
สำหรับมนุษย์เงินเดือนและพนักงานบริษัท การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ถูกกฎหมายและมีเงื่อนไขที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน ได้สะดวกขึ้นแล้ว ยังไม่ต้องเสี่ยงเจอกับดอกเบี้ยที่แพงหูฉี่
แต่ทั้งนี้ การทำความเข้าใจประเภทของสินเชื่อที่มีให้บริการในปัจจุบัน จะช่วยให้คนที่สนใจสามารถขอสินเชื่อ พร้อมกับเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน (Clean Loan)
ลักษณะเด่น: เป็นสินเชื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มพนักงานบริษัท เพราะไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลมาค้ำประกัน ธนาคารจะพิจารณาอนุมัติวงเงินจากรายได้ประจำและประวัติเครดิตของผู้กู้เป็นหลัก
รายละเอียดที่ควรรู้
- วงเงิน: มักอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน หรือสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน)
- อัตราดอกเบี้ย: เป็นแบบคงที่หรือลดต้นลดดอก โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อที่มีหลักประกัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับกรณีต้องการเงินก้อนฉุกเฉิน หรือต้องการรวบหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง (Debt Consolidation) ให้มาผ่อนชำระเป็นก้อนเดียวในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
2. บัตรกดเงินสด (Cash Card)
ลักษณะเด่น: เป็นสินเชื่อในรูปแบบของวงเงินหมุนเวียน (Revolving Loan) ที่พร้อมให้เบิกถอนเงินสดได้ตลอดเวลาผ่านตู้ ATM หรือแอปพลิเคชัน โดยดอกเบี้ยจะถูกคิดคำนวณเฉพาะยอดเงินที่กดใช้จริงเท่านั้น
รายละเอียดที่ควรรู้
- ความยืดหยุ่น: สูงมาก สามารถกดเงินสดมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ และเมื่อชำระคืน วงเงินก็จะกลับมาคงเดิม และสามารถกดไปใช้ใหม่ได้
- อัตราดอกเบี้ย: สูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสำรองเงินสดไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือต้องการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น ควรระมัดระวังในการใช้งาน เนื่องจากดอกเบี้ยจะเดินทุกวันนับตั้งแต่มีการเบิกถอน
3. สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน (MOU Loan)
ลักษณะเด่น: เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่ธนาคารทำข้อตกลง (MOU) ร่วมกับบริษัทหรือหน่วยงานต้นสังกัดของผู้กู้ ทำให้พนักงานของบริษัทนั้นๆ ได้รับเงื่อนไขพิเศษ
รายละเอียดที่ควรรู้
- อัตราดอกเบี้ย: มักได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไปอย่างชัดเจน (อาจเริ่มต้นที่ 7%−10% ต่อปี) และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
- การหักชำระ: มักมีการหักชำระค่างวดผ่านบัญชีเงินเดือนโดยตรง ทำให้การชำระหนี้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
- ความเหมาะสม: เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพนักงานที่มีบริษัทต้นสังกัดทำ MOU ไว้กับธนาคาร เพราะได้รับทั้งดอกเบี้ยต่ำและวงเงินที่เหมาะสม
4. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Home Loan / Mortgage)
ลักษณะเด่น: เป็นสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (บ้าน/คอนโด) มีวงเงินสูง และมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน (สูงสุด 30 ปี) เพื่อใช้ในการซื้อ สร้าง หรือรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย
รายละเอียดที่ควรรู้
- อัตราดอกเบี้ย: ต่ำที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้งหมด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ (มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน) อัตราดอกเบี้ยจะเริ่มต้นด้วยอัตราคงที่ในช่วง 3 ปีแรก หลังจากนั้นจะเป็นอัตราลอยตัว
- เงื่อนไข: ต้องมีหลักทรัพย์ประเมินราคา และผู้กู้ต้องมีรายได้ที่สม่ำเสมอและมั่นคงเพื่อแสดงความสามารถในการผ่อนชำระในระยะยาว
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับมนุษย์ทำงานที่ต้องการสร้างความมั่นคงในชีวิต หรือต้องการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดภาระดอกเบี้ย
5. สินเชื่อรถยนต์/มอเตอร์ไซค์ (Auto Loan)
ลักษณะเด่น: เป็นสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์เพื่อซื้อยานพาหนะ หรือเป็นการใช้รถที่มีอยู่แล้วมาเป็นหลักประกันในการขอเงินกู้ (สินเชื่อรถแลกเงิน หรือจำนำทะเบียน)
รายละเอียดที่ควรรู้
- เช่าซื้อรถใหม่: ดอกเบี้ยจะเป็นแบบคงที่ (Flat Rate) มีวงเงินสูงครอบคลุมราคารถ และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน
- รถแลกเงิน: ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการเงินสด แต่มีรถปลอดภาระเป็นของตนเอง โดยยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ ดอกเบี้ยจะต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในยานพาหนะเพื่อใช้ในการทำงาน หรือต้องการเงินก้อนโดยใช้รถที่มีอยู่เป็นหลักประกัน
แต่ก่อนที่จะสมัครสินเชื่อประเภทใดก็ตาม มนุษย์เงินเดือนควรประเมินความจำเป็นและความสามารถในการชำระคืนอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังควรเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดและมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นต่อสถานะทางการเงินของตนเอง ที่สำคัญการตรวจสอบประวัติเครดิตของตนเองก่อนการยื่นขอสินเชื่อก็เป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้ทราบถึงโอกาสในการอนุมัติและเงื่อนไขดอกเบี้ยที่อาจได้รับ โดยยึดหลักกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหวเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ในระยะยาว
[อ่าน 103]