ในยุคที่ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่คือพันธกิจสำคัญของภาคธุรกิจทั่วโลก ปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics) กลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งหาทางออกอย่างเป็นระบบ
ประเทศไทยในปี 2566 มีขยะพลาสติกมากกว่า 3 ล้านตัน แต่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพียง 25% ตามรายงานของกรมควบคุมมลพิษ นั่นหมายถึงโอกาสอีกมหาศาลในการสร้าง “ระบบหมุนเวียนวัสดุ” ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
และหนึ่งในองค์กรที่เห็นความสำคัญของปัญหานี้ตั้งแต่ต้น คือ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ซันโทรี่และเป๊ปซี่โค ซึ่งได้พัฒนาแนวทางจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนภายใต้หลักการ Extended Producer Responsibility (EPR) หรือ “การขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต” ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การใช้ ไปจนถึงการจัดการหลังบริโภค
“Growing for Good” – การเติบโตที่ดีต่อผู้บริโภค สังคม และโลก
ตลอดการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ยึดมั่นในค่านิยมองค์กร “Growing for Good – การเติบโตอย่างยั่งยืน” ที่สะท้อนถึงแนวคิดในการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
แนวทางดังกล่าวถูกถ่ายทอดสู่กลยุทธ์บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) ที่ดำเนินงานใน 3 มิติหลัก ได้แก่
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ไม่เพียงมองเรื่องบรรจุภัณฑ์เป็นต้นทุนทางสิ่งแวดล้อม แต่คือ “โอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” ให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง
ต้นน้ำ: บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้ 100% และนวัตกรรมลดการใช้พลาสติกใหม่
บริษัทฯ ถือเป็นผู้บุกเบิกในตลาดเครื่องดื่มไทยที่เริ่มใช้ ขวดพลาสติกรีไซเคิล 100% (rPET 100%) กับผลิตภัณฑ์แบรนด์ เป๊ปซี่ และ ทีพลัส ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศไทย
พร้อมกันนี้ยังพัฒนา “ขวดน้ำหนักเบา (Lightweight Bottles)” ลดการใช้พลาสติกใหม่ได้กว่า 30% โดยไม่ลดคุณภาพหรือความแข็งแรงของขวด และได้พัฒนานวัตกรรม “ฝาขวดน้ำอัดลมน้ำหนักเบา (Lightweight Caps)” ที่ลดการใช้พลาสติกได้ถึง 16% อีกทั้งยกเลิกการพิมพ์โลโก้สีบนฝาขวด เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่ายและสะอาดยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ บริษัทยังร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศในการพัฒนา กระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกเกรดอาหารจากขวดใช้แล้ว ซึ่งสามารถรีไซเคิลขวด PET ได้มากถึง 40,000 ตันต่อปี นับเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างอุตสาหกรรมรีไซเคิลภายในประเทศที่เข้มแข็งและยั่งยืน
กลางน้ำ: ปลูกจิตสำนึกการแยกขยะ สร้างวัฒนธรรมการรีไซเคิล
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เชื่อว่า “ความร่วมมือจากผู้บริโภค” คือหัวใจของระบบบรรจุภัณฑ์หมุนเวียน บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารสร้างความเข้าใจในหลักการ 3R (Reduce–Reuse–Recycle) และการเห็น “คุณค่าของขยะ” ผ่านการรณรงค์ให้ความรู้ในโรงเรียน ชุมชน รวมถึงการให้ข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์
กิจกรรมเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถคัดแยกขยะได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์ PET และ rPET สามารถเข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้มากขึ้นและมีคุณภาพสูงขึ้นในระยะยาว
ปลายน้ำ: EPR ในการลงมือทำจริง จากเครือข่ายสู่ชุมชน
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ได้นำหลักการ EPR มาขับเคลื่อนเชิงปฏิบัติผ่าน 3 รูปแบบสำคัญ ได้แก่
1. การดำเนินงานตามประเภทบรรจุภัณฑ์ (Packaging-Based Sustainability)
บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง เครือข่ายองค์กรความร่วมมือจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน (PRO-Thailand Network) ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อผลักดันให้เกิดระบบเก็บกลับและรีไซเคิลอย่างครบวงจร
ผลจากความร่วมมือในช่วงปี 2563–2567 สามารถเก็บกลับขวด PET ใช้แล้วรวมกว่า 56,734 ตัน กล่องเครื่องดื่ม UHT 1,077 ตัน และซองบรรจุภัณฑ์หลายชั้น (MLP) 1,337 ตัน ซึ่งสะท้อนถึงพลังความร่วมมือของภาคเอกชนที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง
2. การดำเนินงานเชิงพื้นที่ (Area-Based Sustainability)
โครงการต้นแบบ “ข.ขวด หมุนเวียนเป็นขวดใหม่” ในจังหวัดระยอง เป็นหนึ่งในโมเดลที่ประสบความสำเร็จ โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน หน่วยงานรัฐ และชุมชน
ในพื้นที่นี้มีการติดตั้ง ถังแยกขวด PET รวมกว่า 220 จุด, จัดตั้ง “สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล” ที่บริหารโดยอาสาสมัครชุมชน รวมถึงกิจกรรมให้ความรู้ในโรงเรียน เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง สร้างรายได้เสริม และช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ
3. การดำเนินงานเชิงกิจกรรม (Event-Based Sustainability)
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ยังนำแนวคิดการจัดการขยะเข้าสู่ “เวทีขนาดใหญ่” ผ่านแคมเปญ “Waste Nothing – มันส์ แล้ว ทิ้ง” ที่เริ่มจากงาน Big Mountain Music Festival และขยายสู่ S2O Songkran Music Festival
เพียงงาน Big Mountain ปีล่าสุด สามารถคัดแยกขยะได้รวมกว่า 11,150 กิโลกรัม ซึ่งเป็นขวด PET ใช้แล้วกว่า 1,485 กิโลกรัม ที่ถูกนำกลับเข้าสู่กระบวนการ Bottle-to-Bottle Recycling ได้จริง นอกจากนี้ บริษัทยังสนับสนุนถังแยกขวดพลาสติก PET ให้กับ กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในงานกาชาดติดต่อกัน 3 ปี รวมกว่า 125 ถัง
จากโมเดลต้นแบบสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนระดับประเทศ
การดำเนินงานทั้งหมดของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ไม่ได้หยุดอยู่ที่การลดขยะหรือเพิ่มอัตรารีไซเคิล แต่คือการ “สร้างระบบ” ที่ทำให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน
เป้าหมายระยะยาวของบริษัทฯ คือการขยายผลโครงการด้าน EPR และการจัดการบรรจุภัณฑ์หมุนเวียนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมยกระดับความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนเต็มรูปแบบ
Suntory PepsiCo Thailand: Leading the Change for Circular Future
แนวทางการขับเคลื่อนตามหลัก Extended Producer Responsibility (EPR) ของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย จึงไม่เพียงเป็นการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศไทย” อย่างแท้จริง
ทุกขวดที่หมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบ ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของ “วงจรแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน” ที่จะส่งต่อคุณค่าให้กับผู้คน ชุมชน และโลกใบนี้ต่อไป