ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลกสู่ความยั่งยืน อุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยได้ก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผนึกความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ดึงนวัตกรรมทางการเงิน “Blue Finance” ร่วมขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างรับผิดชอบ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพประเทศไทยในฐานะผู้นำอาหารทะเลระดับโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชน
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ADB ได้จัดสรรวงเงินกู้เพื่อความยั่งยืนทางทะเล (Blue Loan) มูลค่ารวม 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 5,000 ล้านบาท ให้แก่ไทยยูเนี่ยน ซึ่งนับเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศไทยที่ได้รับการสนับสนุนในลักษณะนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างระบบห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใส เป็นธรรม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การสนับสนุนทางการเงินจาก ADB ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการเสริมสภาพคล่องหรือขยายการลงทุนตามรูปแบบเดิม แต่เป็นการนำ “Blue Finance Solutions” มายกระดับแนวคิดใหม่ของการดำเนินธุรกิจ โดยให้องค์กรภาคเอกชนมีบทบาทเชิงรุกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการฟื้นฟูทะเลไทย ผ่านการลงทุนที่มีความรับผิดชอบในทุกมิติ
นายลูโดวิค การ์นิเย่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการเงินของไทยยูเนี่ยน กล่าวถึงความร่วมมือครั้งสำคัญว่า “นี่คือบทพิสูจน์ว่าไทยยูเนี่ยนไม่ได้มุ่งเพียงการเติบโตทางธุรกิจ แต่ให้ความสำคัญกับการจัดหา การเพาะเลี้ยง และการผลิตอาหารทะเลอย่างยั่งยืนในทุกกระบวนการ เพื่อให้ความเจริญเติบโตขององค์กรไปพร้อมกับชุมชนชายฝั่ง และระบบนิเวศทางทะเล”
ไทยยูเนี่ยนจะนำเงินทุนจาก Blue Loan ไปใช้ในการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงกุ้งที่ผ่านมาตรฐานระดับโลก เช่น ASC (Aquaculture Stewardship Council), BAP (Best Aquaculture Practices) และโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีความน่าเชื่อถือ (AIPs) ซึ่งทั้งหมดเป็นกลไกที่ช่วยเพิ่มความโปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ และลดการใช้ทรัพยากรที่เกินจำเป็น พร้อมยึดหลักความเป็นธรรมด้านแรงงาน
นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าวว่า “กลยุทธ์ SeaChange® 2030 คือเข็มทิศที่เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในแง่สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยการสนับสนุนจาก ADB คือการเสริมพลังให้ไทยยูเนี่ยนก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำระดับโลกด้านอาหารทะเลอย่างแท้จริง”
ภายในงานเปิดตัวความร่วมมือ ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก อาทิ ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC), ธนาคารเอ็มยูเอฟจี (MUFG), ธนาคารแห่งประเทศจีน, ธนาคาร UOB, SMBC และ OCBC ซึ่งถือเป็นการรวมพลังของภาคการผลิตและภาคการเงินในการสร้างระบบเศรษฐกิจทางทะเล (Blue Economy) ที่เติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่ นายอานุช เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทน ADB กล่าวสรุปว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า การเงินเชิงสิ่งแวดล้อม (Blue Finance) ไม่ใช่แนวคิดในอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นกลไกสำคัญของปัจจุบันที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลไทยปรับตัวรับมือกับสภาพภูมิอากาศ พร้อมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว”
การขับเคลื่อน Blue Economy ของไทยยูเนี่ยนสะท้อนถึงบทบาทขององค์กรเอกชนที่พร้อมเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” ไม่เพียงในประเทศไทย แต่ในระดับภูมิภาค ผ่านการลงทุนที่มีเป้าหมายระยะยาว สนับสนุนชุมชนชายฝั่ง ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวางรากฐานให้ธุรกิจอาหารทะเลเติบโตอย่างมั่นคงบนหลักแห่งความยั่งยืน