“ฮุนได” จัดทริปทดลองขับ “เอช-วัน” และ “แกรนด์ สตาร์เร็กซ์” ใหม่
16 Jan 2019

บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด จัดกิจกรรมเชิญสื่อมวลชนทดลองขับรถยนต์ “ฮุนได เอช-วัน” และ “ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์” ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The New Experience” (โฉมใหม่กับประสบการณ์ใหม่...ที่สมบูรณ์แบบ) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

ฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ยังคงเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย จากกระแสตอบรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้ฮุนไดเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยการปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่ครั้งแรกของฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ความโมเดิร์นพรีเมียมและความสะดวกสบายในการใช้งานได้เหมือนเช่นเคย

ฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ไม่ได้เป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย สามารถรองรับไลฟ์สไตล์การเดินทางได้ทุกรูปแบบ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่รถยนต์ทั้งสองรุ่นได้มอบให้ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน ห้องโดยสารกว้างขวาง ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ในทุกๆ วันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งฮุนไดมีความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มการใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ฮุนไดพาสื่อมวลชนเปิดประสบการณ์ใหม่ เยี่ยมชมและเรียนรู้วัฒนธรรมจีนในย่านไชน่าทาวน์ พร้อมกิจกรรมพิเศษที่น้อยคนจะได้สัมผัส โดยสื่อมวลชนเริ่มออกเดินทางจากฮุนไดสำนักงานใหญ่วิภาวดี มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรก “วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร” มีชื่อเดิม “วัดสามจีน” ซึ่งเข้าใจว่าชาวจีน 3 คนร่วมกันสร้างขึ้น ไหว้พระขอพร “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” หรือ “หลวงพ่อทองคำ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ที่มีน้ำหนักกว่า 5 ตัน และเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์วัดไตรมิตร” หรือศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ซึ่งเป็นศูนย์ประวัติศาสตร์ในการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมา ความเจริญรุ่งเรืองที่มีมาอย่างยาวนานของชุมชาวจีนย่านเยาวราช

ต่อด้วยจุดหมายที่สอง วนรอบ “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา” ความภาคภูมิใจของชาวไทยเชื้อสายจีน สัญลักษณ์ของไชน่าทาวน์ ซึ่งออกแบบโดยช่างผู้ชำนาญด้านศิลปกรรมของจีน มีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรม ยอดหลังคาซุ้มประตู ประกอบด้วยมังกร 2 ตัว ชูตราสัญลักษณ์ “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒” และทองคำบริสุทธิ์หนัก 99 บาท ที่หุ้มพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. หมายถึงชาวไทยเชื้อสายจีนที่เทิดทูนองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้เหนือเกล้า

ใต้หลังคาซุ้มประตูเป็นแผ่นจารึกนามซุ้มประตู ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจารึกเป็นภาษาไทยด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จารึกอักษรจีน “เซิ่ง โซ่ว อู๋ เจียง” (圣寿无疆) หมายถึง “ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน” พร้อมนามาภิไธย “สิรินธร”

เข้าสู่ศาลเจ้าแม่กวนอิม (มูลนิธิเทียนฟ้า) อันเป็นที่ประดิษฐานของ “พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์” ปางประทานพร โดยมูลนิธิแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2445 เป็นมูลนิธิแห่งแรกในประเทศไทย โดยการรวมตัวกันของกลุ่มชาวจีน 5 ภาษา เพื่อสงเคราะห์ผู้ป่วยที่ยากไร้ ให้ได้รับการรักษาพยาบาล มีทั้งการรักษาแบบแผนปัจจุบันและแผนจีน

โดยองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้เป็นไม้แกะสลัก ศิลปะแบบราชวงศ์ถัง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยของราชวงศ์ซ่ง เมื่อประมาณ 800 - 900 ปีที่ผ่านมา ได้ถูกอัญเชิญมาจากประเทศจีนเมื่อประมาณ พ.ศ. 2501​ ซึ่งชาวพุทธนิกายมหายาน ได้ให้ความเคารพนับถือต่อพระโพธิสัตว์นอกเหนือจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเชื่อว่าพระโพธิสัตว์คือผู้ที่ตรัสรู้แล้ว เพียงแต่ยังไม่เข้าสู่พุทธภูมิ จนกว่าจะช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเสียก่อน

หลังจากไหว้พระทำบุญแล้ว พักรับประทานอาหารกลางวันกันที่ “ภัตตาคารตั้งใจอยู่” สาขาเยาวราช เป็นร้านอาหารจีนเก่าแก่ ที่ถือเป็นตำนานอาหารจีน อยู่คู่เยาวราชมานานกว่า 80 ปี อิ่มอร่อยกับเมนูเด็ดกันแล้ว เดินทางต่อไปทำกิจกรรม ณ ร้าน “ชะตา คาเฟ่” เป็นร้านกาแฟเรือนกระจกสุดชิคที่ตั้งอยู่ในโรงแรม Bann 2459 Heritage Boutique Hotel บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. 2459 ซึ่งเป็นระยะเวลานานกว่า 100 ปีแล้ว

อาคารหลักเป็นโครงสร้างที่ได้รับอิทธิพลแบบโคโรเนียล สร้างขึ้นช่วงรัชกาลที่ 6 โดยในสมัยนั้น เจ้าของบ้านคือชาวมุสลิมที่อาศัยร่วมกันกับชาวจีนในย่านนี้ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่ผสมผสานและอยู่ด้วยกันอย่างสันติ หลังจากที่ได้มีการตกแต่งของสถานที่นี้ใหม่แต่ยังคงศิลปะผสมผสานกับธรรมชาติรังสรรค์กันได้อย่างลงตัว มีความโมเดิร์นในแบบชิคๆ

ปิดท้ายด้วยการเปิดประสบการณ์ใหม่กับการแต่งหน้าและใส่ชุดในแบบอุปรากรจีน ซึ่งบางคนอาจไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และมอบปฏิทินจีนที่มีภาพถ่ายเดี่ยวเฉพาะของแต่ละบุคคลในแบบอุปรากรจีนเป็นที่ระลึก

ตลอดทริปนี้ สื่อมวลชนได้ขับรถยนต์อเนกประสงค์ทั้ง 2 รุ่น ทุกคนได้สัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ถึงแม้ทริปนี้จะขับขี่ย่านในเมือง ซึ่งมีรถยนต์และผู้คนบนถนนพลุกพล่าน แต่ฮุนได เอช-วัน แล แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ก็สามารถพาไปยังที่หมายได้อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากรถมีความคล่องตัวสูง ขับขี่ง่ายด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.6 เมตร พร้อมระบบ Smart View System ที่แสดงภาพในมุมมองแบบ 360 องศา ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดี่ในการขับขี่ สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน ขับง่ายทั้งในเมืองและนอกเมือง แม้แต่สุภาพสตรีก็สามารถขับขี่ได้อย่างง่ายดาย

ฮุนไดเอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ ระบบระบายอากาศสำหรับที่นั่งผู้ขับขี่ สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ, พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

สำหรับผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่ครบครัน ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงผ่านจอความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wifi ห้องโดยสารตอนหลังติดตั้งจอ LCD แบบคมชัดขนาด 13.3 นิ้ว ติดเพดานแบบพับไฟฟ้า (รุ่นแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ พรีเมียม, เอช-วัน เดอลุกซ์) และติดตั้งเคาน์เตอร์บันเทิงพร้อมจอ LCD ขนาด 22 นิ้ว ปรับขึ้น-ลง ด้วยระบบไฟฟ้า (รุ่น แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ วีไอพี)

ปิดทริปการเดินทางด้วยความอบอุ่น สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ เดินทางไปสู่ทุกจุดหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะที่ดีเยียม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และระบบความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

การเดินทางทริปนี้สื่อให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ฮุนไดในการมอบสิ่งใหม่ๆ ให้เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าจดจำ ฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวเท่านั้น แต่ยังมอบอรรถประโยชน์ที่หลากหลายในการใช้งานในชีวิตประจำวันแบบชิคๆ และอินเทรนด์ได้เป็นอย่างดี

[อ่าน 1,415]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอสซีจี ขนกองทัพนวัตกรรมจาก 10 แบรนด์ชั้นนำ ร่วมงานสถาปนิก 67
“โยเกิร์ต - ณัฐฐชาช์ บุญประชม” อวดแฟชั่นจากแบรนด์ MISTY MYNX คอลเลกชั่นล่าสุด
เอไอเอ ประเทศไทย มอบรางวัลเกียรติยศแก่สุดยอดตัวแทน “ที่สุดแห่งปี” AIA Annual Agency Awards Presentation 2023
Coach เปิดตัว The Coach Tabby Shop ลาน PARC PARAGON
พานาโซนิค บิวตี้ ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ “Panasonic nanocare EH-NA0J” เจาะตลาดไฮเอ็นด์
SCG แถลงผลประกอบการไตรมาสแรก มุ่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด รุกธุรกิจที่เติบโตสูง
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved