เอสซีจี รุกธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร มุ่งลดต้นทุน รับมือราคาพลังงานพุ่ง
08 Feb 2023

เอสซีจี บุกธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร มุ่งลดต้นทุน รับมือราคาพลังงานพุ่ง ตั้งเป้าโต 4 เท่าในปีนี้  พร้อมส่ง เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ เพื่อนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญให้บริการลูกค้าภายนอก เจาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน บริษัทขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า เชนโรงแรม – โรงพยาบาลที่ใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก แต่ต้องการลดต้นทุนค่าไฟ ด้วย 3 จุดเด่น และ นอกจากนี้ ยังมีส่วนงาน Green Circularity Business ที่มุ่งพัฒนาเม็ดพลังงานชีวมวลคุณภาพสูง จากวัสดุเหลือใช้การเกษตร ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทนเป็น 34% จาก 26% ในปีก่อน 

 

 

สืบเนื่องจากการที่เอสซีจีประสบปัญหาราคาพลังงานพุ่ง ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม จึงมุ่งพัฒนาโซลูชั่นของตนเองและใช้พลังงานทางเลือก เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว และส่วนหนึ่งก็เป็นที่มาของการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลส์ เพื่อใช้ในโรงงานของเอสซีจีทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวทำให้เอสซีจีสามารถลดต้นทุนได้จริงและลดได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อรรถพงศ์ สถิตมโนธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กล่าวว่า


เอสซีจีเชื่อมั่นว่า การขยายธุรกิจพลังงานสะอาด ทั้งจากการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์และพลังงานชีวมวล จะมีศักยภาพสูง ตอบโจทย์ความคุ้มค่าและความสะดวกของลูกค้าตามเมกกะเทรนด์รักษ์โลก และแนวทาง ESG 4 Plus ที่เอสซีจีและเครือข่ายผู้ประกอบการต่างๆ มีส่วนร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ตามเป้าหมายประเทศและโลกด้วย”  

 อรรถพงศ์ สถิตมโนธรรม

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด


 

“เอสซีจี ได้นำความเชี่ยวชาญจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มเคมีคัล และกลุ่มเคมีภัณฑ์มาต่อยอดเป็น ‘ธุรกิจให้บริการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดครบวงจร’ เพื่อให้บริการกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่ใช้ไฟฟ้าปริมาณมากและต่อเนื่อง แต่ต้องการลดต้นทุนค่าไฟ อาทิ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เครือข่ายโรงงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ โดยมีบริการครบวงจร อาทิ การขออนุญาตติดตั้ง การคำนวณงบลงทุนและการคืนทุน การซ่อมบำรุง/ดูแลรักษา ฯลฯ”

 

 

 

   

การส่งมอบบริการจาก เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ นั้นแน่นอนว่า ยิ่งมีลูกค้าที่ทดลองใช้มากเท่าไรก็จะยิ่งเป็นผลดีกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเท่านั้น และจากการที่ธุรกิจขนาดใหญ่ตอบรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดก็จะยิ่งจะเท่ากับเป็นกรณีตัวอย่างที่จะมีการตอบรับกันอย่างแพร่หลายในวงกว้าง โดยเฉพาะจากจุดเด่นของ เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ ซึ่งประกอบด้วย

  • ‘ซื้อ-ขายไฟ Smart Grid’ คุ้มค่า ลดต้นทุนพลังงานจากกระแสไฟฟ้าที่ผลิตโดยแผงโซลาร์ ซึ่งติดตั้งทั้งบนพื้นดิน หลังคา ผืนน้ำ และที่ดินว่างเปล่า โดยสามารถซื้อ-ขายไฟฟ้าได้ เมื่อผลิตเกินความต้องการใช้ ด้วยนวัตกรรมระบบเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid)

แผงโซลาร์ ติดตั้งบนหลังคา  (SOLAR ROOF TOP) สินทรัพย์ที่โรงงาน หรือองค์กรธุรกิจยังใช้ประโยชน์จากหลังคาบนอาคาร เพื่อสร้างรายได้ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอื่นๆ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อีทางหนึ่ง


แผงโซลาร์ บนผิวดำ ที่ บึงบ้านช้าง สระบุรี ใช้วัสดุกรีนโพลิเมอร์ และเป็น Food Grade ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสัคว์น้ำในบึง อีกทั้งการติดตั้งก็คำนึงถึงวิถีชีวิตปกติองผู้คนในชุมชนด้วย


 

  • ‘คู่คิดครบวงจร’ อำนวยความสะดวก ด้วยทีมวิศวกรมืออาชีพที่ให้คำปรึกษาทั้งก่อน – หลังติดตั้งแผงโซลาร์ตลอดอายุสัญญา อาทิ การขออนุญาตติดตั้งแผงโซลาร์ การคำนวณต้นทุนและกำลังการผลิตที่เหมาะสม การซ่อมบำรุง 

วัสดุทำจากรีนโพลิเมอร์ และบทบาทการเป็นคู่คิดอย่างครบวงจรของ เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า


  • ‘ดูแลทุกขั้นตอนด้วยโรบอท’ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีโดรนบินสำรวจแผงโซลาร์ที่ชำรุด (Drone Inspection) แจ้งเตือนให้ซ่อมบำรุง และ หุ่นยนต์ทำความสะอาดแผงโซลาร์ (Robot Cleaning)

 

การดูแลทุกขั้นตอน ด้วยการใช้โดรนที่ติดแผงโซล่าร์ เพื่อให้พลังงานกับตนเอง และใช้บินสำรวจแผงโซล่าร์ทมี่ชำรุก แทนแรงงานคนเพื่อส่งรายงานให้ทีมควบคุมทราบ และการใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดแผงโซลาร์ (Robot Cleaning) แผงโซลาร์


 

ทั้งนี้ อรรถพงศ์ กล่าวถึงฐานลูกค้าของ ‘เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่’ ว่า บริษัทฯ มีฐานลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ทั้งในไทยและอาเซียน อาทิ โตโยต้า ศูนย์ผลิตผลิตภัณฑ์จากพลาสมาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย  มีกำลังการผลิตรวมกว่า 234 เมกกะวัตต์  ล่าสุด ติดตั้งแล้วที่กลุ่มบริษัทสหยูเนี่ยน บางปะกง ซึ่งช่วยลดต้นทุนพลังงาน 30%  และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 3,700 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4 เท่าภายในปี 2566  พร้อมทั้งตั้งเป้าขยายธุรกิจสู่อาเซียน อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย เนื่องจากมีเครือข่ายของเอสซีจีอยู่ในประเทศเหล่านั้นมาก่อน ขณะเดียวกัน ก็ได้ตั้งงบลงทุน วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีกว่า 3,000 ล้านบาท  เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่รักษ์โลก”  

 

 

นอกจากนี้ วิสุทธ  จงเจริญกิจ Green Circularity Business Director เอสซีจี ยังกล่าวถึงการมุ่งนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และความเชี่ยวชาญด้านพลังงานมาเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและลดปริมาณขยะจากวัสดุการเกษตรว่า 

 

“ประเทศไทยมีเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบอ้อย เปลือกข้าวโพดประมาณ 21 ล้านตัน/ปี   หากกำจัดด้วยวิธีการเผาก็จะก่อให้เกิดมลภาวะทั้งหมอก ควัน ฝุ่นละออง PM 2.5 และภาวะโลกร้อน เอสซีจีจึงนำความเชี่ยวชาญด้านพลังงานโดยใช้เทคโนโลยีการบีบอัดเศษวัสดุที่ทันสมัยให้เป็น ‘เม็ดพลังงานชีวมวล’ (Energy Pellet) สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทนเป็น 34% จาก 26% ในปีก่อน ทั้งนี้ เอสซีจีได้รับซื้อวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรกว่า 3 แสนตันทั้งใบอ้อย เปลือกข้าวโพด รากยางพารา ฟางข้าว แกลบ ฯลฯ จากพื้นที่จังหวัดรอบโรงงานปูนซีเมนต์ที่สระบุรี ลพบุรี  กาญจนบุรี อยุธยา ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย เพื่อลดการใช้พลังงานที่มีราคาพุ่งสูง  ประกอบกับนครศรีธรรมราช นครราชสีมา และเร่งพัฒนาเม็ดพลังงานชีวมวลในหลายรูปแบบ ทั้งชีวมวลประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Renewable Fuel) ทั้งด้านการใช้งานและค่าพลังงานอื่นๆ  เพื่อขยายเป็นธุรกิจในอนาคตด้วย”

 

เม็ดพลังงานชีวมวล (Energy Pellet)


 

 

 

 

 

 

 

 

 

[อ่าน 1,589]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มัดรวมโปรโมชั่นจูงใจ กระตุ้นกำลังซื้อ ในงาน BIG MOTOR SALE 2025
Tatler Ball 2025 “The Next Horizon: Shaping Tomorrow” ค่ำคืนแห่งเกียรติยศ แรงบันดาลใจ
อโกด้าเผยนานาชาติเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นรับศึก FIVB Volleyball Women's World Championship 2025
“Jungceylon Junior Soccer 2025” ศึกฟุตบอลจิ๋ว ภาคใต้
โก โฮลเซลล์ สนับสนุน นมคุณภาพสูงล้านนา “เชียงใหม่เฟรชมิลค์”
แม็คยีนส์ เปิดซีรีส์ “Mc Premium Basic” ชูความพรีเมียม เรียบง่ายแต่ดูดี แมทช์ง่ายในทุกลุค
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved