นันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED)
วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) ธุรกิจ MedicalTech ที่มุ่งทำตลาดผลิตภัณฑ์ และบริการทางแพทย์ระดับไฮเทคและเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย ตั้งเป้ามองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น New S-Curve ต่อยอดการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง และมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย
Personal Passion
การก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 และเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์และบริการทางแพทย์ระดับไฮเทคของประเทศไทยของ 'วินเนอร์ยี่ เมดิคอล' นั้นเริ่มต้นเมื่อ 27 ปีก่อนจาก Personal Passion ของ นันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) หลังจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาทางด้านฟิสิกส์แล้วต้องการทำธุรกิจตามความฝันของตนเองและต้องการออกจากร่มเงาของธุรกิจครอบครัว
ธุรกิจทางการแพทย์ คือ สิ่งที่เขาพบว่าคือ TOP 10 ของธุรกิจมีอนาคตในประเทศไทย
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ WINMED ที่มีผู้นำองค์กรอย่าง นันทิยะ ที่มุ่งแสวงหาผลิตภัณฑ์และบริการทางแพทย์ระดับไฮเทค ซึ่งแน่นอนว่า เป็นตลาดที่คู่แข่งน้อยราย แต่ขณะเดียวกัน ผู้ที่คิดจะอยู่ในตลาดนี้ย่อมต้องคอยหาคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจที่ 'ใช่' และมีความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการแสวงเทคโนโลยีที่ล้ำและมีความน่าเชื่อถือเข้ามาเติมพอร์ตโฟลิโอของตนเองด้วยเช่นกัน ปัจจัยเหล่านี้จึงจะเอื้อให้ WINMED แกร่งและมีศักยภาพที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะอยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงของไทย และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้
Portfolio
นันทิยะกล่าวถึงว่า "ธุรกิจที่บริษัทดำเนินการจะเป็นกลุ่มสินค้าไฮเทคทั้งหมด เนื่องจากเทคโนโลยีถือเป็น Personal Passion ของผมเอง เมื่อได้มีโอกาสทำธุรกิจก็เอา Passion ของตัวเองผนวกเข้าไปในองค์กร นอกจากความเป็นสินค้าไฮเทคแล้ว เรายังมุ่งตอบโจทย์ Pain Point ของธุรกิจเฮลธ์แคร์ในประเทศไทย กล่าวได้ว่า วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) เป็นเฮลธ์เทคบริษัทแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ) เพราะเทคโนโลยีที่เรานำเข้ามามีความล้ำสมัยในหลายๆ ด้านและยังไม่สามารถผลิตในประเทศไทยได้"
ปัจจุบัน WINMED เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายชุดตรวจเพื่อการวิเคราะห์ วินิจฉัยและ/หรือบำบัดรักษา รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีธุรกิจในพอร์ตโฟลิโอ ดังนี้คือ
1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
HPV DNA TESTING ถือเป็นการตรวจแบบเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวีได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก ทำให้สามารถป้องกันและรักษาเชื้อเอชพีวีได้ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งวิธีนี้มีความแม่นยำอย่างมาก ต่างจากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกวิธีอื่นๆ ในปัจจุบัน)
"ในเซ็กเม้นท์ Woman Health Care เราเป็นอันดับ1 ของการตรวจมะเร็งปากมดลูก และครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 75% หมายถึงไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชน 3 ใน 4 ของการการตรวจมะเร็งปากมดลูกจะเป็นสินค้าของเรา" นันทิยะ กล่าว
2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผู้บริโภค
ทั้งนี้ สินค้าของบริษัทจะเน้นที่สินค้าจำเป็น แต่จะเน้นที่กลุ่มสินค้าใช้แล้วหมดไป ไม่เน้นการขายเครื่อง
Strategy
นันทิยะกล่าวถึงยุทธศาสตร์ของ WINMED ว่า
"เรามองที่โอกาสและปัญหาที่คนไทยมี เมื่อเลือกมาแล้วก็มาพิจารณาต่อว่า เราสามารถที่จะนำเทคโนโลยีมาแมตชิ่งด้วยได้หรือไม่ และโดยส่วนตัวก็เป็น Personal Passion ของตนเอง และเราได้ตั้งทีม Business Development ที่ทำงานกันอย่างใกล้ชิดกันมาหลายปี เพื่อหาสินค้ามาตอบโจทย์ Pain Point ของคนไทย ซึ่งหลักเกณฑ์ของการวางยุทธศาสตร์คือ การเลือกทำตลาดเฉพาะส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์ไฮเทค ซึ่งมีข้อดี คือ คู่แข่งน้อย และมองหา New S-Curve ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยังคงเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
ส่วนการคัดเลือกพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์นั้น เราพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของคู่ค้า และพิจารณาว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองหรือผ่านอย.ในประเทศแล้วหรือไม่ ที่สำคัญ เทคโนโลยีมีความทันสมัยจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในฟากของพันธมิตรเองก็พิจารณาศักยภาพของเราด้วยเช่นกันว่า 'ใคร' ในประเทศไทยที่จะมีโอกาสทำ 'อะไร' ให้ตนเองได้ประสบความสำเร็จสูงสุด"
นอกจากนี้ WINMED ยังเข้าลงทุนใน บริษัท โปรเฟสชั่นแนล ลาโบราทอรี่ แมเนจเม้นท์คอร์ป จำกัด (Pro-Lab) ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ (ห้องแล็บ) ซึ่งเป็นการให้บริการรับวินิจฉัย/ตรวจ และวิเคราะห์โรคเฉพาะทางหรือโรคติดต่ออันดับ 1 ในประเทศไทย โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 12.55% ทั้งนี้ ธุรกิจของ Pro-Lab มีส่วนช่วยในการตรวจหาโควิด-19 เชิงรุก ทั้งการตรวจลงพื้นที่ในโรงงาน ฯลฯ ตลอดจนตรวจหาโควิด-19 กับผู้ที่ต้องการรับบริการ ซึ่งนับเป็นการช่วยลดและบรรเทาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางอ้อมในประเทศไทยด้วยขณะเดียวกัน ก็จะมีแผนที่จะทยอยนำเข้าสินค้านวัตกรรมในอนาคตเพิ่มเติม เพื่อช่วยบรรเทาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน
มะเร็งปากมดลูก
จากประชากรของผู้หญิงที่ควรจะต้องเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก 21 ล้านคนต่อปีนั้น ปรากฏว่า ในทางปฏิบัติ มีเพียง 7 ล้านคนเท่านั้นที่เข้ามารับการตรวจกับโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ทำให้ประชากรผู้หญิงอีกราวๆ 14 ล้านคนยังตกอยู่ในภาวะเสี่ยง นี่จึงเป็นโอกาสของ WINMED ด้วยเช่นกัน
นันทิยะ ยอมรับว่า ข้อจำกัดทางด้านต่างๆ เช่น วัฒนธรรม ทัศนคติ เรื่องเพศถือเป็นเรื่องต้องห้าม ไม่ควรพูดถึง ความอาย กลัวเจ็บ ฯลฯ จึงทำให้ผู้หญิงอีก 14 ล้านคนมีความเสี่ยงกับโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้หญิงเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ทั้งที่โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่แพทย์หลายๆท่านยืนยันว่าถ้าพบเจอตั้งแต่ระยะแรกๆ สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ปัญหาของโรคนี้ ไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น เว้นจะเข้าสู่ระยะ 3-4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย
"สำหรับประชากรผู้หญิง 14 ล้านคนนี้ เราจึงเน้นตอบโจทย์ Pain Point ของผู้หญิงด้วยผลิตภัณฑ์ชุดตรวจด้วยตนเองหรือสถานพยาบาล และจำหน่ายผ่านทางโรงพยาบาล, คลินิก, ร้านขายยา และช่องทางออนไลน์ โดยการเก็บตัวอย่างจากช่องคลอดของตนเอง แล้วส่งกลับมาที่ห้องแล็บของที่บริษัท ซึ่งจะมีการรายงานผลให้กับลูกค้า/คนไข้ และหากพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกก็จะสามารถให้คำแนะนำได้ก่อนที่จะปัญหาจะบานปลาย"
มะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตหญิงไทยเป็นอันดับ 1 นั้น มีข่าวที่น่ายินดีเมื่อ รองศาสตราจารย์ นพ.กฤษณ์ จาฏามระ หัวหน้าศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อมะเร็งเต้านมโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้แถลงข่าวถึงความสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและหายขาดได้ด้วยการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด หรือ Immunotherapy และเพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ WINMED ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย และโรงเรียนแพทย์ทั่วประเทศ พร้อมทั้งสร้างห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self Collect) และก่อสร้างห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านงาน การเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยเซลล์บำบัด (Cell Therapy) อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนดังกล่าวยังเป็นขั้นตอนของการวิจัยเท่านั้นตามกฎหมายในประเทศไทย