เนสท์เล่ชูโมเดลบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สู้วิกฤตโลกรวน
13 Dec 2022

เนสท์เล่ บริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนทุกมิติในประเทศไทย ตลอดระยะเวลากว่า 130 ปี โดยยึดมั่นเจตนารมณ์ในการเปิดพลังแห่งอาหาร เพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อทุกคนในวันนี้ และในอนาคต ทำให้เนสท์เล่เป็นบริษัทที่ครองใจผู้บริโภคไทยมานานกว่าศตวรรษ

วิกฤตโลกรวนเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไข เนสท์เล่ ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา “Good food, Good life อาหารที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี” นอกจากจะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อผู้คนแล้ว เนสท์เล่ยังมุ่งขับเคลื่อนชูโมเดลการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก การลดคาร์บอน การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน และการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero เพื่อโลกที่น่าอยู่ให้ทุกคนในวันนี้ และคนรุ่นต่อไป

 

 

ในประเทศไทย มีผู้บริโภคหลายล้านคนทั่วประเทศซื้อผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ทุก ๆ วัน ทำให้บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนสท์เล่จึงมุ่งมั่นเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้เป็น บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก โดยออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งตอนนี้บรรจุภัณฑ์ของเนสท์เล่กว่า 93% แล้วที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถรีไซเคิลได้ พร้อมมีแผนจะลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ลง 1 ใน 3 ภายในปี พ.ศ. 2568 ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ไอศกรีมเนสท์เล่หลายตัวได้เปลี่ยนมาใช้ซองกระดาษ ทดแทนการใช้พลาสติก และผลิตภัณฑ์ ยูเอชทีของบริษัททั้งหมดได้เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษ อีกทั้งผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ และ น้ำแร่ธรรมชาติ มิเนเร่ มีการใช้ขวด PET ใสที่สามารถรีไซเคิลหมดทุกส่วน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและภาครัฐในการผลักดันการใช้พลาสติกรีไซเคิลจากขวด PET ในการผลิตขวดเครื่องดื่มใหม่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู และ ไมโล ได้ใช้บรรจุภัณฑ์แบบ monostructure ที่ผลิตจากพลาสติกตระกูลเดียวกัน ทำให้นำไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น เนสกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มยังเปลี่ยนมาใช้กระป๋องอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาที่รีไซเคิลได้ 100%

 

 

การลดคาร์บอน เพื่อปกป้องชั้นบรรยากาศของโลกถือเป็นวาระสำคัญของบริษัทใหญ่ทุกแห่ง เนสท์เล่ตั้งเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ.2593 โดยนำร่องการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในการขนส่งผลิตภัณฑ์คิทแคทแบบควบคุมอุณหภูมิ รถสามล้อไฟฟ้าขายไอศกรีมเนสท์เล่

รวมถึงตั้งเป้าเปลี่ยนกลุ่มรถยนต์ผู้บริหารให้เป็นรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินงานไปสู่เป้าหมายในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2568 โดยโรงงานของเนสท์เล่ 5 ใน 7 แห่งได้มีการติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อเริ่มใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

 

 

ในฐานะที่เนสกาแฟเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของตลาดกาแฟในประเทศไทย เนสท์เล่ตั้งเป้าผลิตกาแฟที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน 100% ภายในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งปัจจุบัน สามารถทำได้สำเร็จแล้วตามเป้าหมาย โดยเมล็ดกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้าที่จัดซื้อในประเทศไทย 100% ได้ผ่านการรับการรับรองว่าเป็น Sustainably Sourced ตามหลักปฏิบัติในการทำสวนกาแฟตามมาตรฐานสากล 4C (Common Code for Coffee Community)

 

 

เนสท์เล่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟอย่างจริงจัง ผ่านโครงการ เนสกาแฟ แพลน โดยมอบต้นกล้ากาแฟกว่า 3.5 ล้านต้นให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟชาวไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 พร้อมทั้งส่งเสริมทฤษฎีเกษตรฟื้นฟู หรือ Regenerative Agriculture ซึ่งเป็นแนวทางในการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย

โดยเน้นการปรับปรุงคุณภาพดินและความอุดมสมบูรณ์ พร้อมฟื้นฟูดูแลทรัพยากรน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ  นอกจากนี้ เนสท์เล่ยังได้จัดโครงการฝึกอบรมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟกว่า 2,000 คน และช่วยให้เกษตรกรกว่า 2,500 คนได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืน 4C

 

 

การดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เป็นหนึ่งในสิ่งที่เนสท์เล่ให้ความสำคัญ บริษัทได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจน้ำดื่ม เนสท์เล่ยังได้ให้คำมั่นสัญญา Water Positive Pledge ซึ่งหมายถึงการทดแทนน้ำกลับคืนสู่ธรรมชาติและชุมชนในปริมาณที่เท่ากับบริษัทใช้ในการดำเนินธุรกิจน้ำดื่ม เพื่อชุมชนรอบโรงงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสุราษฎร์ธานี ซึ่งโรงงานทั้งสองแห่งนี้ เป็นเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนระดับสากลจาก Alliance for Water Stewardship (AWS) นอกจากนี้ เนสท์เล่ยังสานต่อการจัดโครงการ “เยาวชนพิทักษ์สายน้ำ” เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูคุณภาพน้ำ เพิ่มจำนวนสัตว์น้ำในคลองขนมจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

 

ในปี 2564 เนสท์เล่ ได้เปิดตัวแคมเปญ "เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้” (Every Little Act Matters) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยปรับพฤติกรรม เริ่มจากทีละเล็กละน้อย ช่วยกันปกป้องโลกของเรา โมเดลการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเนสท์เล่ เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของภาคเอกชนในการสู้วิกฤตโลกรวน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น เพื่อวันนี้และคนรุ่นต่อไปในอนาคต

[อ่าน 1,478]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โก โฮลเซลล์ สนับสนุน นมคุณภาพสูงล้านนา “เชียงใหม่เฟรชมิลค์”
แม็คยีนส์ เปิดซีรีส์ “Mc Premium Basic” ชูความพรีเมียม เรียบง่ายแต่ดูดี แมทช์ง่ายในทุกลุค
Sea (ประเทศไทย) และพันธมิตร เดินหน้าจัดโครงการ “Women Made: Girl in STEM”
เอ็มจี นำกลยุทธ์ Music Marketing เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ กับ NEW MG S5 EV
มินิ มิลเลนเนียม ออโต้ ร่วมฉลองครบรอบ 66 ปี รถยนต์ มินิ
“จระเข้” ผู้นำเบอร์หนึ่งวงการปูกระเบื้อง บุกเวียดนาม ลุยจัดการแข่งขัน "Crocodile Tiler X"
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved