงดิน แต่จำเป็นต้องดูแลอย่างถูกวิธี อีกทั้งยังได้เรียนรู้วิธีการขุดหลุมไม้แต่ละชนิด รวมถึงการลงปุ๋ย ซึ่งผมเองก็นำกลับไปใช้จริงที่บ้านได้อีกด้วย”

 

 

ด้าน ศักดิ์ชัย แซ่เซีย รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายแผนกลยุทธ์ พัฒนาธุรกิจ และการพาณิชย์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสํารวจและผลิต จํากัด กล่าวถึงกิจกรรมดังกล่าวว่า การสร้างคุณค่าอย่างแท้จริงเกิดขึ้นเมื่อพนักงานได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งในฐานะองค์กรที่สนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด เชฟรอนยังคงเดินหน้าพัฒนาสังคมผ่านโครงการต่างๆ พร้อมเน้นให้พนักงานมีส่วนร่วม

“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มาทำกิจกรรมร่วมกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติอีกครั้ง ซึ่งเราคุ้นเคยและผูกพันกันมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ทํางานร่วมกันใน “โครงการพลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน ในการน้อมนําศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

และยังเป็นกิจกรรมที่เหล่าจิตอาสาเชฟรอนชื่นชอบอย่างมาก ซึ่งความภาคภูมิใจของเชฟรอนคือเราได้เห็นพนักงานพาครอบครัวมาร่วมกิจกรรมกับชุมชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว และยังสามารถนำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองอีกด้วย

 

 

แม้ว่าสิ่งที่พนักงานเชฟรอนและครอบครัวได้ร่วมกันปลูกในวันนี้ อาจยังไม่เห็นผลลัพธ์ในทันที แต่ทุกกล้าไม้ที่ลงมือปลูกจะค่อยๆ ผลิดอกผล กลายเป็นประโยชน์แก่ชุมชนหนองรีในอนาคต ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่จะช่วยส่งต่อแนวคิดตามวิถีที่สมดุลแก่ผู้คนในชุมชนต่อไป

[อ่าน 3,414]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
EGCO Group ปิดดีลซื้อหุ้นเพิ่ม 10% โรงไฟฟ้า Linden Cogen สหรัฐฯ ดันสัดส่วนถือหุ้นแตะ 38%
CMG ยกทัพแบรนด์แฟชั่นระดับโลกปักหมุด Central Park 
ตอกย้ำ Fashion Destination
กลุ่มธุรกิจอาหาร ไทยเบฟ คว้า 2 รางวัลด้านอาหารจากเวที RED TABLE AWARDS 2025
AIS ร่วมมือ ETDA และ กสทช. 
เปิดตัว AIS ID บริการยืนยันตัวตนด้วยเบอร์มือถือ ยกระดับความปลอดภัยสู่มาตรฐานสากล
CHAO คว้าการรับรอง “หุ้นยั่งยืนระดับ A” จาก SET ESG Ratings ปี 2568
เคทีซี ผนึก MAGURO Group ฉลองครบรอบ 10 ปี เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ ด้าน Dining Lifestyle
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved