บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2025 โดยมีเป้าหมายหลักในการปรับตัวรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยเฉพาะการชะลอตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลก พร้อมประกาศแผนขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาว ที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนายานยนต์พลังงานทางเลือก กลยุทธ์การผลิต และการสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น
ปรับกลยุทธ์ EV-HEV: สู่การเปลี่ยนผ่านอย่างมีเสถียรภาพ
โทชิฮิโระ มิเบะ ประธานกรรมการบริหารฮอนด้า ระบุว่า บริษัทยังเชื่อมั่นในศักยภาพของ EV ในการลดคาร์บอนในระยะยาว แต่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ระยะสั้นเพื่อรองรับการชะลอตัวของตลาดโลก โดยเน้นการเพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์ไฮบริด (HEV) เป็นกลไกหลักของการเปลี่ยนผ่าน พร้อมตั้งเป้ายอดขาย HEV ทั่วโลกแตะ 2.2 ล้านคันภายในปี 2030
แผนพัฒนารถ HEV เจเนอเรชันใหม่จะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่ปี 2027 ครอบคลุม 13 รุ่นทั่วโลก โดยพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่, ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 4 ล้อ และลดต้นทุนการผลิตลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับระบบเดิม
เทคโนโลยี ADAS เจเนอเรชันใหม่: ขับขี่อัจฉริยะในทุกสภาพถนน
ฮอนด้าอยู่ระหว่างพัฒนาระบบ ADAS ที่สามารถช่วยเร่ง บังคับเลี้ยว และนำทางได้อัตโนมัติ โดยเตรียมติดตั้งในรถรุ่นหลักทั้ง EV และ HEV ตั้งแต่ปี 2027 โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือ และสำหรับตลาดจีนจะพัฒนาร่วมกับ Momenta บริษัทสตาร์ทอัพจีน เพื่อตอบโจทย์ถนนในท้องถิ่น
เปิดไลน์อัป Honda 0 Series ส่งรถ SDV รุ่นแรกปีหน้า
ฮอนด้าเตรียมเปิดตัว Honda 0 Series รุ่นแรกในปี 2026 โดยเน้นการเป็นรถยนต์ Software-Defined Vehicle (SDV) ที่ปรับแต่งฟังก์ชันได้ตามผู้ใช้งาน ผ่านระบบ ASIMO OS และ AD/ADAS แบบใหม่ สถาปัตยกรรมยานยนต์จะใช้ระบบ E&E แบบ Centralized ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่อนาคต EV เต็มรูปแบบ
การผลิตแบบยืดหยุ่น สร้างห่วงโซ่อุปทานให้ใกล้ลูกค้า
เพื่อรองรับความต้องการ EV และ HEV ในอนาคต ฮอนด้าเตรียมจัดตั้งสายการผลิตที่สามารถผลิตได้ทั้งสองระบบ พร้อมปรับใช้แนวคิด “ผลิตในท้องถิ่นเพื่อบริโภคในท้องถิ่น” เพื่อเสริมความยืดหยุ่นด้านซัพพลายเชน
ธุรกิจมอเตอร์ไซค์ โตสวนกระแส เตรียมขึ้นแท่นผู้นำ EV
ปีงบประมาณที่ผ่านมา ฮอนด้ามียอดขายรถจักรยานยนต์รวม 20.57 ล้านคัน ครองสัดส่วน 40% ของตลาดโลก และสร้างสถิติยอดขายสูงสุดใน 37 ประเทศ ฮอนด้าวางแผนรุกตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยเปิดตัวรุ่น Active e:, QC1, ICON e: และ CUV e: ในหลายประเทศ รวมถึงไทยภายในปีนี้ และเตรียมสร้างโรงงาน EV โดยเฉพาะในอินเดีย เริ่มผลิตในปี 2028
เป้าหมายระยะยาวคือการครองส่วนแบ่งตลาดมอเตอร์ไซค์ทั่วโลก 50% และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (ROS) เกิน 15% ภายในปี 2031
ทบทวนแผนลงทุน EV พร้อมยกระดับผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
ฮอนด้าปรับลดวงเงินลงทุนในกลยุทธ์ EV จาก 10 ล้านล้านเยน เหลือ 7 ล้านล้านเยน ภายในปี 2031 จากการเลื่อนแผนสร้าง value chain ในแคนาดา พร้อมตั้งเป้าสร้างกระแสเงินสดรวมกว่า 12 ล้านล้านเยนใน 5 ปีข้างหน้า
ในด้านผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ฮอนด้าจะใช้หลักการ Dividend on Equity (DOE) เพื่อสื่อถึงความตั้งใจในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ
ฮอนด้ากับอนาคตที่ยั่งยืน
การปรับกลยุทธ์ในปี 2025 สะท้อนถึงความสามารถของฮอนด้าในการตอบรับความเปลี่ยนแปลงของโลกยานยนต์ ทั้งด้านเทคโนโลยี พลังงาน และโครงสร้างตลาด โดยยังคงยึดมั่นในแนวคิด “Joy of Driving” ที่สอดประสานระหว่างสมรรถนะและความยั่งยืน พร้อมวางรากฐานสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในยุคยานยนต์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด