“การกลับมาทำงานที่ทีเส็บครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการกลับมาที่เดิม แต่เพราะยังมี passion และภารกิจที่ยิ่งใหญ่รออยู่”
ดร. ศุภวรรณ กล่าวพร้อมเล่าย้อนถึงประสบการณ์หนึ่งปีเศษที่สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้เข้าใจ “Real Sector” หรือภาคธุรกิจที่แท้จริง และเห็นชัดว่า อุตสาหกรรมไมซ์ไม่ใช่เพียงเรื่องการจัดงาน แต่คืออุตสาหกรรมที่สร้างคุณค่า สร้างโอกาส และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย
“Change That Matters จึงไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือการสร้างผลกระทบที่แท้จริงต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจไทย” ดร. ศุภวรรณ กล่าวย้ำ
ทีเส็บตั้งเป้าขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น “Global-Asia’s Trusted Gateway” หรือประตูสู่เอเชียที่ทั่วโลกไว้วางใจ ผ่านการสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจสูง (High-Impact) และมอบประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า ยั่งยืน (Transformative, Sustainable Experiences) โดยไมซ์จะไม่หยุดเพียงรายได้จากการท่องเที่ยว แต่ยังเป็น “เครื่องมือเศรษฐกิจ” ที่เชื่อมโยงการลงทุน การพัฒนาวิชาชีพ และการสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ
เพื่อบรรลุเป้าหมาย ทีเส็บเดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่
Global Reach: สร้างแบรนด์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทาง จัดการประมูลงานไมซ์นานาชาติอย่างชาญฉลาด (Smart Bidding) ขยายตลาดต่างประเทศ และจับมือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ดึงงานที่มีอิมแพ็กสูงเข้ามา
Local Strength: พัฒนา MICE City Clusters ครอบคลุม 10 เมืองหลักและเมืองรอง เพิ่มมูลค่าผ่านกิจกรรมเรือธง (Flagship Events) เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ
Organisation Transformation: ปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven) พร้อมสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรและแรงจูงใจในองค์กร
Capabilities Excellence: ยกระดับทีเส็บเป็นผู้กำหนดนโยบาย (Policy Shaper) สร้างมาตรฐานใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากรไมซ์ระดับอาเซียน และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน
ดร. ศุภวรรณ ย้ำว่า ทีเส็บจะมุ่งสร้าง “ระบบนิเวศไมซ์ไทย” ให้เข้มแข็ง เพิ่มจำนวนผู้ประกอบการ และผลักดันการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ เพื่อให้ไทยสามารถรับมือกับโจทย์ท้าทายระดับโลก และก้าวขึ้นเป็น ผู้นำไมซ์ระดับสากล อย่างแท้จริง