Clubhouse ทำไมต้องมี ใช้อย่างไร มีประโยชน์อะไร อ่านคำตอบ 3 ข้อนี้ แล้วไปทดลองเล่นกันได้เลยครับ ทำไมผมจั่วหัวไว้แบบนี้ ก็เพราะมันแค่นี้จริงๆ การใช้งานแอพพลิเคชั่นสุดฮิตช่วงต้นปี 2021 อย่าช้า อย่าลีลา สั้นๆ กระชับ แล้วลุยเลย มาผมพาไปเริ่มกันเลยครับ >>>
Clubhouse คือแอพพลิเคชั่นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ที่ใช้การสื่อสารผ่าน 'เสียง' เป็นรูปแบบหลัก เป็นการใช้งานแบบกลุ่มหรือแบบชุมชนคล้ายการจัดรายการวิทยุ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้คนได้รู้จักกันมากขึ้น ได้รับความรู้ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
ผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง โรฮาน เซธ (Rohan Seth) และพอล เดวิสัน (Paul Davison) ต้องการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ (Felt more human) เพราะการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเดิมๆ ใช้การโพสต์รูปภาพหรือการพิมพ์ข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริง แต่เสียงสามารถบ่งบอกความรู้สึกได้ในนั้น
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเล่าเรื่องหรือเผยแพร่เรื่องที่ตัวเองสนใจหรือมีความรู้ให้แก่กลุ่มคนที่รู้จักหรือกลุ่มคนสาธารณะได้ เปิดประเด็นเพื่อให้สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้ผ่านการ 'ยกมือ' จากนั้นก็จะได้รับสิทธิในการพูดในห้องนั้นๆ (ลักษณะคล้ายนั่งเรียนแล้วยกมือขออนุญาตคุณครูนั่นแหละ)
ใน Clubhouse จะมีห้องต่างๆ หรือสถานีวิทยุคลื่นต่างๆ ให้คุณเลือกฟังตามความสนใจ ผู้ใช้สามารเข้าฟัง (Join) หรือออก (Leave quietly) จากห้องต่างๆ ได้ตามต้องการ ถ้าพิจารณาจากลักษณะการเป็น Startup นับได้ว่า Clubhouse สามารถแก้ Pain point ของผู้ใช้ที่บางครั้งไม่สามารถสื่อสารอารมณ์ผ่านตัวหนังสือได้ ในขณะที่ผู้ใช้บางกลุ่มก็อยากสื่อสารโดยไม่เปิดเผยหน้าตา (ผมก็เคยใส่ชุดนอนZoomสอนหนังสือนะครับ อิอิ) อ่อ...ขณะนี้ในแต่ละห้องสามารถมีผู้ฟังได้ประมาณ 5-6พันคนนะครับ แต่บางทีก็เห็นอนุโลมมากกว่านั้นนิดหน่อย
สรุปก็คือ Clubhouse เป็นพื้นที่ให้ผู้ใช้สามารถสื่อสาร พูดคุยกับคนอื่นๆ ด้วยเสียงล้วนๆ ผ่านห้องที่สร้างขึ้น เรียกว่าผู้คุมห้อง (Moderator) ซึ่งสามารถเชิญคนเข้ามาร่วมพูดคุยได้โดยเชิญเข้ามาเป็น Speaker (หรือ Panelist) และผู้ฟังที่อยู่ในห้อง (Listener) ก็สามารถแสดงความคิดเห็นด้วยการพูดโดยต้องยกมือขออนุญาต Moderator ก่อนนั่นเอง
ทำไมถึงได้รับความนิยม
สาเหตุที่ Clubhouse ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ก็เพราะสามารถแก้ Pain point ของผู้ใช้ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถตอบโจทย์ในการเป็นสื่อของผู้บริโภคได้ เรียกว่าเป็นแอพฯที่ทำให้เกิด CGM (Consumer Generated Media) ได้อย่างแท้จริง ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของสถานีวิทยุ สร้างคลื่นวิทยุของตัวเองได้ และสามารถเป็นดีเจ ผู้ดำเนินรายการ ผู้ประกาศได้ตามที่ตัวเองต้องการ บริษัท Neilsen Buzzmetrics ผู้ให้บริการในด้านการทำวิจัยเคยประมาณไว้ว่า CGM โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในแต่ละปีมีอยู่กว่า 25 ล้านความคิดเห็น
นอกจากนี้ Clubhouse ยังเป็น UGC (User Generated Content) หรือผู้ใช้สามารถผลิตเนื้อหาได้เอง สังเกตได้ว่าในขณะนี้มีผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ จำนวนมากที่ผลิตเนื้อหาในด้านต่างๆ ขึ้นมาเอง และน่าสนใจไม่แพ้สื่อใหญ่ๆ เลย แต่ที่ทำให้มันเจ๋งมากๆ คือ มันไม่ได้เข้าง่ายๆ ครับ การจะเข้าสมัครใช้งานต้องได้รับการ 'เชิญ' เท่านั้น
Clubhouse ใช้อย่างไร
การเข้าร่วม Clubhouse ด้วยวิธีการเชิญ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงคุณค่า รู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ โดยการเข้าร่วมช่วงแรกนี้มาจาก 2 วิธี ได้แก่การเชิญผ่านไอโฟน (iPhone) หรือไอแพด (iPad) ส่วนแอนดรอยด์ยังต้องรอไปก่อน (เพราะเค้าไม่อยากให้ผู้เข้าร่วมเยอะเกินไปในช่วงแรก ก็คนใช้แอนดรอยด์เค้าเยอะกว่า ios นี่เนอะ)
การเข้าร่วม Clubhouse มีวิธีการดังนี้
ภาพจาก https://neilpatel.com/
Clubhouse มีประโยชน์อย่างไร แบรนด์นำมาใช้อะไรได้บ้าง
แน่นอนว่าใน Clubhouse มีองค์ความรู้มากมาย และองค์ความไม่รู้ก็มากเช่นกัน หากแบรนด์จับกระแสได้ และใช้ให้เป็นประโยชน์ย่อมเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจมากๆ จะเห็นได้ว่าหลายแบรนด์เริ่มนำมาใช้กันแล้ว เช่น บาร์บีคิวพลาซ่า เคเอฟซี แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้ามาแล้วขายของอย่างเดียว คนฟังคงจะเบื่อและรีบออกจากห้องทันที
ดังนั้นแบรนด์จึงควรคิดกลยุทธ์ในการสร้าง Content บน Clubhouse เช่น วิธีการทำอาหารปิ้งย่างให้อร่อย แล้วชวนผู้ฟังมาพูดคุยถึงเมนูอาหารปิ้งย่างที่ชื่นชอบ ทางด้านสถาบันการศึกษาก็เห็นทั้งจุฬา และธรรมศาสตร์ทันกระแสกันทั้งคู่ ผมเองได้รับเชิญจากภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ไปร่วมเป็น Speaker ใน EP1 ศิษย์เราเล่าการตลาด สนุกมากทีเดียวครับ
ทางด้านของสื่อสารมวลชนตอนนี้เริ่มเห็นสื่อหัวทันสมัยต่างๆ นำ Clubhouse มาใช้เติมเต็มสื่อเดิมๆ ให้หลากหลายมากขึ้น เช่น แบไต๋ไฮเทค ที่มีฐาน Follower จำนวนมากใน Facebook เมื่อจัดรายการข่าวช่วงเช้าก็ Live ผ่านทาง Clubhouse เพิ่มอีกช่องทางหนึ่งทำให้มีคนฟังกว่าสองพันคน ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ ถ้าไม่อยากตกกระแสก็ทดลองนำ Clubhouse มาใช้งานกันได้เลย ส่วนจะมีเทคนิคการนำเสนออย่างไรนั้น ถ้าไม่ลองเองก็คงไม่รู้จริงไหมครับ
ผมมีเทคนิคการจัดรายการ Clubhouse มาฝากครับ เพราะเคยจัดรายการโทรทัศน์ เป็นแขกรับเชิญ และอบรมการเป็นผู้ประกาศมาบ้าง
เริ่มจากการตั้งหัวข้อ (Topic) ต้องน่าสนใจ และทำการโปรโมทให้คนเข้ามาฟัง เพราะจัดรายการแล้วคนไม่ฟัง คงไม่มีประโยชน์ Clubhouse มันบันทึกไม่ได้เสียด้วย ต่อมา คือการเป็นผู้คุมห้องต้องใช้เทคนิคพอสมควร พูดให้ชัดเจน ใช้ภาษาให้ถูกต้อง ออกเสียงอักขระให้ชัด น้ำเสียงสดใสน่าสนใจรวมถึงมีเทคนิคการพูดการจัดรายการ เมื่อเวลาเริ่มเปิดห้อง ควรเปิดก่อนเวลาเล็กน้อยเพื่อทดสอบระบบ ทดสอบเสียง และเป็นการสร้างฐานผู้ฟัง เมื่อมีผู้ฟังเข้ามา แอพฯ จะแจ้งเตือนไปยังผู้ติดตามอื่นๆ ให้เราด้วย
จากนั้นเมื่อเริ่มจัดรายการต้อง 'อย่าเยิ่นเย้อ' อันนี้สำคัญมาก เพราะผู้ฟังเข้า-ออกห้องได้ตามสะดวก ถ้ามัวแต่เกริ่นยืดยาว อารัมภบทมากมาย ผู้ฟังก็อาจหนีออกไปก่อนได้ ดังนั้นสั้นๆ กระชับ นำเข้าสู่การสนทนาจะดีกว่ามาก และเมื่อจัดรายการอยู่ ควรเปิดโอกาสให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมด้วยการยกมือ ถามคำถาม แสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นการสร้าง Engagement ที่ดีกับกลุ่มผู้ฟัง
สิ่งสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ ความเป็นส่วนตัว (Privacy) อันที่จริงแล้ว Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook เคยบอกไว้ว่า The rise of social networking online means that people no longer have an expectation of privacy. แม้ Clubhouse จะไม่อนุญาตให้บันทึกเสียงการจัดรายการ แต่ผู้ใช้ก็ยังสามารถอัดเสียงเองได้อยู่ดี แม้ห้องสนทนาจะพูดคุยกันแล้วปิดห้องไป แต่ก็รู้อยู่ดีว่าใครเข้ามาคุยบ้าง รวมถึงแม้คุณจะใช้ชื่อสมมติ แต่ชื่อคนที่ Invite หรือ Approve คุณเข้ามาก็จะติดตามตัวคุณไปตลอด ดังนั้นต้องระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของข้อมูลด้วยนะครับ อย่าทำอะไรที่ผิดหรือเสี่ยงต่อกฎหมายเชียว
ในโลกการแข่งขันอันรวดเร็ว และต้องเอาตัวรอดในขณะนี้ เมื่อมีเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาให้ลองใช้ ก็ควรศึกษาและทดลอง อย่าประเมินต่ำเกินไปอาจพลาดโอกาสหรือตกขบวนได้ อ่านแล้วอยากทดลองเล่นแล้วใช่ไหมล่ะ ลองกดติดตาม @ajgogo ดูสิครับ แล้วพบกันใน Clubhouse นะครับ
บทความคอลัมน์ Business In Action เขียนโดย อาจารย์ วีรพล สวรรค์พิทักษ์
MarketPlus Magazine Issue 132