ธุรกิจ MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions หรือบางครั้ง C หมายถึง Conferencing และ E หมายถึง Events) ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ ทั้งนี้ MICE ถือเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพียงแต่นักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE มีวัตถุประสงค์หลักในการเดินทางอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น การเดินทางเพื่อร่วมประชุมบริษัท การท่องเที่ยวจากรางวัลที่ได้รับ การเข้าร่วมงานประชุมนานาชาติ หรือการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าหรือนิทรรศการนานาชาติ และถือเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีกำลังซื้อสูง
ทว่า วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจ MICE ทำให้ไม่สามารถจัดงานที่มีผู้คนมากมายมาร่วมงานเช่นนี้ได้ เนื่องจากข้อห้ามทั้งการเดินทางระหว่างประเทศ การรักษาระยะห่างทางสังคม และอื่นๆ ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ปรับตัวจัดงานแบบออนไลน์ และจัดงานแบบเสมือนจริง (Virtual Event)
ในฐานะที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เป็นองค์กรหนึ่งที่มีบทบาทเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและจัดงานแสดงสินค้า (Trade Fair : เทรดแฟร์) ปีละกว่าร้อยงาน และถือเป็นกรณีศึกษาของ Connect The Dots ในแง่การปรับตัวสำหรับการจัดเทรดแฟร์ในยุค New Normal ที่สามารถนำไปสู่มูลค่าการส่งออก นำรายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาล โดยในปีนี้สามารถสร้างมูลค่าจากการค้าระหว่างประเทศ 3.3 หมื่นล้านบาท
Strategic Thinking
นันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้เปิดประเด็นถึงแนวคิดเชิงยุทธ์ (Strategic Thinking) ของแนวทางการจัดงานเทรดแฟร์ในอนาคต เปิดเผยว่า
โควิด-19 ทำให้ 'การรวมกลุ่ม' และ 'การเดินทาง' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการจัดงานแสดงสินค้าไม่สามารถทำได้ ทำให้ DITP ปรับตัวด้วยการใช้ Digital Disruption เข้ามาตอบโจทย์ และมีแนวคิดเชิงยุทธ์ของการเปลี่ยนผ่าน (Transformation) เป็น 3 เฟส ประกอบด้วย 'ตั้งรับ - ปรับตัว - หาโอกาส'
เฟส 1 ตั้งรับ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการปรับตัวจากการจัดงานแบบ Physical สู่รูปแบบการจัดงานแบบออนไลน์ โดย DITP ตั้งรับเมื่อสองปีก่อน ทำให้เราปรับตัวได้ว่า จะปรับตัวสู่ New Normal และ Digital Disruption อย่างไร นั่นคือ ฐานคิดจาก 2 ข้อจำกัดหลัก นั่นคือ
Virtual Trade Show งานแรก คือ MOVE งานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าทางด้านมัลติมีเดีย ซึ่งนำเสนอทางออนไลน์ได้ โดยมีเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลทางด้านการจับคู่ทางธุรกิจบนออนไลน์ (Online Business Matching: OBM) การติดต่อประสานงาน การซื้อขาย
เฟส 2 ปรับตัว เฟสนี้ถือเป็นเฟสที่มีความสำคัญ ด้วยว่า เป็นเฟสที่ต้องตีโจทย์ว่า จะทำอย่างไรกับการประยุกต์วิธีคิดจากการตั้งรับในเฟส 1 พร้อมทั้งประยุกต์แนวคิดกับการจัดงาน 'ทุกงาน' ที่เกิดขึ้น เนื่องจาก DITP จัดงานปีละกว่า 100 งาน โนวฮาวที่ได้จากเฟส 1 จะนำมาปรับใช้อย่างไร เสมือนเป็น 'แนวคิดแม่แบบ' เพื่อให้สวมกับการจัดเทรดโชว์ที่มีคาแรกเตอร์ของงานที่แตกต่าง หลากหลายได้
ในการทำงานของเฟสนี้ DITP มีปัจจัยสู่ความสำเร็จ 3 ประการ ประกอบด้วย
Virtual Trade Show ถือเป็นการสร้างช่องทางและโอกาสให้กับผู้ประกอบการในการเข้าถึงผู้ซื้อผู้นำเข้าจากทั่วโลก และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถ 'ตั้งรับ ปรับตัว และหาโอกาส' ภายใต้วิกฤติที่เกิดขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบสู่การให้บริการด้านการตลาดเพื่อเร่งรัดการส่งออกในยุค New Normal อันเป็นหนึ่งใน 14 แผนงานสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ตามนโยบายของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์
รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ต้องเข้าใจด้วยว่า Systematic is not everything -ระบบไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ระบบแนวคิดเดียวไม่ได้ตอบโจทย์ในทุกเรื่อง หากแต่ต้องเพิ่ม 'ความยืดหยุ่น และ ความคิดสร้างสรรค์' (Flexibility & Creativity) เพื่อให้ตอบโจทย์กับ คาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันของงานเทรดแฟร์แต่ละงานด้วย
ยกตัวอย่าง งานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่ทางออนไลน์ ปกติงานลักษณะนี้เป็นงานที่ผู้ซื้อผู้ขายต้องมาพบปะกันจริงๆ นั้น เนื่องจากต้องยอมรับว่า อัญมณีบางชนิด โดยเฉพาะพลอยยังต้องดูสินค้ากันจริงๆ อยู่ นำเสนอผ่านออนไลน์ไม่เวิร์ก ดังนั้น DITP จึงต้องเลือกสินค้าบางตัวเพื่อนำเสนอทางออนไลน์
เฟส 3 หาโอกาส เป็นเฟสของการจัดงานเทรดโชว์ในอนาคต เป็นโฟกัสกับปัจจัย ดังนี้
Mix & Match
การปรับตัวเพื่อจัดงานเทรดแฟร์ยุค New Normal ซึ่งต้อง Mix & Match กับแต่ละงานที่มีความแตกต่างกัน ประกอบด้วย การจัดงานแบบ Hybrid, Virtual, Online Business Matching (OBM) และ Mirror & Mirror (M&M)
ทั้งนี้ นันทพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
"แนวคิดเดียวไม่ได้ตอบโจทย์ทุกอย่าง รูปแบบการจัดงานเทรดแฟร์ก็เช่นกันที่ต้องมีการพลิกแพลง ด้วยการจัดงานแบบผสมผสาน (Hybrid) ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ในกรณีที่จัดงานแบบ Physical ไม่ได้เพราะไม่สามารถเดินทางหรือรวมกลุ่มได้ เนื่องจาก ศบค.มีมาตรการที่เข้มงวด
DITP ก็เปลี่ยนเป็นการจัดงานแบบ Virtual เมื่อผ่านเฟส 1 ได้โนวฮาวของการจัดงานมาแล้ว แต่การจัด Virtual เป็นงานใหญ่ต้องใช้งบประมาณ ก็ทำให้มีการปรับตัวด้วยการจัดงานงานเล็กๆ หลายๆ ครั้งเป็นการจัดงานเพื่อจับคู่ทางธุรกิจออนไลน์ (OBM) ได้ด้วย นอกจากนี้ ในกรณีที่จัดงานแบบ OBM แล้วยังไม่สามารถที่จะเห็นสินค้าได้อีก เราก็มีการจัดงานแบบ M&M โดย DITP ส่งสินค้าไปต่างประเทศ และทูตพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนของประเทศ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง เพื่อทำหน้าที่ช่วยเจรจา และเชื่อมโยงระหว่างผู้นำเข้าในต่างประเทศและผู้ส่งออกของไทยเข้าด้วยกัน"
ทั้งนี้ ในการเปลี่ยนผ่านจากการจัดงานเทรดโชว์ไปสู่ออนไลน์ให้ได้ประสิทธิภาพนั้น จะต้อง Mix & Match 3 องค์ประกอบสำคัญ นั่นคือ Tech X Resource X Creativity เพื่อให้เกิด KPI สูงสุด ซึ่งเป็น Key Success ในส่วนของ Result Base
Strategic Approach
"กลยุทธ์การจัดงานเทรดแฟร์ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์นั้นยังมีโจทย์ที่สำคัญ คือ ทำอย่างไรจึงจะสร้างความสมดุลระหว่างการจัดงานแบบ Physical และออนไลน์ (Degree of Physical to Online) ให้เกิดมูลค่าการค้า (Trade Value) ที่สูงสุด ควบคู่กับความเท่าเทียม (Equality) ในระดับที่สูงด้วย อันเป็นภารกิจที่เราทำในฐานะที่เป็นหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งนี่เท่ากับการทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Maximization) ใน 2 ด้าน นั่นคือ
1) มูลค่าที่เกิดขึ้นกับการเจรจาการค้า ซึ่งสุดท้ายก็คือ มูลค่าส่งออกนั่นเอง
2) การที่ผู้ประกอบการ หรือผู้ประกอบการในภูมิภาคสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวที่กล่าวถึงอาจจะดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ง่ายนักในทางปฏิบัติ เพราะในการทำงานจริงกับการวางแผนอาจไม่ใช่อย่างที่คิด ระหว่างทางของการทำงานอาจมีสิ่งที่ไม่คาดคิดหรือคาดไม่ถึง หรือมีปัญหา/อุปสรรคต่างๆ เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ในการทำงานจึงเป็น 'การเรียนรู้ที่เกิดจากการทำงาน' หรือ Learning by Doing อยู่ตลอดเวลา และเป็นผลทำให้การปรับตัวสำหรับการจัดงานเทรดแฟร์ประสบความสำเร็จ" นันทพงษ์ กล่าว
'การเชื่อมต่อแต่ละจุด' หรือ Connect The Dots ของ DITP จึงยังต้องอาศัยการสั่งประสบการณ์การเรียนรู้จากการทำงานแต่ละงาน เพื่อต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในเวทีการค้าของโลก
ทั้งนี้ นันทพงษ์ ให้ข้อคิดในตอนท้าย ว่า
"การปรับตัวสำหรับการจัดงานเทรดแฟร์ในอนาคตที่มาจาก 3 เฟส ซึ่งได้แก่ 'ตั้งรับ ปรับตัว และหาโอกาส' นั้นจะเป็นพื้นฐานที่ทำให้เราเข้มแข็ง และใช้พื้นฐานตรงนั้นมาปรับแก้/ประยุกต์ใช้กับงานต่างๆ ให้ได้ เมื่อเกิด Learning Curve ก็จะสามารถนำมาปรับตัวเพื่อหาโอกาสในอนาคตได้"