เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในงาน IAA MOBILITY 2021 เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% 5 รุ่น
06 Sep 2021

งาน IAA MOBILITY ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีตั้งแต่วันที่ 7-12 กันยายน 2564 เมอร์เซเดส-เบนซ์จัดทัพยานยนต์ไฟฟ้าทั้งที่มีในปัจจุบันและอนาคตมาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่รุ่นคอมแพ็คและรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง ไปจนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์จะใช้ความแข็งแกร่งในการนำเสนอรถยนต์ภายใต้ซับแบรนด์ทั้งหมด ได้แก่ Mercedes-Benz, Mercedes-EQ, Mercedes-AMG, Mercedes-Maybach และ smart เพื่อตอกย้ำความเป็น “ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า” ในงาน IAA MOBILITY ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมด 8 รุ่น โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (fully electric) จำนวน 5 รุ่น และเป็นรถยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูง 1 รุ่น

 

เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ในทุกรุ่นกำลังได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้น โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบหลายรุ่นเป็นครั้งแรกของโลกที่งาน IAA Mobility ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่น EQE รถยนต์นั่งระดับลักชัวรีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่คันแรกจาก Mercedes-AMG และรถยนต์คอนเซ็ปต์ที่จะแสดงให้เห็นว่า Mercedes-Maybach ก้าวสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีรถยนต์รุ่น EQB ที่จะได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในยุโรป ในขณะที่ smart ก็พร้อมนำเสนอรถยนต์คันแรกในเจเนอเรชันใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบจากแบรนด์นี้ด้วย

 

 

รถยนต์นั่งพลังไฟฟ้าสำหรับผู้บริหารที่มอบทั้งความสปอร์ตและความสะดวกสบาย

Mercedes-EQ พร้อมแสดงให้เห็นผ่านรถยนต์รุ่น EQE ว่ารถยนต์นั่งพลังไฟฟ้าสำหรับผู้บริหารสามารถมอบความสปอร์ตและสะดวกสบายได้อย่างไรบ้าง โดยรถยนต์คันนี้ผสานไว้ด้วยสมรรถนะสุดโดดเด่นและการควบคุมรถเพื่อการเดินทางสุดผ่อนคลาย พร้อมทั้งยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ระดับเดียวกันด้วย นอกจากนี้พื้นที่ภายในยังกว้างขวาง ในขณะที่การออกแบบตัวถังเป็นเส้นโค้งเส้นเดียวต่อเนื่องกันทำให้ EQE มีบุคลิกที่แข็งแกร่งและโดดเด่น

 

รถยนต์ไฟฟ้าระดับลักชัวรีที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รุ่นแรกจาก Mercedes-AMG นี้คือสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นที่ชัดเจนของแบรนด์ในการหลอมรวมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ เข้ากับดีเอ็นเอที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นรถยนต์ AMG ซึ่งมิใช่เพียงการบ่งบอกถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการมอบประสบการณ์ทางอารมณ์ในการขับขี่ที่เหนือใครด้วยเช่นกัน

 

สำหรับรถยนต์ต้นแบบจาก Mercedes-Maybach พร้อมนำเสนอความประทับใจและความแม่นยำตั้งแต่แรกเห็นว่า เราพร้อมจะนำพาประวัติศาสตร์แห่งความหรูหราอันยาวนาน 100 ปีเต็มให้ก้าวต่อไปสู่ยุคใหม่ได้อย่างไร

 

รถยนต์รุ่น EQB ซึ่งมีความกว้างขวางนั้นบรรจุไว้ด้วยความโดดเด่นน่ามหัศจรรย์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องของอุปกรณ์ที่ครบครันตอบรับกับทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน โดยหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนไปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบขนาด 7 ที่นั่งคันนี้ก็พร้อมที่จะเปิดตัวในยุโรปเป็นครั้งแรกแล้วในวันนี้ นอกจากนี้ Mercedes-AMG ยังพร้อมนำเสนอรถยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูงรุ่นแรกจาก Affalterbach ภายใต้เทคโนโลยี E PERFORMANCE เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังยังมียานยนต์รุ่นใหม่ๆ มาพรีเมียร์เพิ่มเติมอีก ได้แก่ S-Class GUARD และ C-Class All-Terrain รุ่นแรก ที่สามารถขับขี่ในสภาพถนนที่และสภาพอากาศเลวร้ายได้อย่างง่ายดาย

 

Digital first: การเปิดตัวแบบล่วงหน้าหนึ่งคืนผ่านไลฟ์สตรีม

แทนที่จะเป็นการแถลงข่าวตามปกติ สื่อมวลชนและผู้สนใจสามารถติดตามการถ่ายทอดสดแบบล่วงหน้าหนึ่งคืนได้ในวันที่ 5 กันยายน เพื่อร่วมฟังการพูดคุยรายละเอียดว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกได้อย่างไร จากทีมผู้บริหาร ได้แก่ มร.โอลา คัลเลเนียส ประธานบริหาร บริษัท เดมเลอร์ เอจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี, มร.บริตตา ซีเกอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเดมเลอร์   เอจีและเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการตลาดและการขาย และมร.มาร์คุส เชฟเฟอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเดมเลอร์ เอจีและเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการวิจัยของเดมเลอร์ กรุ๊ป และดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คาร์ส รวมถึง มร.ฟิลิปป์ ชีเมอร์ ผู้อำนวยการกลุ่มรถยนต์ระดับท็อปเอนด์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี

 

ทั้งนี้ นอกจากการไลฟ์สตรีมจะเป็นส่วนหนึ่งของงาน IAA ที่ถ่ายทอดผ่านสื่อของ Mercedes me แล้ว ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีการถ่ายทอดสดผ่านโซเชียลมีเดียไปพร้อมกันด้วย ซึ่งด้วยเทคโนโลยี AR  ผู้ชมยังสามารถรับประสบการณ์ดิจิทัลผ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้อีกด้วย โดยเนื้อหาเพิ่มเติมทางสื่อของ Mercedes me พร้อมให้ข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับรถยนต์ที่เป็นไฮไลต์ในงานแก่สื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นข่าว ภาพ ภาพกราฟิก และวิดีโอมากมาย

 

แนวคิดใหม่จาก IAA: การเผยโฉมหลากหลายมุมมองของเมอร์เซเดส-เบนซ์

 

 

ที่งาน IAA MOBILITY 2021 ในเมืองมิวนิก เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์และการมอบประสบการณ์ที่มุ่งเน้นการสร้างบทสนทนา นอกเหนือจากการนำเสนอรถยนต์แล้ว แนวคิดนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรม ดิจิทัล และมีความยั่งยืนสำหรับอนาคตของการขับเคลื่อน การพลิกโฉมการจัดงานที่มีมาอย่างยาวนานนี้ทำให้เกิดบรรยากาศที่แปลกใหม่ โดยเฉพาะกับการนำเสนอออกมาในรูปแบบ Open Space และ Blue Lane ใหม่

 

Open Space ได้พลิกโฉมบางส่วนของใจกลางเมืองมิวนิกตลอดระยะเวลาของการจัดงาน IAA MOBILITY ให้กลายเป็นเวทีสำหรับการนำเสนอแนวคิดด้านเทคโนโลยีและการขับเคลื่อนในอนาคต ประสบการณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ภายใน Open Space จะได้รับการนำเสนออย่างโดดเด่นกลางจัตุรัสโอเดออนส์ปลัซ โดยรถยนต์ทั้งหมดที่จัดแสดงล้วนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบจาก Mercedes-EQ, Mercedes-AMG, Mercedes-Maybach และแบรนด์ smart สำหรับชั้นบนได้รับการออกแบบให้นำเสนอภูมิทัศน์ที่ร่มรื่นผ่านนิทรรศการในหัวข้อ “การปกป้องสภาพอากาศและอากาศบริสุทธิ์” “การอนุรักษ์ทรัพยากร” และ “เมืองที่น่าอยู่” และเพื่อให้สอดรับกับกระแสความสนใจของสังคมในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังนำเสนอแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้คนในท้องถิ่นและผู้มาเยือนมิวนิกได้พบปะและพูดคุย โดยมี Blue Lane มาช่วยสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างเมืองและศูนย์กลางการจัดนิทรรศการ ด้วยการเป็นเส้นทางทดสอบรถยนต์ที่ผู้คนสามารถสัมผัสประสบการณ์ของการขับเคลื่อนแห่งอนาคตได้อย่างเต็มที่

 

ความโดดเด่นของการนำเสนอยานยนต์ไฮไลต์และพื้นที่จัดงานภายใต้ธีมของการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

คอนเซ็ปต์หลักคอนเซ็ปต์ที่ 3 ของแนวคิดใหม่ของงาน IAA ก็คือการจัดงานซัมมิทภายในศูนย์กลางการจัดนิทรรศการ ซึ่งที่นี่ บูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในฮอลล์ B3 ได้ถูกออกแบบให้เป็นเวทีสำหรับรถยนต์ไฮไลต์ รวมถึงการจัดการพื้นที่ตามธีมต่าง ๆ ที่แสดงออกถึงแง่มุมต่างๆ ของการขับเคลื่อนแห่งอนาคต โดยโฟกัสไปที่การก้าวสู่การเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ นิทรรศการ ASSIST ที่บอกเล่าธีมต่างๆ เช่น ระบบช่วยเหลือ ผู้ขับขี่และการขับขี่อัตโนมัติ นิทรรศการ MOBILE ที่โฟกัสไปที่บริการดิจิทัล เช่น Mercedes me, EQ ready และ Mercedes me Green Charging ส่วนนิทรรศการ FUTURE ให้มุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ในอนาคต เช่น การเชื่อมต่อไบโอเมตริกซ์ระหว่างรถยนต์และผู้ขับขี่ สำหรับนิทรรศการ IN CAR จะแสดงให้เห็นถึงสิ่งต่างๆ เช่น ระบบมัลติมีเดีย MBUX ที่ทำงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และ MBUX Hyperscreen ใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงรถยนต์ต้นแบบ VISION AVTR เป็นครั้งแรกในยุโรปอีกด้วย ทั้งนี้ สิ่งที่

เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญในการประชุมซัมมิทครั้งนี้คือ การได้มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยในระหว่างการแถลงข่าวในวันที่ 6 และ 7 กันยายน เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยแบบอภิปรายเชิงลึกและการสาธิตเทคโนโลยีด้วย

 

การประชุมซัมมิทในครั้งนี้ยังมีการประชุมเชิงการให้ข้อมูลที่เรียกว่า IAA MOBILITY Conference ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน โดยมีวิทยากรหลายท่าน อาทิ มร.โอลา คัลเลเนียส และมร.บริตตา ซีเกอร์ มาร่วมพูดคุยในหัวข้อการขับขี่อัตโนมัติและระบบดิจิทัล

 

เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วโลก โดยมีมร.โอลา คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น บริษัทยังมีเจตนารมณ์ที่จะเป็นผู้นำในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ยานยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์  และซับแบรนด์ต่างๆ ได้แก่ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี, เมอร์เซเดส-มายบัค, เมอร์เซเดส-อีคิว, G-Class และแบรนด์สมาร์ต แบรนด์ Mercedes me พร้อมมอบการเข้าถึงบริการดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับพรีเมียมรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2563 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 2.1 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 375,000 คัน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตกว่า 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้าในขณะเดียวกันบริษัทกำลังสร้างและขยายเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกใน 3 ทวีป และเพราะความยั่งยืนคือแนวทางพื้นฐานทั้งในกลยุทธ์ของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์และสำหรับบริษัทฯ บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พนักงาน นักลงทุน คู่ค้าทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเดมเลอร์ ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ของบริษัทฯ และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม

 

[อ่าน 1,131]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“นิโตริ” ตัวจริงเรื่องแต่งบ้านสัญชาติญี่ปุ่น เปิดสาขาที่ 5 สยาม ทาคาชิมายะ ณ ไอคอนสยาม
King’s Bangkok สานต่อความมุ่งมั่น สู่โอกาสทางการศึกษาระดับโลก
ซูเปอร์สปอร์ต X อาดิดาส จัดงานวิ่งกลางกรุง 'Supersports 10 Mile Run Series 2024 Bangkok Presented by adidas'
ทรู คอร์ปอเรชั่นชวนเที่ยวใต้แล “เกาะลับ สัญญาณล้ำ” เมืองสุราษฎร์ฯ สวยจังฮู้
มาสด้าเผยเทคโนโลยีแห่งอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าพลังโรตารี่ Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV
นีเวีย ซัน จับมือ วัตสัน “เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved